Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดาวอังคารหมุนรอบโลก
•
ติดตาม
7 ก.ย. 2019 เวลา 18:35 • ปรัชญา
การปฏิเสธความตาย และการเกิดใหม่ที่ (อาจ) ไม่มีอยู่จริง
อยู่ๆข่าวของน้องไอสน์ที่จากไปด้วยโรคมะเร็ง และคุณพ่อของน้องเลือกที่จะรักษาสมองของน้องไว้ด้วยการแช่แข็ง หรือที่เรียกว่า Cryonics เพื่อรอเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคตคืนชีพให้น้องในอนาคตก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แน่นอนว่าเรื่องนี้มีคนมองสองแบบ นั่นคือในมุมของศาสนา และวิทยาศาสตร์
คนที่มองในมุมศาสนาจะแสดงความคิดเห็นไปในเชิง “การปล่อยให้น้องจากไปตามวิธีทางธรรมชาติอาจจะดีกว่า” “น้องควรได้ไปสบาย ไม่มีห่วง” “น้องจำเป็นจะต้องจากไปสู่อีกภพภูมิหนึ่ง” และแน่นอนว่าพ่อของน้องตกเป็นจำเลยในการรั้งน้องไว้ในโลกนี้ด้วยความรักที่มากเกินพอดี ไม่ยอมรับกฏเกณฑ์ธรรมชาติที่ว่ามนุษย์เกิดมาจะต้องตายจากไป พ่อของน้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
ส่วนในมุมของวิทยศาสตร์ความคิดเห็นนั้นแตกต่างออกไป “การทำแบบนี้ต้องใช้เงินมหาศาล พ่อน้องคงคิดดีแล้ว” “พ่อของน้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ยอมให้น้องได้เป็นกรณีศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต” “การตัดสินใจของพ่อน้องจะช่วยมวลมนุษยชาติได้อีกมาก” ในโลกฝั่งตรงข้ามพ่อของน้องเป็นนบุคคลที่น่ายกย่อง เป็นผู้เสียสละ เป็นคนที่มองการไกล มองไปถึงผลประโยชน์ของมวลมนุษย์ในอนาคตที่ไม่รู้อีกกี่ปีจะมาถึง
คนไม่น้อยที่มองว่าการชุบชีวิตหลังความตายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้น และมีคนจำนวนมากเช่นกันที่เชื่อว่าสักวันหนึ่งวิทยาการทางวิทยศาสตร์จะพาเราเดินทางไปยังจุดนั้นได้ จำได้ไหมว่าในช่วงชีวิตของเรา เราผ่านเรื่องราวเหลือเชื่อมากี่ครั้ง
ในช่วงชีวิตของเราเคยมีมนุษย์เดินทางออกนอกโลกไปเหยียบดวงจันทร์ ในช่วงชีวิตนี้เราเคยได้เห็นภาพถ่ายของเอกภพอื่นที่มาจากยานอวกาศ ในช่วงชีวิตเดียวกันนี้นวัตกรรมทางการแพทย์ก้าวหน้าไปจนสามารถถอดรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตต้นแบบเพื่อให้เกิดอีกชีวิตหนึ่งที่มีรหัสพันธุกรรมเหมือนกันทุกประการได้ และไม่ใช่ในช่วงชีวิตนี้หรอกหรือที่แพทย์ผ่าตัดอวัยวะภายในได้ด้วยแผลเล็กเท่ารูกุญแจ
ไม่ว่านวัตกรรมทางการแพทย์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอื่นๆก้าวหน้าไปจนเราตามไม่ทันเพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่ปี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษา และยืดอายุมนุษย์ให้ยืนยาวขึ้น
ผิดหรือที่มนุษย์ยื่นอุทรต่อความตาย ไม่อยากจากคนที่รัก ครอบครัว หรือโลกนี้ไป แม้กระทั่งไม่อยากให้คนที่รักจากเราไป ไม่มีใครไม่รู้ว่าวันหนึ่งเราต้องตาย ไม่มีใครร้องขอความตาย ถ้าไม่รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ต้องการเขา ไม่มีใครร้องขอความตายถ้าไม่รู้สึกสิ้นไร้ความเป็นมนุษย์
เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่พ่อของน้องไอสน์เลย เราเองถ้าทำได้อย่างนั้นก็คงไม่ปฏิเสธ ถ้าชีวิตเราเพรียบพร้อมสุขสบายสิ่งเดียวที่เราจะปฏิเสธก็คือความตาย เพราะโลกนี้มีเรื่องราวสนุกๆอีกมาก และเชื่อเหลือเกินว่ามากกว่า 90% ของผู้คนบนโลกนี้ยังไม่ได้ทำอะไรๆที่ตัวเองอยากทำอีกมากนัก เพราะฉะนั้นถ้าวันที่เทคโนโลยีการคืนชีพมาถึง และเราสามารถทำได้เราจะปฏิเสธการมีชีวิต หรือปฏิเสธความตายกันล่ะ...
หรือถ้าเลือกความตาย...อะไรกันที่ทำให้เชื่อว่าการตายจะนำเราไปสู่ภพภูมิที่ดี การตายไม่ใช่การแตกดับคืนสู่ธรรมชาติหรอกหรือ เราตายเพื่อกลับมาเกิดใหม่จริงหรือ เราจะได้กลับมาพบกับคนที่เรายังมีจิตผูกพันด้วยจริงหรือไม่ ทำไมเราถึงเชื่อเรื่องที่ไม่เคยมีหลักฐานยืนยันเหล่านี้
เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นพุทธศาสนิกชนก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า พระพุทธองค์บัญญัติไว้ในหลักกาลามสูตร 8 ว่าไม่ให้เชื่ออะไรโดยง่าย แม้แต่คำของพระพุทธองค์เองก็ตาม (ศาสนาอื่นข้ามไป เพราะไม่รู้)
แล้วถ้าการเกิดใหม่เป็นเพียงนิทานหลอกเด็กเอาไว้ปลอบใจในวันที่เราสูญเสีย ไม่ให้เจ็บปวดมากเกินไปล่ะ ถ้าชีวิตใหม่หลังความตายไม่เคยมีอยู่จริง แต่มันกำลังจะมีในอนาคตล่ะ เราจะยังเลือกตายจากไปชั่วนิรันดร์ หรืออยากอยู่ต่อไปเพื่อเห็นโลกที่เปลี่ยนไปทุกวัน
“ความตายจะกลายเป็นอดีต อายุจะกลายเป็นเพียงตัวเลขที่ไม่มีความหมาย” เชื่อเถอะว่าถ้อยคำเหล่านี้ไม่ได้เกินจริงเลย อย่างน้อยที่สุดที่เราได้เห็นแล้วก็คือตัวเลขของอายุที่ไม่มีความหมาย ด้วยนวัตกรรมทำให้เราอยากดูเด็ก ดูสดใส ลดอายุลงไปจนแทบลืมอายุจริงทีเดียว
เพราะฉะนั้นในอนาคตความตายก็อาจจะกลายเป็นเรื่องตลกที่มนุษย์เอาไว้คุยกันบนโต๊ะอาหารก็ได้
ประชากรจะล้นโลกมั้ยนะ...คำถามชวนคิด และเชื่อว่าหลายคนคิดเช่นนั้น แต่อย่าลืมว่าไม่ว่าเทคโนโลยีการรักษาที่ดีที่สุด หมอที่ดีที่สุด โรงพยาบาลที่สุด ไม่ได้มีไว้เพื่อคนทุกคน
คนโง่คือสายพันธ์ที่ขยายได้อย่างรวดเร็ว แต่คนรวยจะเป็นสายพันธ์ที่อยู่อย่างถาวร เพราะฉะนั้นเลือกกันตั้งแต่วันนี้เลย ว่าอยากตายจากไปกลายเป็นเรื่องเล่าบนโต๊ะอาหาร หรือเลือกที่จะบอกกับเทพเจ้าแห่งความตาย (ถ้ามีอยู่จริง) ว่า “Not today”
แล้วจิบไวน์นั่งฟังตำนานการตาย และเกิดใหม่ที่เล่าต่อกันมาหลายชั่วอายุ พร้อมกับฟังรายงานข่าวว่าน้องไอสน์มนุษย์คืนชีพคนแรกของโลกกำลังร้องขอการการุณยฆาต เพราะอยู่มานานเกินไป
บันทึก
23
3
13
23
3
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย