Blockdit Logo (Mobile)
Antfield
•
7 ก.ย. 2019 เวลา 17:53 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
5 อุบัติการณ์อุกกาบาตชนโลกครั้งใหญ่ในอดีต
ในอดีตโลกเราเคยเจอกับอุกกาบาตพุ่งชนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่สร้างความหายนะระดับขั้นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ วันนี้ขอพาไปดูร่องรอยของ Top 5 เหตุการณ์อุกกาบาตชนโลกครั้งใหญ่
ประมาณกันว่าในทุก ๆ 100 ล้านปีโลกเราจะเจอกับอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่จะสร้างความเสียหายระดับสร้างการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ (Mass Extinction) พุ่งชน, Cr: © The Virginian-Pilot
ก่อนจะไปรู้จักกับ 5 เหตุการณ์ขอกล่าวถึงเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับอุกกาบาตชนโลก
อันดับแรก รู้หรือไม่ เมื่ออดีตกาลนานโพ้นโลกเราเคยหมุนรอบตัวเองเร็วกว่านี้ ปีหนึ่งมี 438 วัน วันหนึ่งมีไม่ถึง 20 ชั่วโมงดี (ขนาดวันละ 24 ชั่วโมงยังไม่พอใช้เลย😅)
การที่อุกกาบาตขนาดใหญ่ชนโลกหลายครั้งเข้าอาจเป็นสาเหตุให้โลกเราหมุนช้าลงจนเป็นอย่างทุกวันนี้
** หลุมอุกกาบาตที่โด่งดังที่สุดในโลก **
คงหนีไม่พ้น Barringer Crater ที่อริโซนา อเมริกา จัดว่าเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดที่รู้จักกัน แต่ก็ยังไม่ได้เสี้ยวของ Top 5 ที่เรากำลังพูดถึง
Barringer Crater เกิดจากอุกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เมตรพุ่งชนเมื่อ 49,000 ปีที่แล้ว, Cr: Youtube/Extreme Science
** อุกกาบาตชนโลกครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? **
ถ้าเป็นข่าวฮือฮาสุดก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ อุกกาบาตชนโลกที่รัสเซียเมื่อปี 2013
แต่รู้ไหมครับ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วโลกเราก็ถูกอุกกาบาตพุ่งใส่ แต่ระเบิดแตกออกก่อนที่ความสูง 26 กิโลเมตรจากพื้นโลกเหนือประเทศรัสเซีย แรงระเบิดเท่ากับ 10 เท่าของระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา
ภาพถ่ายลูกไฟและการระเบิดของอุกกาบาตในชั้นบรรยากาศ, Cr:UNIVERSITY OF OXFORD
** อุกกาบาตชนโลกบ่อยแค่ไหน? **
1
รู้หรือไม่ครับว่าในทุกวันมีอุกบาตพุ่งเข้าสู่บรรยากาศโลกประมาณ 5- 10 ชิ้น แต่ชิ้นเล็กจนไม่ลุกไหม้หมดในชั้นบรรยากาศหรือตกลงในบริเวณที่ไม่มีคนอาศัยหรือมหาสมุทร
แต่ถ้าลูกใหญ่ขนาดสร้างหายนะได้ เช่นที่มีช่วงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 กิโลเมตรนั้น ประมาณว่ามีโอกาสพุ่งชนโลกทุก ๆ 500,000 ปี
ส่วนลูกพี่เบิ้มที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 5 กิโลเมตรขึ้นไปนั้น ประมาณว่ามีโอกาสชนโลกทุก ๆ 20 ล้านปี
** อุกกาบาตชนโลกแล้วยังไง เราจะสูญพันธุ์ไหม? **
แล้วแต่ขนาดครับ เล็ก ๆ ก็ไหม้หายไปในชั้นบรรยากาศ ใหญ่หน่อยลงถึงพื้นก็ระเบิดเป็นหลุม
ถ้าใหญ่มาก ๆ ก็จะเป็นหายนะเหมือนในภาพยนตร์ เช่น เรื่อง Deep Impact
ถ้าลูกใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10 กิโลเมตรขึ้นไป ก็จะทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ขึ้นบนโลกอันเนื่องจากฤดูหนาวนิวเคลียร์
ทั้งนี้ด้วยแรงปะทะมหาศาลจะดันให้ฝุ่นเถ้าจากการชนลอยละล่องขึ้นสู่บรรยากาศเป็นปริมาณมหาศาล เกิดเป็นม่านกันแสงอาทิตย์อยู่หลายปี
เจ้าพิภพเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว, Cr: Jurassic World: Fallen Kingdom
ต้นไม้ใหญ่ก็จะตายก่อนเนื่องจากสังเคราะห์แสงไม่ได้ เป็นจุดเริ่มของการล่มสลายของห่วงโซ่อาหารที่ ผู้ผลิตหายไปจากระบบนิเวศน์ทำให้สัตว์ใหญ่ สูญพันธ์ุตามเป็นลูกโซ่
หนึ่งใน 5 เหตุการณ์ที่จะกล่าวถึงต่อไป นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าคือสาเหตุการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์นั่นเอง งั้นเรามาดูTop 5 เหตุการณ์อุกกาบาตชนโลกครั้งใหญ่กันดีกว่า
5
1.Vredefort, South Africa
เนื่องจากเวลาผ่านมานานกว่า 2,000 ล้านปีปากหลุมจึงมองเห็นได้แค่เสี้ยวเดียวเมื่อมองจากอวกาศ, Cr: ESA/NASA
หลุมอุกกาบาต Vredefort ที่แอฟริกาใต้นี้ ถือว่าเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุดที่ได้รับการยืนยันในปัจจุบัน ด้วยขนาดหลุมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 160 กิโลเมตร ซึ่งการชนเกิดขึ้นเมื่อกว่า2,000 ล้านปี ที่แล้ว
2. Sudbury Basin, Ontario, Canada
ข้อมูลทางธรณีวิทยาของหลุม Sudbury Basin, Cr: Natural Resources Canada/Wikimedia Commons
หลุมอุกกาบาตนี้เกิดจากการชนเมื่อ 1,800 ล้านปีก่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตร
ภาพถ่ายทางอากาศของ Sudbury Basin ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองตั้งอยู่รอบแอ่ง, Cr: NASA World Wind satellite image
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเศษซากของก้อนอุกกาบาตในพื้นที่ 1,600,000 ตารางกิโลเมตร ในรัศมี 800 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางการชน
3. Chicxulub, Yucatan Peninsula, Mexico
หลุมอุกกาบาตเกินครึ่งจมอยู่ใต้ทะเล, Cr: Wikimedia
หลุมนี้อยู่บริเวณอ่าว Mexico และนี่คือหลักฐานการสังหารหมู่ไดโนเสาร์ทั้งโลกด้วยอุกกาบาตที่คาดกันว่ามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 11-80 กิโลเมตร
ปัจจุบันยังคงประเมินถึงขนาดทีแท้จริงของหลุมอุกกาบาต, Cr: Wikimedia
ขนาดของหลุมอยู่ที่ประมาณ 160-300 กิโลเมตร ทั้งนี้ถ้าหากขนาดจริงที่ 300 กิโลเมตร หลุม Chicxulub นี้จะกลายเป็นหลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนVredefort
4. Popigai, Siberia, Russia
หลุม Popigai นี้ อุดมไปด้วยเพชรที่เกิดจากการชนของอุกกาบาต, Cr: Googlemaps
หลุมPopigai ที่รัสเซียนี้เกิดจากการชนเมื่อ 36 ล้านปีก่อน มีขนาดหลุมกว้าง 90 กิโลเมตร และถูกเชื่อมโยงกับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ทีเ่รียกเหตุการณ์ Eocene-Oligocene
5. Manicouagan, Quebec, Canada
ภาพ Eye of Quebec, Cr: ESA/Wikimedia Commons
หลุม Manicouagan นี้ทำให้เกิดภาพอันสวยงามของ Eye of Quebec นั่นเอง เกิดจากการชนเมื่อ 215 ล้านปีก่อน ด้วยอุกกาบาตขนาดใหญ่ประมาณ 5 กิโลเมตร ทำให้เกิดหลุมกว้าง 100 กิโลเมตร
ทิ้งท้าย กับอีกหนึ่งหลุมอุกกาบาตยักษ์ที่รอการคอนเฟิร์ม
ตำแหน่งที่คาดว่าอุกกาบาตตก
หลุม Warburton นี้อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปออสเตรเลีย มีลักษณะมีเศษหลายประการ เช่น เกิดจากอุกกาบาตขนาดใหญ่แตกออกเป็น 2 ชิ้นกลางอากาศ แต่ละชิ้นใหญ่ประมาณ 10 กิโลเมตร
และหลุมนี้มีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ ไม่เป็นหลุมแต่เป็นโดม อันเกิดจากตอนที่อุกกาบาตกระแทกความร้อนจากการชนได้หลอมแผ่นเปลือกโลกและดันตัวขึ้นเป็นโดม
โครงสร้างพิเศษที่ไม่สามารถเกิดได้ตามปกติบนโลก
หลุมดังกล่าวนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญจากโครงการสำรวจทางธรณีวิทยา แต่กลับพบ Shocked Quartz โครงสร้างผลึกรูปแบบพิเศษที่พบได้เฉพาะบริเวณที่เกิดจากชนด้วยอุกกาบาตขนาดใหญ่เท่านั้น
ซึ่งเวลาการชนยังไม่ทราบแน่ชัด และยังคงต้องรอการยืนยันต่อไปถึงถ้าหากได้รับการยืนยัน หลุมWarburton จะครองตำแหน่งหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกทันทีด้วยอาณาบริเวณกว้างกว่า 400 กิโลเมตร
ทั้งนี้อุกกาบาตพุ่งชนโลกไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นบนโลก คราวหน้าผมจะมาเล่าถึง 10 เหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
โฆษณา