Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส
สัพเพเหระไปกับวิศวกร
•
ติดตาม
7 ก.ย. 2019 เวลา 13:25 • การศึกษา
When Sea-fastening should be tied to Barge deck?
Sea-fastening คือ temporary structures ที่มีไว้เพื่อรับแรงทั้งด้านข้างและแนวดิ่งจากการโคลงตัวเรือในช่วงเดินทางไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ดังแสดงในรูปที่2 อาจจะเป็นรูปแบบไหนก็ได้ขอแค่รับแรงจาก Barge motion ถ่ายลงไปที่เรือให้ได้
ดังนั้นตามคอนเซ็ปคือมันต้องรับแรงช่วงเดินทาง ถ้ายังไม่เดินทางต้องยังไม่รับแรงหรือ stress-free
โดยปกติ Sea-fastening จะสร้างติดกับโครงสร้างมาตั้งแต่ตอน Loadout ดังแสดงในรูปที่ 1 โดยอาจจะเอาอะไรแขวนรอไว้ก่อน และมักมี Padeye เล็กๆ เอาไว้เกาะเพื่อยกเวลาติดตั้งหรือตอนตัดแล้วยกออก
การขนโครงสร้างลงเรือ เราเรียกศัพท์ทางเทคนิคว่า Load-Out (ถ้าขนจากเรือขึ้นฝั่ง ก็เรียก Load-in) ซึ่งจะต้องทำให้เรือราบและอยู่ในแนวเดียวกับระดับบนฝั่งให้มากที่สุด ถ้าเป็นการใช้ spmt ในการ Loadout อาจจะไม่ต้องราบมากเพราะ spmt มีระบบปรับระดับในตัวเอง แต่ถ้าเป็นการ Skidding ที่ค่อยๆ ลากขึ้นนั้น ระดับจะสำคัญมาก
การที่เรือจะราบได้ ก็อาศัยการปรับระดับน้ำในห้องอับเฉาในเรือ เรือก็เหมือนคานยักษ์ที่วางอยู่บน elastic spring ทีีเป็นแรงลอยตัวจากน้ำ การเพิ่มน้ำลงไปใน ballasted tank ของเรือ ก็เหมือนการเพิ่มน้ำหนักทำให้เรือดัดไปดัดมา
ดังนั้นการจะขนโครงสร้างขึ้นเรือจะต้องมีแผนการปั้มน้ำของเรือว่าจะปั้มน้ำเข้าแต่ละถังอย่างไร เรียกว่า Loadout Ballasted Water Plan ซึ่งต่อให้ปรับอย่างไรเรือก็จะไม่มีทางราบ 100% ดังจะเห็นในรูปที่ 3 ข้างบนที่เป็นเส้นสีเหลือง
เนื่องจากเรือมี Flexibility และมันยังนั่งอยู่บนน้ำที่ยุบตัวได้อีกด้วย ดังนั้นการสมมติว่าโครงสร้างนั่งบน Rigid Support จึงไม่เป็นจริง ยิ่งกว่านั้นมันอาจจะอยู่คนละระดับกันอีกจากผลของน้ำในถังของเรือ โจทย์ในหนังสือเรียนไม่มี ในโลกความจริงนะครับ อยู่ที่ว่าผลมีมากจนต้องคิดหรือไม่
โดยปกติ Ballasted Water ของเรือ สำหรับการ Loadout และการเดินทางในทะเล ก็จะไม่เหมือนกัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมและข้อจำกัดไม่เหมือนกัน หลังจากโครงสร้างขึ้นเรือแล้ว เค้าจึงต้องปรับระดับน้ำในถังอีกครั้งก่อนที่จะออกเดินทางไปกลางทะเล การที่ปรับระดับน้ำ ก็คือการดัดเรือขึ้นลง ทำให้ระดับ Barge deck ก็เปลี่ยน ดังแสดงในเส้นสีเหลืองรูปที่ 3 ข้างล่าง
ดังนั้น จากคอนเซ็ปที่ Sea-fastening จะต้อง stress-free ก่อนออกเดินทาง เพราะมันออกแบบมารับแรงช่วงเดินทาง มันจึงควร
"ต้องยึดกับเรือหลังจากเค้าปรับเป็น Tow Ballasted Water Plan สำหรับการออกเดินทางแล้ว หรือยึดหลังจากเรือถูกดัดจนอยู่ในระดับที่พร้อมเดินทางแล้ว"
ถ้าเรา Loadout เสร็จแล้ว ทำการยึด Sea-fastening ทันทีในขณะที่ Ballasted Water ยังเป็นสำหรับการ Loadout จะเกิดอะไร?
ก่อนออกเดินทางเค้าก็จะปรับ Ballasted Water ยังเป็นสำหรับการ Transport ทำให้ Profile ของเรือเปลี่ยนไป แล้วเราไปยึด Sea-fastening กับเรือไปแล้ว ทำให้มันโดนดัดไปมากับเรือ ตอนที่เค้าปรับระดับน้ำด้วย
ดังนั้นจากที่มันควรไม่รับแรงก่อนออกเดินทาง ลำดับการทำงานที่ผิดพลาด ก็อาจจะสร้าง Residual Stress ขึ้นบนโครงสร้างโดยที่ไม่จำเป็น ดังแสดงในรูปที่ 4 ขึ้นไม่เฉพาะแต่ Sea-fastening เท่านั้น และถ้าค่ามันสูงมาก ก็อาจจะสร้างการวิบัติได้ โดยที่อาจจะต้องมาไล่หาสาเหตุกัน แบบที่สุดท้ายคาดไม่ถึงว่าเป็นเพราะการเรียงลำดับการทำงานที่ผิดพลาดก็ได้
2 บันทึก
11
2
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย