7 ก.ย. 2019 เวลา 00:33
ทำไมกัญชาถึงให้ใช้แค่ทางการแพทย์ มันปลอดภัย
ไม่ติด ไม่เคยทำใครตาย จริงมั้ย..? กัญชาเสรีดีรึปล่าว
(ของดมาม่าด้านการเมืองนะครับ)
1
ขออภัยที่หายไปนาน เนื่องจากมีโปรเจคล้นมือ กินเวลาชีวิตไปบ้าง เลยกว่าจะเข็นออกมาแต่ละอย่างช้านิดนึง แต่เขียนทั้งทีก็จะเขียนยาวๆทีเดียว ให้อ่านกันแบบจุใจ
ข่าวล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ใช้กัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยในบางโรคหรือภาวะได้แล้ว
แต่ยังอยู่ในการควบคุมดูแลใกล้ชิดของหมอที่เชี่ยวชาญ ไม่เหมือนยาพาราที่ไปซื้อได้ตาม 7-11 นะครับ
มาดูกันว่าทำไม กัญชา ต้นไม้พุ่มพันธ์นี้ ถึงกลายเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก
ในวันนี้ที่เรารู้จักกัน กัญชา ถูกใช้เป็นสารเสพติดมาก่อนที่จะรู้จักกันในฐานะของ ยา
แต่ในช่วงแรกที่มีการบันทึกเกี่ยวกับกัญชานั้น ถูกใช้เป็นสิ่งทอ เพื่อการใช้งานมากกว่าเอามาเสพ เอามากิน คือตอนนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่ากินแล้วมันฟิน ไม่งั้นคงเห็นคนนั่งแทะกระเป๋ากัญชาอยู่ตามทาง
แต่วันนั้นก็มาถึง ยุคที่เอามากินเนี่ย มันเริ่มจากประเทศที่มีการกินพิสดารที่สุดอย่างประเทศจีน ชาวจีนสมัยก่อนใช้น้ำมันกัญชานี่แหละครับ สกัดมาออกมาจากเมล็ดเพิ่เอามาทำอาหาร เมื่อได้ลิ้มลองก็เกิดอาการเคลิ้มๆฟินๆ (Euphoria) กินไปกินมาไม่รู้อะไรอร่อยกันแน่
แล้วมันทำให้เราฟินๆ เคลิ้มๆ ได้ยังไง (ฝรั่งเรียก get high อารมณ์เหมือนรู้สึกว่าลอยๆ ล่องไปในอวกาศ) ในกัญชาจะมีสาร 2 ตัวหลักๆ ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายคือ THC (Delta-9-tetrahydrocannabinol) และ CBD (cannabidiol) 2 ตัวนี้พบในกัญชาทั้งคู่ แต่อยู่กันคนละฝ่าย
ฝ่ายดีก่อนคือ CBD สารตัวนี้ หลังจากที่ศึกษามาแล้ว พบว่าจริงๆสมองเราก็หลั่งสารตัวนี้อยู่เหมือนกัน แต่ทำได้ในระดับที่พอเหมาะ ทีนี้พอเราได้ CBD เข้าสมองไป มันส่งผลให้เรารู้สึกโล่ง คลายกังวล ลดความเศร้าโศกเสียใจลงได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงอะไรมากนัก แต่ๆๆ CBD เนี่ย ไม่ทำให้เรารู้สึกเคลิ้ม ล่องลอยอะไรทั้งนั้น แค่แบบ เออ โล่งจัง หายเครียด ได้แค่นั้น
มาอีกฝั่งคือ THC ชื่อเต็มก็ยาวเกิน ตัวนี้แหละ ตัวดี มันทำให้เราคลายเครียดได้เหมือนกัน แต่สิ่งดี (มั้ง) อีกอย่างก็คือมันทำให้เรา ลอยยยยยย แต่ที่แย่กว่า CBD คือ ตัว THC นี้มีผลเสียต่อร่างกายมากกว่าเยอะ เช่นทำให้ปากแห้ง หิวน้ำ ใจสั่น ตอบสนองได้ช้าลง ความจำเสื่อม ยังมีอีกนะ
การที่มี 2 ตัวนี้อยู่ด้วยกัน มันจะคอย balance กัน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียของ THC มากเกินไป
ซึ่งเมื่อก่อนเนี่ย (ปี 1995) อัตราของสาร CBD : THC ในกัญชา อยู่ที่ประมาณ 1:14 จนมาที่สมัยนี้ (ปี 2004) มีการศึกษาว่าอัตราส่วนพุ่งขึ้นไปเป็น 1:80 ไปแล้ว
เนื่องจากการผสมพันธ์ของต้นกัญชา ที่คัดแล้วคัดอีก จนได้ความเข้าข้นของ THC ที่มากขึ้น (จริงๆกัญชามีหลายชนิด มีหลายสายพันธ์ย่อยๆ แต่ละแบบจะมีอัตราส่วนไม่เท่ากัน แต่การผสมข้ามสายพันธ์ + การตัดต่อพันธุกรรมในสมัยนี้ ทำให้มันเข้มข้นเกินไป - ใครอยากรู้ละเอียดลองหาดูใน netflix ได้ครับ)
เพราะงั้นคนที่บอกว่าใช้แล้วมันหายเครียดน่ะ มันก็หายเครียดได้จริงครับ แต่ผลอย่างอื่นที่หวังไว้อาจจะเป็นความรู้สึกล่องลอยของ THC ซึ่งมาพร้อมผลข้างเคียงอีกเพียบ
สาร THC ที่ปริมาณสูง นอกจากจะเกิดอาการอย่างที่บอกไปแล้ว มันยัง "เร่ง" การเกิดโรคจิตขึ้น (Psychosis) อีกด้วย ที่ใช้คำว่าเร่ง เพราะตัวมันเองไม่ได้ทำให้เกิดครับ แต่ในคนที่มีความเสี่ยงจะเกิด psychosis อยู่แล้ว มันจะเร่งทำให้เกิดเร็วกว่าเดิม
The starry night ของ van gogh's ทำให้สงสัยว่าเค้าจะมีภาวะ psychosis จากรูปที่วาดออกมา คล้ายกับลักษณะของคนที่เป็น psychosis เห็น
เพราะงั้นการจะเอากัญชามาทำเป็นยา จะต้องใช้การสกัดเท่านั้น เพื่อที่จะดึง CBD ออกมา แล้วโยน THC ทิ้งไป ซึ่งจะเอาไปสกัดเป็นยา ตอนนี้ใช้รักษาได้บางโรคเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่มีมะเร็งซักชนิดนะครับ
1. โรคจิตเภท (Schizophrenia)
2. นอนไม่หลับ (Insomnia)
3. ปลอกประสาทอักเสบ (Multiple sclerosis)
4. ลมชัก (Epilepsy)
5. พาร์กินสัน (Parkinson's)
1
นอกนั้นก็ใช้เพื่อแก้ปวดในผู้ป่วยระยะสุดท้าย (ที่อาจจะเป็นมะเร็ง) แต่อย่างว่า มันไม่ได้รักษามะเร็งครับ แต่ใช้ลดปวดจากโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นได้ครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดเป็น Fact ว่ากัญชาคืออะไร มีสารอะไร ส่งผลยังไง แค่นั้น ไม่ได้บอกว่าคนใช้นั้นผิดหรือไม่ผิด เพราะยังไงก็ต้องว่ากันตามกฎหมายเป็นหลักครับ (ซึ่งตอนนี้ผิด)
ในต่างประเทศ บางรัฐใน USA เปิดให้ใช้กัญชาเสรีได้ ถามว่าดีมั้ย บ้านเราควรทำบ้างมั้ย มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ เช่นตอนนี้บุหรี่ สุรา ก็เสรีในบ้านเรา แต่กัญชาล่ะ ควรรึปล่าว
ลองคิดภาพว่าไม่มีการเปิดเสรีกัญชา แต่ยังไงคนจะสูบ มันก็หาได้ครับ หาไม่ยากด้วย เพราะงั้นกัญชาที่คนเสพๆกัน มันจะไม่มีการควบคุมคุณภาพ ไม่มีปริมาณ ความเข้มข้นที่ชัดเจน (อย่างเหล้าเรารู้ว่ามี Alcohol กี่ % มีเขียนบอกชัดเจนอยู่ข้างขวด ไม่ใช่ทุกคนที่อยากกิน % สูงๆเพื่อให้เมาเละ ถูกมั้ยครับ)
กัญชาก็เช่นกัน ถ้าเราเปิดเสรี คนที่ต้องการเสพกัญชา เพื่อความผ่อนคลาย อยากจะ go high but not too high อาจจะไม่ต้องไปเสี่ยงกับกัญชาชงมือ กินไปก็ลุ้นเอาเอง
คนที่จะเสพหนักก็จะรู้ตัวว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ขนาดไหนดี แค่ไหนควรจะหยุด
ถ้าคิดอีกแง่นึงว่าเหล้า บุหรี่ยังเปิดเสรีได้ ทำไมกัญชาที่ถ้าเทียบความรุนแรงแล้วน้อยกว่า 2 อย่างนี้ซะอีก กัญชามีโอกาสติดน้อยกว่าซะอีกนะครับ เทียบเป็น % คนที่ลองใช้กัญชา แล้วติดจะมีอยู่ประมาณ 10% ส่วนเหล้า 16% บุหรี่จัดไป 30% เน้นๆ แถมผลเสียจากเหล้าบุหรี่ก็ชัดเจนกว่ามาก ตับแข็ง ตับวาย เลือดออกในทางเดินอาหาร ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด หลอดเลือดอุดตัน อัมพาตทั้งหลาย เหล้า บุหรี่หนักกว่าเน้นๆ ฟังดูแล้วเริ่มเอนเอียงอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจครับ
แต่ปัญหาที่ตามมาล่ะ มันเป็นการดึงคนให้เข้าสู่เส้นทางของยาเสพติด ทำให้มันดูเข้าถึงง่าย ดูไม่น่ากลัว แต่มันไม่ใช่ มีการศึกษาว่าเด็กวัยรุ่นที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงที่จะติดเหล้ามากกว่าเด็กที่ไม่สูบบุหรี่ 4-5 เท่า เสี่ยงที่จะติดยา ใช้สารเสพติดมากกว่า 7 เท่า แล้วยังไม่นับความเสี่ยงทางสุขภาพอื่นๆที่รับรองว่าได้ไม่คุ้มเสีย (ดูจากเหล้า บุหรี่ ก็พอนึกภาพออก)
กัญชาอาจจะเป็นจุดเริ่มต้น เป็นก้าวแรก ในอนาคตต่อไปมีโอกาสจะพัฒนาเป็นยาบ้า เฮโรอีน โคเคน ได้แน่นอน ฟังแล้วก็แอบหวั่นเหมือนกันว่าเด็กประถมเริ่มสูบบุหรี่กันแล้ว เอาจริงๆกว่าผมจะเริ่มพูดคำหยาบนี่ก็ประถมปลาย 😄 เหล้ามากินตอนมหาลัย บุหรี่จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยสูบ แล้วถ้ากัญชาเสรี คิดว่าจะห้ามไม่ให้เด็กเอาไปเสพได้ยังไง
แต่ไม่อยากให้มองที่คนเสพแล้วไปตัดสินว่าเป็นคนไม่ดีซะก่อน คนที่ใช้สารเสพติดล้วนมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะจัดการกับปัญหานั้นยังไง เด็กที่พ่อแม่ไม่ดูแล ไม่พร้อมเลี้ยงดู โตมาในสังคมที่พ่อแม่เองก็ติดยา เด็กที่โตมาแบบนี้ มันจะไปนั่งทำการบ้านหลังเลิกเรียนได้ไง ส่วนมากเมื่อไม่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ ต้องพยายามทำตัวเองให้เป็นจุดสนใจให้ได้ และการสูบบุหรี่ กินเหล้า ก็เป็นทางนึงที่จะทำให้มีคนมาสนใจ ไม่ว่าจะในทางลบหรือบวกก็ตาม
การที่ใช้สารเสพติดเพื่อรักษาปัญหานึง มันก็จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ แต่การที่เราลงโทษคนที่ใช้ยาเสพติดด้วยการลงโทษ ติดคุก นั้นมันตรงจุดซะที่ไหน ต้นตอของปัญหาไม่ได้หายไป แถมยังซ้ำเติมให้เจอคนประเภทเดียวกันซะอีก
สิ่งที่ควรทำคือการบำบัดครับ เราไม่มองคนติดยาเป็นการกระทำผิด เรามองว่าเค้าเป็นโรคเรื้อรังอย่างนึงเหมือนเบาหวาน ความดัน การบำบัดจะช่วยลดคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ยาในระยะแรกๆได้ลดลง กลับมาเป็นคนปกติได้ เมื่อปัญหาชีวิตของเค้าหมดไป
ที่กล่าวมาช่วงหลังไม่ได้บอกว่าเราควรเปิดหรือไม่เปิดกัญชาเสรี เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว คาดเดาข้อดี ข้อเสียที่เป็นไปได้เท่านั้นนะครับ
สำหรับใครที่ห่างไกลของพวกนี้อยู่แล้ว อย่าไปเข้าใกล้เลยครับ คุณทำได้ดีแล้ว
จบ...แล้ว ยาวมากเลย 555
โฆษณา