7 ก.ย. 2019 เวลา 04:29 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แมวใช้มนุษย์ครองโลกได้อย่างไร
(เรียบเรียงโดย ดร.เสาวภาคย์ ชุ่มวัฒนะ)
ตั้งแต่มนุษย์เริ่มต้นทำการเกษตรกรรมซึ่งต้องมีการเก็บเมล็ดพันธุ์ สัตว์ตัวเล็กๆอย่างหนูก็เริ่มมาก่อกวนในชุมชนมนุษย์ ส่งผลให้แมวป่าเข้ามาล่าหนูเป็นอาหาร
นับตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้ แมวกับมนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับแมวทั้งเป็นสถานการณ์ที่ทั้งคนและแมวได้ประโยชน์ เพราะนอกจากแมวจะช่วยกำจัดสัตว์ที่ขโมยอาหาร และเป็นพาหะโรคแล้ว มันยังน่ารักมากจนมนุษย์หลายคนอุทิศตัวเป็นทาสแมวด้วยความอิ่มเอิบในจิตใจ
การเปลี่ยนจากแมวป่าเป็นแมวบ้านนั้น ช่างเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งของแมว แต่นักวิทยาศาสตร์รู้น้อยมากว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ไม่นานมานี้มีการศึกษาดีเอ็นเอจากโครงกระดูกและมัมมี่ของแมวโบราณที่มีอายุถึง 9,000 ปีนำไปสู่การค้นพบร่องรอยการแพร่กระจายของแมวจากตะวันออกกลางไปยังส่วนอื่นๆของโลก งานวิจัยชิ้นนี้ใช้เวลานานร่วม 10 ปีเพราะต้องใช้เวลาในการค้นหาซากแมวมาศึกษา
หนึ่งในนักวิจัยในโครงการนี้กล่าวว่า “ซากแมวเป็นสิ่งที่หายากมาก”
ปัญหาคือ มนุษย์เราไม่กินแมวเป็นอาหาร ดังนั้นกระดูกของแมวจึงไม่อยู่ในกองขยะโบราณเหมือนกระดูกหมูหรือกระดูกไก่ กลุ่มนักวิจัยจึงต้องเขียนจดหมายถึงพิพิธภัณฑ์และบรรดานักสะสม เพื่อขอตัวอย่างซากแมวโบราณ จนในที่สุดกลุ่มนักวิจัยก็สามารถรวบรวมกระดูก ฟัน และขนจากแมวโบราณจำนวน 352 ตัว รวมถึงมัมมี่แมวอียิปต์โบราณจากบริติชมิวเซียมด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกชิ้นส่วนของซากแมวที่ให้ ดีเอ็นเอได้ เพราะตะวันออกกลางเป็นภูมิประเทศที่มีอากาศร้อน และในสุสานอียิปต์ที่เก็บมัมมี่แมวนั้นก็มีความชื้น ซึ่งถือเป็นหายนะสำหรับดีเอ็นเอที่เปราะบางอย่างยิ่ง ในที่สุด กลุ่มวิจัยสกัด ดีเอ็นเอ ออกมาได้จากตัวอย่างของแมว 209 ตัว
ตัวอย่างที่ได้มาได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับการเดินทางของแมวที่ได้ติดตามมนุษย์ไปบนเส้นทางการค้าทั่วโลก พบว่าแมวยุคใหม่มีต้นกำเนิดจากสถานที่ 2 แห่ง
คือ เมืองอนาโตเลียหรือตุรกีในปัจจุบัน แมวกลุ่มนี้ไปถึงยุโรปตั้งแต่ 4,400 ปีก่อนคริสตกาล และ จากอียิปต์แล้วแพร่กระจายผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มันได้ผสมพันธุ์กับแมวป่าท้องถิ่นในทุกที่ที่มันไป ส่งผลให้สายพันธุ์ของแมวจึงกระจายไปทั่วโลกอย่างทุกวันนี้นั่นเอง
โฆษณา