11 ก.ย. 2019 เวลา 12:39 • สุขภาพ
RSV
หน้าฝนมาพาไวรัส RSV ระบาด ผู้ปกครองใส่ใจสุขภาพเจ้าตัวน้อยกันหน่อยจ้า
🤧🤧🤧🤧🤧🤧🤧🤧🤧🤧🤧
โรคไวรัส RSV คืออะไร RSVก็คือ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ
🤧การติดต่อ แพร่กระจาย
-ไอ จาม น้ำมูล น้ำลาย เสมหะผู้ติดเชื้อ สัมผัสเชื้อโรค
-ระบาดมากในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว (กรกฏาคม ถึง มกราคม)
🤧อาการ
ในเด็กที่่ร่างกายแข็งแรง อาการจะดูคล้ายกับไข้หวัดธรรมดาๆ มีน้ำมูกไหล ไอ จาม มีไข้ คออักเสบ
🤧สำหรับหนูน้อยเล็กๆที่อายุน้อยกว่า 1 ปี หรือทารกคลอดก่อนกำหนดในกลุ่มเด็กโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ ภูมิต้านทานบกพร่อง
อาการจะรุนแรงเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ ไข้สูง
🤧อาการที่ควรรีบพามาพบแพทย์
-หายใจเหนื่อย หอบ
-หายใจมีเสียง หวีด
-มีอาการตัวเขียว
🤧การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส RSV การรักษาจึงเป็นเพียงรักษาตามอาการเท่านั้น
🤧สำหรับผู้ป่วยเด็กในรายที่มีอาการรุนแรง มีหลอดลมฝอยอักเสบ และปอดบวม หายใจหอบแรง ลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวี๊ด จึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
🤧การป้องกัน
-หมั่นล้างมือให้สะอาด
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-แยกผู้ป่วยไวัรัส RSVเพื่อป้องกันการสัมผัส
-สวมหน้ากากอนามัย
ข้อมูล :นพ.เฉลิมไทย เอกศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจ
🤧สายตรงสุขภาพเด็ก โทร.1415
#สร้างอนาคตของชาติสร้างสุขภาพเด็กไทยให้แข็งแรง
RSV โรคหน้าฝนที่ต้องระวัง
.
จะเริ่มแสดงอาการหลังจากสัมผัสเชื้อไวรัส 4-6 วันโดยประมาณ เด็กโตและผู้ใหญ่มักพบอาการไข้ต่ำๆ ไอแห้ง เจ็บคอ น้ำมูก คัดจมูก ในขณะที่ผู้ป่วยเด็กเล็กอาจมีอาการของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ และ ปอดอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ไอมาก หายใจเร็ว หอบเหนื่อย
.
ควรนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการไข้สูงลอย รับประทานอาหารไม่ได้ หายใจลำบาก หอบ ปากเขียว ซึมลง
ไข้หวัดใหญ่​ VS ไข้หวัด​ RSV
#ไข้หวัดใหญ่ และ #RSV ระลอกใหม่
ส่งท้ายก่อนปิดเทอม...
ทุกคืนของที่นี่... โดยเฉพาะช่วงนี้
ก็จะมีเคสทั้งไข้หวัดใหญ่และ RSV
เข้ามารับการรักษาในรพ. ตามภาพเลยครับ
นี่ยังไม่รวม ที่สามารถกลับไปทานยารักษาที่บ้าน
ได้ และนอนอยู่ตามรพ.เอกชน อีกหลายราย
ระบาดมากแค่ไหน คงต้องรอตัวเลขจากส่วนกลาง
แต่หน้าฝนทีไร ก็ประมาณนี้ครับ... ส.ค.-ก.ย.
แน่นหอผู้ป่วยทุกปี...
#โค้งสุดท้ายก่อนปิดเทอมช่วยกันครับ...
ทั้ง 2 เชื้อนี้... ติดต่อผ่าน #การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่นน้ำมูก และ #สูดดมละอองฝอยจากการไอจาม
ของผู้ป่วย...
ดังนั้น...
#ล้างมือบ่อยๆ #สวมหน้ากากเมื่อไอจาม
#ห้ามหอมห้ามจูบเด็ก
หลีกเลี่ยงไปในที่ที่คนพลุกพล่าน / สถานที่ปิดแคบเช่น ในลิฟต์ (คนไอหนักๆโครมเดียว คิดหนักเลยครับ)
#การรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ถ้าไม่เคยรับมาก่อนเลย ช่วงนี้พึ่งฉีดอาจไม่ทันการ แต่ #ดีกว่าไม่ฉีด นะครับ... อย่างไรก็
#แนะนำว่าควรได้รับวัคซีนป้องกันทุกปีเสมอ....
#RSVไม่มีวัคซีนป้องกัน ต้องใช้มาตรการข้างต้นเท่านั้นครับ...
ขอให้ทุกท่านโชคดี ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ครับ
#หมอจิรรุจน์
กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ
ไขัหวัดใหญ่ กับ RSV มาแรงทั้งคู่
ทั้ง 2 มีไข้สูงเหมือนกัน แต่มีลักษณะต่างกันอยู่บ้าง
จากประสบการณ์ที่ตรวจเอง และทำ Lab เองที่คลินิกมาหลายสิบคน
พอแยกคร่าวๆได้ คือ
RSV >> ไข้สูง ไอ น้ำมูกมาก อาการหวัดเด่นมากๆ เด็กเล็กอาจลงไปที่หลอดลมฝอย ทำให้หอบ ได้
การรักษา ก็รักษาตามอาการ ไม่มียาต้านไวรัส สังเกตอาการหอบ หากไม่มีติดเชื้อซ้ำซ้อน ไข้ลงใน2-3วัน แต่ ไอ+น้ำมูก อย่างน้อย 7-10 วัน
ยังไม่มีวัคซีน!! ป้องกัน RSV โดยตรงนะครับ เป็นซ้ำได้ปีหน้า
ไข้หวัดใหญ่ Flu-A >> ไข้สูง น้ำมูกเล็กน้อย แต่ เจ็บคอมาก ปวดหัวมาก
อ่อนเพลีย ปวดตามตัว ( แต่ถ้าอาการเจ็บคอไม่มาก คอไม่แดง ระวัง ไข้เลือดออก ซึ่งก็เริ่มมาแล้ว)
การรักษา ก็รักษาตามอาการ มียาต้านไวรัส Oseltamivir ถ้าจะกินควรกินภายใน 2 วันนับจากวันที่มีไข้ ช่วยลดความรุนแรงได้ แต่หลัง 5วันไปแล้วอาจไม่มีประโยชน์
มีวัคซีนป้องกัน-ลดความรุนแรงฉีดปีละครั้ง
ทั้ง 2 โรค "สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย แยกเด็กที่ป่วย" ช่วยป้องกันการแพร่กระจายโรคได้
เดี๋ยวปิดเทอม ต.ค. นี้ สถานการณ์ในเด็กน่าจะดีขึ้น แต่ ถ้าไม่ควบคุม ไม่สวมหน้ากาก ลามไปติดผู้ใหญ่ ไปติดในสำนักงาน ทำงานวงกว้างๆ
 
เตรียมเปิดเพลง "บานปลาย" ของน้องโบกี้ ลายอ่อน รอได้เลยครับ...
#หมอจิรรุจน์
ปล. ไม่จำเป็นต้องตรวจ rapid test แบบในภาพในผู้ป่วยทุกรายนะครับ
ในช่วงที่มีการระบาดหนักๆ แบบตอนนี้ อาการของผู้ป่วยก็พอแยกได้ครับ
"การป้องกัน...สำคัญสุด"
10 ข้อเท็จจริงเรื่องไวรัส RSV กำลังระบาดหนักในเด็ก 😢 ทางการแพทย์ เตียงเต็มทุก รพ. สงสารเด็ก และเจ้าหน้าที่
1.ไวรัส RSV ชื่อเต็มคือ Respiratory syncitial virus อยู่ในกลุ่ม Pneumoviridiae ลักษณะเป็น single stranded RNA ค้นพบปี พ.ศ.2498 ครั้งแรกพบในลิงแชมแพนซี_พบการระบาดในคนช่วงปลายฤดูฝนต่อต้นฤดูหนาวประเทศไทยพบช่วงเดือน มิถุนายน-ตุลาคม มี 2 subgroup คือ A ละ B
2.ทำให้เกิดโรคปอดบวม (Pneumonia) หรือ หลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis) ส่วนใหญ่พบในคนไข้เด็กโดยเฉพาะน้อยกว่า 2 ปี
3.พยาธิกำเนิดสำคัญ 3 อย่าง_เมื่อติดเชื้อในทางเดินหายใจไวรัสจะทำลายเยื่อบุภายในระบบทางเดินหายใจ (ciliated epithelial cell) ทำให้เกิดเมือกหรือเสมหะ (mucus) และเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจที่ตาย (sloughed epithelial cell debris) ในทางเดินหายใจ และมีปริมาณ neutrophil มาก/ 3 อย่างได้แก่ 3 S (Swelling Spasm Secretion) โดยภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ใช้คือเม็ดเลือดขาวชนิด Tcell lymphocyte (CD8)
4.ระยะฝักตัว 2- 8 วัน ติดต่อทางการสัมผัสสารคัดหลั่งน้ำมูกเสมหะ อาการมีได้ตั้งแต่เล็กน้อยถึงรุนแรง ได้แก่ทางเดินหายใจส่วนบนอักเสบ ไข้อาจพบสูงหรือต่ำ ไอ น้ำมูก เสมหะ อาจไม่ต้องแอดมิดถ้าอาการไม่รุนแรง หรือทางเดินหายใจส่วนล่างอักเสบ จะมีอาการ ไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม ถ้ารุนแรงอาจพบภาวะหายใจล้มเหลว ออกซิเจนในเลือดต่ำและต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
5.การส่งตรวจเพื่อวินิจฉัย ส่วนใหญ่หมอเด็กจะอาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกาย จะพบลักษณะมีเสียงเสมหะในทางเดินหายใจ (coarse/fine crepitation) และหลอดลมตีบได้ยินเสียงหวีด (wheezing) ถ้าจะตรวจยืนยัน (ราคาแพง/ไม่ได้ตรวจทุก รพ.) ป้ายคอหอยหรือโพรงจมูกตรวจหาเชื้อ
6.การรักษา ไม่มียารักษาเฉพาะเจาะจง_มียากลุ่มต้านไวรัสชื่อ Ribavrin มีฤทธิ์ในหลอดทดลอง มีการนำมาใช้เป็นชนิดยาพ่นแต่ไม่แพร่หลาย ไม่มีใช้ในไทย _ส่วนยาปฏิชีวนะไม่มีความจำเป็น ยกเว้นมีภาวะติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยพบทราบจาก ไข้สูงลอย ไอหอบมาก ซึม ตรวจเลือดพบ WBC สูงและ neutrophil เด่น ทำ CXR พบ patchy หรือ alveolar infiltration
7.การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการ ที่เป็นมาตราฐานได้แก่ ให้สารน้ำ ให้ออกซิเจน (มีหลายชนิด ให้แบบทางสายจมูก ให้แบบออกซิเจน mask ให้แบบ high flow ดูดเสมหะ เคาะปอดเพื่อระบายเสมหะ มีการศึกษายาหลายชนิดพบว่ายังเป็นที่ถกเถียงเช่น montelucast Hypertronic saline, steroid, epinephrine, anticholinergic ยังไม่ได้ใช้ยาเหล่านี้เป็นยามาตราฐาน
8.การป้องกัน
8.1)ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส RSV (เคสศึกษาตั้งแตปี พ.ศ.2512 เป็นวัคซีน formaline-inactivated: หลังฉีดพบว่าเพิ่มการติดเชื้อมากขึ้นเรียกว่า immunopotentiation หรือ vaccine enhanced disease จึงยกเลิกการใช้ไป) ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่
8.2)หลีกเลี่ยงการติดต่อจากคนที่ป่วย ถ้ามีอาการไข้หวัดไม่ดีขึ้นใน 3 วันหรือมีอาการไอ หายใจหอบเหนื่อย ให้มาพบแพทย์ ล้างมือ รักษาความสะอาด รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ป่วยต้องหยุดเรียน
8.3)เนื่องจากอาจพบภาวะติดเชื้อร่วมกับเชื้ออื่นได้ แนะนำฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่หรือวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae) โดยเฉพาะคนไข้กลุ่มเสี่ยงได้แก่ อายุน้อยกว่า 2 ปี มีโรคประจำตัว อ้วน ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
8.4)ในต่างประเทศในเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อจะรุนแรงได้แก่ เด็กคลอดก่อนกำหนด (น้อยกว่า 29 สัปดาห์) มีโรคปอดเรื้องรัง หรือ หัวใจพิการแต่กำเนิด ให้ภูมิคุ้มกันชื่อ Palivizumab เป็น monoclonal antibody IgG ซึ่งเป็น passive immune โดยให้เดือนละ 1 ครั้งในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จะให้ป้องกันก่อนหน้าที่จะถึงฤดูระบาด ในประเทศไทยยังไม่มียาชนิดนี้ [ราคาต่อคอร์สเกือบ 2 แสนบาท] มีการศึกษาอีกชนิดคือ Motavizumab แต่ FDA ยังไม่รับรอง
9.สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ มีหลายการศึกษาพบว่าถ้ามีประวัติในครอบครัวเป็นภูมิแพ้หรือหอบหืด อนาคตเด็กอาจเป็นหอบหืดตามมาได้ บางการศึกษาพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดหอบหืดในอนาคต ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเช่น มีคนสูบบุหรี่ในบ้าน
10.RSVพบ 3 S: spasm secretion และ swelling
ช่วงนี้ได้ตรวจไข้หวัดบ่อย เลยอยากมาเล่าสู่กันฟัง
สิ่งสำคัญคือ ควรพยายามแยกผู้ป่วย ไข้หวัด (common cold) กับ ไข้หวัดใหญ่ (flu) ให้ออก
เพราะ ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสทั่วไป รักษาตามอาการ ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อ influenza virus ซึ่งความจริงแล้ว รักษาตามอาการก็พอ แต่ถ้าได้ยารักษาไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะทำให้หายเร็วขึ้น
โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยสูงอายุ หรือคนท้อง ควรได้ยารักษาไข้หวัดใหญ่
วิธีแยกง่ายๆ ก็คือ
ไข้หวัด (common cold) ก็จะมีน้ำมูก ไอ เด่น
ในขณะที่ (flu) ก็จะมีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวเด่น น้ำมูกกับไอไม่มากเท่าไหร่
หรือดูตามตารางได้เลย
บทความอื่นๆ
🔰RSV Pneumonia & Montelukast🔰
190919
UPDATED 2022.09.24
โฆษณา