8 ก.ย. 2019 เวลา 10:57 • ไลฟ์สไตล์
🤠 ทฤษฎีที่จะทำให้คุณรู้ว่า...จริงๆแล้วคุณเป็นคนมองโลกแคบ หรือมองโลกเป็นกันแน่✨
เคยมีคนทักให้เราไปเปลี่ยนหรือปรับ Mindset ของตัวเองบ้างรึเปล่าเอ่ย เนิ้ตนี่เคยมากับตัว แล้วตอนนั้นก็แอบงงๆว่า จริงๆแล้วมันคือแบบไหนหว่า ทำหน้างงๆ แล้วเกาหัว แคร่กๆ? 🥴
ศรีๆ มื้อนี้เป็นมื้อสรรวันดี..วันนี้เนิ้ตได้คำตอบแล้วค่ะ และก็นำมาฝากแฟนเพจที่น่ารักของเนิ้ตด้วยจ้า มาลองอ่านกันดูเล่นๆนะคะ มามะๆ 😁😁😁
ไม่ใช่แค่ภาพที่เบลอ แต่ยังคิดถึงเสมอ ด้วยนะคะ5555
🔥แล้ว Mindset ที่ว่านี่มันคืออะไรอะเนิ้ต?
คำว่า Mindset ก็คือความเชื่อหรือกรอบความคิดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและทัศนคติในการมองโลกของเรานั่นเองค่ะ หืมมม...นี่แปลว่าเนิ้ตมี Mindset เพี้ยนหรอ ถึงโดนทัก? 😂
🔥แล้วพรสวรรค์ล่ะคือทุกอย่างมั้ย?
เนิ้ตจะบอกเลยว่า ในโลกความเป็นจริง การมีเพียงพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้เราประสบความสำเร็จในระยะยาวได้นะคะ และสิ่งที่สำคัญพอๆกันกับพรสวรรค์และความสามารถก็คือ กรอบความคิด(Mindsset)นี่แหละ ที่ทำหน้าที่ในการกำหนดทัศนคติของเราตั้งแต่เรื่องเล็กๆจนไปถึงการเลือกทางเดินในชีวิตเลยล่ะค่า 😊
🔥แล้ว Mindset มีกี่แบบ?
จะมีอยู่หลักๆอยู่ 2 รูปแบบค่ะ ก็คือ
🧠 Fixed mindset✨
คนกลุ่มนี้จะชอบตีกรอบให้ตัวเองค่ะว่า "ความสามารถของเรามีแค่นี้แหละ" และจะหยุดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ทำเฉพาะสิ่งที่ตัวเองทำได้ ไม่กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยมีเหตุผลมารองรับการปิดกั้นตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น “ฉันทำไม่ได้หรอก” “ถ้ามันผิดพลาด สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า” “ฉันทำเต็มที่ที่สุดแล้วนะ” ประมาณนี้ค่ะ 😖
1
และจุดเด่นของคนกลุ่มนี้คือ เค้ามักจะกลัวความผิดพลาดกับคำวิจารณ์ เพราะคิดว่า ความผิดพลาดหรือคำตำหนิคือจุดจบ คนที่มีกรอบความคิดแบบนี้จะคิดว่าความสามารถนั่นแหละที่จะพาไปสู่ความสำเร็จในชีวิต และความพยายามนั้นไม่ได้มีผลมากนัก ถ้าทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ จะไปทำทำม๊ายยยย ได้ไม่คุ้มเสียหรอกกก!!! 😏
🧠 Growth mindset✨
คนกลุ่มนี้จะแตกต่างจากกลุ่มแรก ตรงที่มีกรอบความคิดอยู่เสมอที่ว่า ความสามารถเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ หรือพัฒนาได้เสมอ เวลาที่ถูกวิจารณ์ คนกลุ่มนี้จะนำข้อมูลจากคำติชมหรือแม้แต่คำด่านั้น ไปลองพัฒนาตัวเอง
สำหรับคนกลุ่มนี้ความผิดพลาดไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเค้าจะนำไปต่อยอดให้กลายเป็นความสำเร็จต่างหาก พูดง่ายๆก็คือ คนกลุ่มนี้จะกล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวที่จะเจอปัญหาเพราะรู้ว่าปัญหานั้นมีไว้แก้และเรียนรู้จากมัน โห..อย่างเท่ห์นะคะเนี่ย 😎
🧠แล้วอะไรล่ะที่แยก 2 กลุ่มนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน?✨
คำตอบก็คือ "ทัศนคติ (Attitude)" นั่นเองค่า
คนที่มี Fixed mindset จะมีทัศนคติต่อความท้าทายในเชิงลบ และพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกหนี เพราะคิดว่าความท้าทายจะนำมาซึ่งปัญหา และปัญหาจะนำมาซึ่งความล้มเหลว ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น คนกลุ่มนี้ก็เลยจะหาข้ออ้างให้ตนเองรอดจากความผิด โดยไม่หาบทเรียนจากความผิดพลาดนั้น และทดแทนด้วยการพยายามแสดงเฉพาะข้อดีที่ตนเองมีอยู่แล้วออกมาและซ่อนข้อเสียของตนเองเอาไว้
ส่วนคนที่มี Growth mindset จะมีทัศนคติต่อความท้ายทายในเชิงบวก และถือคติว่า “เพราะไม่รู้จึงได้เรียนรู้” พวกเค้าเชื่อว่า ใครๆก็สามารถพัฒนาได้ "ความท้าทายจึงมีไว้พุ่งชน" นั่นเองค่าา
มันมีงานวิจัยนะคะว่าคนที่มี Growth mindset ตอนแรกจะล้มลุกคลุกคลานกว่าคนที่มี Fixed mindset เพราะคนแบบ Fixed mindset จะป้องกันการเจ็บตัวโดยการอยู่แต่ใน safe zone แต่สุดท้ายแล้ว กลุ่ม Growth mindset ก็มักจะประสบความสำเร็จในระดับที่สูงกว่าอีกกลุ่มอย่างมาก เพราะจากการเจ็บตัวหรือล้มเหลว ทำให้พวกเค้ามักจะค้นพบความสามารถใหม่ๆ หรือได้ขัดเกลาตนเองให้ดีกว่าเดิมไปเรื่อยๆเลยค่าา
1
🤔🤔🤔
2
แต่จริงๆแล้วมนุษย์เราไม่ได้มีเพียงกรอบความคิดเดียวหรอกนะคะ ที่จริงแล้ว เรามักจะมี Fixed mindset กับเรื่องหนึ่ง และมี Growth mindset กับอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
เรามักจะมี Growth mindset กับเรื่องที่เราสนใจและสำคัญกับเรา แต่มี Fixed mindset กับเรื่องที่เราคิดว่าไม่สำคัญต่อชีวิตเรา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนทุกคนอยู่แล้วนะคะ
พอท้ายที่สุดแล้ว เราก็คงไม่พุ่งชนทุกเป้าหมายโดยไม่จัดลำดับความสำคัญหรอกใช่มั้ยล่ะคะ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ อย่าจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายจนเหลือแต่เรื่องที่ง่ายเกินไป ไม่มีเป้าหมายใหม่ๆที่ท้าทายน้าา เพราะไม่งั้น เราเองก็จะติดกับดักของ Fixed mindset เข้าแล้วล่ะค่าา 🙃
1
และขอดีของ Growth mindset ก็ไม่ใช่วิธีคิดแบบโลกสวยแต่เป็นกรอบความคิด ที่ช่วยสร้างความกล้าให้เราดึงตัวเองออกมาจาก safe zone มาท่องในโลกกว้างอย่างอิสระเหมือนเนิ้ตตอนนี้นั่นเองค่า
2
"คนที่ไม่เคยผิดพลาด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลยเท่านั้น"
💓 อย่าลืมกดไลก์และเข้ามาคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้เนิ้ตด้วยนะคะ 😘😘😘
เรียบเรียนstyle : พยาบาลวิชาชีพอิสระ💉
โฆษณา