7 ก.ย. 2019 เวลา 04:26 • ธุรกิจ
2 ล้านคนคือจำนวนผู้ประท้วงบนเกาะฮ่องกง ที่ยืนกรานจะสู้จนกว่ารัฐบาลจะยอมฟังเสียงประชาชน
บนเกาะฮ่องกงมีประชากรประมาณ 8 ล้านคน นั่นหมายความว่าประชากร 25% ออกมาร่วมประท้วงในครั้งนี้ ก่อนจะเข้าเรื่องเล่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขอย้อนพาไปทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของฮ่องกงกับจีนกันเสียก่อนค่ะ
เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นจากคำว่า ‘สงคราม’ สงครามฝิ่นครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1839-42) ระหว่างจีนและอังกฤษ เกิดสนธิสัญญานานกิงขึ้น สัญญาดังกล่าวระบุว่าจีนได้ยกเกาะฮองกงให้อังกฤษอย่างถาวร ดังนั้นจริงๆ แล้วเกาะฮ่องกงเป็นของอังกฤษไม่ใช่ของจีนและไม่ต้องมีการทำสัญญาเช่า 99 ปีแต่อย่างใด ต่อมาสงครามฝิ่นรอบสอง (ค.ศ. 1856-60) จีนยกเกาะเกาะลูนให้อังกฤษตามสนธิสัญญาปักกิ่งค่ะ เริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ยค่ะว่า แล้วสัญญาเช่า 99 ปีที่เราคุ้นชินคืออะไร? อังกฤษเริ่มเห็นมหาอำนาจต่างๆ รุกรานจีนมากขึ้นค่ะ ก็เลยทำสัญญาเช่า New Teritory บริเวณรอบๆ เกาะฮ่องกงและเกาะเกาลูนเป็นเวลา 99 ปีค่ะ แต่บังเอิญพื้นที่ตรงนี้คิดเป็น 90% ของพื้นที่ที่เป็นเขตปกครองฮ่องกง ดังนั้นอังกฤษเลยแถมส่วนที่เป็นเกาะฮ่องกงและเกาะเกาลูนคืนจีนไปด้วยเลย
https://www.silpa-mag.com/history/article_10409
เกาะฮ่องกงภายใต้การปกครองของอังกฤษ พวกเขาสร้างตัวเองเป็นศูนย์กลางการเงินและธุรกิจในภูมิภาค ในปี 1993 เศรษฐกิจฮ่องกง คิดเป็น 27% ของ GDP ทั้งหมดของประเทศจีน ลองคิดถึงความยิ่งใหญ่ของฮ่องกงในสมัยนั้นดูค่ะ
แต่แล้วปี 1997 ฝันร้ายก็มาเยือนเมื่ออังกฤษคืนเกาะฮ่องกงสู่การปกครองของจีน สมัยนั้น เติ้ง เสี่ยวผิง’ ตกปากรับคำว่าว่าจะไม่ ‘กลืน’ ฮ่องกงให้เป็นแบบเดียวกับจีน เขาจะคงสิทธิและเสรีภาพให้กับชาวฮ่องกง พร้อมกับสร้างสโลแกน ‘1 ประเทศ 2 ระบบ’
เวลาผ่านไปประเทศจีนที่เคยยากจนไม่ใช่จีนคนเดิมอีกต่อไป เมืองเซิ่นเจิ่นที่ติดกับฮ่องกง เมื่อก่อนเคยยากจนข้นแค้น ตอนนี้กลายเป็น Technology Hub ไปแล้ว ปัจจุบัน GDP ฮ่องกงคิดเป็นแค่ 2% ของ GDP จีนเท่านั้นเอง ในขณะเดียวกันฮ่องกงกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของเศรษฐีจีน กลายเป็นที่รวมตัวของคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล รัฐบาลจีนเองเริ่มรู้สึกว่าฮ่องกงกำลังสั่นคลอนอำนาจตัวเองอยู่ จึงเริ่มก้าวก่ายและแทรกแซงฮ่องกงอยู่เรื่อยๆ
ส่วนเหตุประท้วงครั้งนี้เกิดจาก มีสามีชาวฮ่องกง ฆ่าภรรยาที่ไต้หวันและหนีกลับฮ่องกงทำให้ไต้หวันไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่าง จีน ไต้หวัน และฮ่องกง พอมีการเสนอให้แก้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นกรณีไป ประเด็นนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวมาก เพราะตั้งแต่คืนเกาะจีนกับฮ่องกงได้พยายามเจรจาข้อตกลงสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกันอยู่เรื่อยมา แต่ประเทศฮ่องกงซึ่งมีกระบวนการยุติธรรมที่ได้มาตรฐาน กังวลกับกระบวนการยุติธรรมของจีน และไม่อยากเปิดประตูให้จีนใช้กฎหมายเป็นข้ออ้างมายุ่มย่ามวุ่นวาย
โดยผู้ประท้วงมีข้อเรียกร้องกับ แคร์รี แลม ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง ดังนี้
1. ถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนร่างนี้ออกไป
2.ไม่ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม
3.หยุดเรียกผู้ชุมนุมว่าการก่อจลาจล
4.ตั้งกรรมการอิสระมาตรวจสอบการกระทำที่เกินกว่าเหตุของตำรวจต่อกลุ่มผู้ชุมนุม
5.ปฏิรูประบบเลือกตั้ง
สำหรับข้อสุดท้าย ปฏิรูประบบเลือกตั้ง สำหรับหลายคนที่ยังไม่รู้ หลังจากคืนเกาะ คนฮ่องกงไม่ได้เลือกตั้งผู้นำเองอีกเลย แต่ต้องเลือกตั้งผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2,000 คนซึ่งเป็นคนที่ปักกิ่งคัดสรรมา ในปี 2014 จีนสัญญาว่าจะให้คนฮ่องกงเลือกตั้งเอง แต่กลับบิดพลิ้วให้จีนเป็นคนเลือกเคนดิเดตไว้ ให้คนฮ่องกงเลือกได้เฉพาะแคนดิเดตดังกล่าว ซึ่งคนฮ่องกงไม่ยอมเพราะจีนก็จะเลือกเฉพาะคนที่ภักดีต่อตัวเองเท่านั้นและเหตุการณ์บายปลายกลายเป็นการประท้วง ‘Umbrella Movement’
https://brandinside.asia/hk-chief-executive-carrie-lam-suspends-controversial-extradition-bill/
ตอนนี้ แคร์รี แลม ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง ยอมถอย ถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนร่างนี้ออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามผู้ประท้วงยังเหลือสิ่งที่ต้องการอีก 4 ข้อโดยเฉพาะข้อสุดท้าย การประท้วงครั้งนี้จีนเองคงได้เห็นจุดยืนชัดเจนของคนฮ่องกงที่ต้องการมีสิทธิและเสรีดังเดิมเหมือนครั้งก่อนที่จีนยังไม่ได้เข้ามาปกครอง
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมมาแชร์กันได้นะคะ ส่วนให้อยากรู้เรื่องไหน? พิมพ์มาบอกกันได้เหมือนกันค่ะ แอดจะรวบรวมข้อมูลและสรุปให้อ่านกันนะคะ
โฆษณา