10 ก.ย. 2019 เวลา 05:51 • บันเทิง
'วิกฤตชีวิตทำให้ความคิดและมุมมองชีวิตเปลี่ยน'
มันเป็นเวลา 05:31 นาทีของเช้าวันเสาร์ ที่ 7 กันยายน 2562 ผมจำเป็นต้องบันทึกวันและเวลาเอาไว้ เพราะถ้ามีโอกาสได้พบน้องเค้าอีกครั้งในชีวิต จะเป็นการย้ำเตือนถึงความเข็มแข็งของน้องคนนี้
ผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังเดินออกจากสถานบันเทิง หนึ่งในนั้นเป็นหนุ่มหล่อสูง โปร่ง ขาวหน้าตาคล้ายลูกชาย เจ เจตรินมาก โบกมือให้ทราบ ผมเองที่เรียกรถ
น้อง 'White' อ่านว่า 'ไวท์' เรียกรถผ่านโปรแกรมแกร๊บจุดรับคือสถานที่ใจกลางเมืองรัชดาภิเษก ปลายทางคือ หมู่บ้านแถวๆบางนาตราด ใกล้ๆสนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากน้อง 'ไวท์' นั่งบนรถเบาะหลัง ผมก็กดรับผู้โดยสาร เพื่อเปลี่ยนหน้าจอไปสู่การแนะนำเส้นทางเพื่อไปส่งปลายทาง
"น้องดื่มมาใช่ไหมครับ (จริงๆผมก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์อยู่บ้างพอสมควรแล้ว ถามเพื่อให้แน่ใจ)" ถามพร้อมๆกับดูแผนที่มุ่งสู่จุดหมาย
"ใช่ครับ" น้อง ไวท์ ตอบเสียงเหมือนง่วงๆ
"พี่มีถุงนะครับถ้าน้องจะอาเจียนจริงๆ" ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วที่เก็บถุง ตรงซอกหลังเบาะเก้าอี้คู่หน้า
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เมาเท่าไหร่" น้องตอบกลับมา
ผมขับรถตามปกติเพราะคิดว่าน้องเค้าต้องหลับแน่ๆ...น้องเค้าถามผม
"พี่ขับตั้งแต่เช้าเลยเหรอครับ ออกตั้งแต่กี่โมงครับ" น้องไวท์ถาม
"ใช่ครับ พี่ออกตั้งแต่ตี 4 น้องเป็นคนที่สองของวันนี้" ผมตอบน้อง
"ขยันมากกกกเลยนะครับ" น้ำเสียงแบบว่าเน้นคำว่ามาก
"มันก็จะเป็นนิสัยอะครับ ถ้าเราทำอะไรต่อเนื่องและติดต่อกันนานๆ" ผมตอบน้อง
"รายได้ดีไหมครับ" น้องถามต่อ
"ดีกว่าทำงานประจำแต่ด้อยกว่าเจ้าของกิจการ" ผมตอบแบบสรุปให้น้องได้เห็นภาพตาม
"จริงๆแล้วก่อนที่พี่มาขับแกร็บ พี่มีปัญหาในชีวิตอยู่ คิดว่าปัญหาใหญ่มาก หลังจากได้เจอคนเป็น พันๆคน ปัญหาพี่เล็กเท่าเม็ดทรายเลย" ผมเล่าความประทับใจให้ฟัง
"แล้วพี่ก็พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความคิดของเราเอง" ผมทำท่าชี้ที่หัวและเน้นเสียงคำว่า 'ความคิด' " ซึ่งตอนที่พูดน้องเค้ามองผมผ่านกระจกหลัง
"น้องหน้าตาหล่อมากๆนะครับ สูง ขาว พี่ไม่ใช่เกย์นะ แค่ชื่นชมในสิ่งที่ตาเนื้อมันฟ้อง" ผมยิ้มให้น้องเค้า
"ขอบคุณครับพี่" ตอบแบบยิ้มตอบ
"เรียนจบรึยังครับเนี่ย?" ถามเพราะอยากรู้จริงๆ หน้าเด็กเกิ๊นน
"จบแล้วครับผมทำงานแล้ว (จริงๆน้องเค้าเล่างานที่ทำแต่ผมไม่ขอเปิดเผยครับเกรงว่าจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล)" น้องตอบ
"แล้วน้องรักงานที่ทำไหมครับ?" อันนี้ถามเพราะอยากทราบแนวคิด
"ผมว่ายังไม่ใช่งานที่ผมรักนะครับ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร ตอนนี้อะไรที่ทำให้มีรายได้ผมต้องทำครับ" เสียงเริ่มเข้ม
"จริงๆแล้วผมไม่ได้เที่ยวมาเกือบจะหนึ่งปีแล้วครับ อันนี้มาเจอเพื่อนๆสมัยเรียน ผมไม่ค่อยใช้เงินนะพี่" เสียงเข้มกว่าเดิมอีก
"บ้านผมพึ่งถูกฟ้องล้มละลายเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา คุณพ่อและคุณแม่ โดนโกงไปเกือบ 20 ล้าน"
"เจสส โด้วววว ทำไมน้องดูนิ่งมากและวางตัวเหมือนคนไม่มีปัญหาใหญ่เลยครับ" ผมอุทานพร้อมกับพูด
นี่เป็นคำพูดของคนอายุ 20 ต้นๆ...
อ่านเอาก็แล้วกัน
"ไม่จมปลักกับปัญหา เอาตัวเองออกมา มีท้อนะครับแต่จะไม่คิดมาก ทำงานไปตามหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ" น้องไวท์พูดให้ฟัง
"เจ๋ง!...พี่ชอบคนแบบนี้ ต่อๆ แล้วน้องได้คิดอะไรจากเหตุการณ์นี้" ผมเสริมต่อเลย
"ไม่อยากให้แม่เครียด โทรคุยกับแม่มากขึ้น ผมเอาใจใส่ความรู้สึกคนในครอบครัวมากขึ้นกว่าเดิม" น้องไวท์ตอบ
"ช่วงเวลานี้ กำลังใจสำคัญครับ" ผมเสริมให้น้อง
"น้องไวท์รู้ไหมครับ อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย?" ผมถามก่อนจะถึงจุดหมายในอีก 3 กิโลเมตร
"เป้าหมายชีวิตครับ แต่ก่อนผมใช้ชีวิต สุดๆ
กินเที่ยวนอนไปวันๆ ชีวิตมันรู้สึกน่าเบื่อออ มาก" น้องไวท์ตอบมา
"ถูกต้องครับ เป็นคำตอบที่ ผู้โดยสารทุกคนพูดเหมือนกันหมด" ผมเฉลยให้เค้าทราบ
สักพักก็มาถึงปลายทาง น้องไวท์ยกมือไหว้ขอบคุณสำหรับหนังสือ ส่วนผมก็ขอบคุณสำหรับการเรียกใช้แกร๊บและที่เนื้อหาการสนทนา
ทุกครั้งก่อนจะจบบทความผมจะเสริมธรรมะเข้าไป ให้ทราบ เช่นเคย
บทความวันนี้ เข้ากับหลักธรรมะที่ว่า...
ทิศทั้ง 6 หนึ่งในนั้นคือ
ปุรัตถิมทิส หมายถึง ทิศเบื้องหน้า คือ บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย และผู้มีอุปการะอื่นๆที่เลี้ยงดูเรามา ( ทิศ ที่นี้ไม่ใช่เหนือ กลางใต้ แต่เป็นบุคคลที่มีส่วนสัมพันธ์ในการดำเนินชีวิตของตัวเรา )
ซึ่งเรามีหน้าที่และความรับผิดชอบที่พึงปฏิบัติต่อกัน น้องไวท์ ได้มีโอกาสให้กำลังใจ โทรคุยกับแม่มากกว่าที่เคยเป็น
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกชีวิตล้วนมีปัญหาแตกต่างกัน แต่เชื่อผมเถอะ สักวันเรื่องที่คอขาดบาดตายในวันนี้ จะเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับเราในวงสนทนาแน่นอน
ธรรมะหลังพวงมาลัย
โฆษณา