15 ก.ย. 2019 เวลา 09:44 • ปรัชญา
ซีรีส์แสงธรรม
ตอน 'สรรพสิ่งทั้งปวง 'ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ชีวิต เป็นเพียงสภาวะ''
'นิสฺสตฺต นิชฺชีว สภาวา'
ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์นั้น
ที่จริงแล้ว ไม่มีคนเกิด ไม่มีใครตาย ไม่มีสัตว์อะไรที่ไหนทั้งสิ้น ไม่มีนก ไม่มีดวงดาว ไม่มีแก้วน้ำ ไม่มีแบงค์ร้อย ไม่มีข้าวปลาอาหาร ไม่มีใดๆ ทั้งสิ้น นอกไปจาก จิต-เจตสิก-รูป-นิพพาน / ขันธ์ ๕ / อายตนะ ๑๒ / ธาตุ ๑๘
🔸️สัจจะ🔸️
1. ความจริง มี ๒ คือ
๑. สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ เช่น คน พ่อค้า ปลา แมว โต๊ะ เก้าอี้
๒. ปรมัตถสัจจะ จริงโดยปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
2. ความจริง คือ
จริงใจ ได้แก่ ซื่อสัตย์
จริงวาจา ได้แก่ พูดจริง และ
จริงการ ได้แก่ ทำจริง
(ข้อ ๑ ในฆราวาสธรรม ๔, ข้อ ๒ ในอธิษฐานธรรม ๔, ข้อ ๔ ในเบญจธรรม, ข้อ ๗ ในบารมี ๑๐)
ความจริง(สัจจะ)แบบข้อแรกนั้นมี ๒ คือ
ความจริงโดยสมมุติ (สมมุติสัจจะ)
และ
ความจริงจริงๆ ความจริงโดยสภาวะแท้ๆ ความจริงของสภาพธรรมทั้งปวง (ปรมัตถสัจจะ)
🔸️สมมติสัจจะ🔸️
จริงโดยสมมติ คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์
เช่น นาย ก. นาย ข. ช้าง ม้า มด โต๊ะ หนังสือ พ่อ แม่ ลูก เพื่อน เป็นต้น
ซึ่งเมื่อกล่าวตามสภาวะ หรือโดยปรมัตถ์แล้ว ก็เป็นเพียงสังขาร หรือนามรูป หรือขันธ์ ๕ เท่านั้น;
ตรงข้ามกับ ปรมัตถสัจจะ
🔸️ปรมัตถสัจจะ🔸️
จริงโดยปรมัตถ์ คือ
ความจริงโดยความหมายสูงสุด จริงโดยสภาวะ สภาพธรรมชาติที่แท้จริง เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ตรงข้ามกับ สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ เช่น สัตว์ บุคคล ฉัน เธอ ม้า รถ นาย ก. นาย ข. เป็นต้น
💎💎💎💎💎
🔸️ปรมัตถ์🔸️
1. ประโยชน์อย่างยิ่ง คือ พระนิพพาน
2. ความหมายสูงสุด, ความหมายที่แท้จริง เช่น ในคำว่า ปรมัตถธรรม
🔸️ปรมัตถธรรม🔸️
สภาวะที่มีอยู่โดยปรมัตถ์,
สิ่งที่เป็นจริงโดยความหมายสูงสุด สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงทั้งที่เป็นฝ่ายโลก(ฝ่ายโลกียะ)และที่เป็นฝ่ายพ้นโลก(ฝ่ายโลกุตตระ) ทั้งหมดทั้งมวล ตามหลักอภิธรรมว่าที่จริงแล้วมีแค่ ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน
🔸️ปรมัตถปฏิปทา🔸️
ข้อปฏิบัติมีประโยชน์อันยิ่ง, ทางดำเนินให้ถึงปรมัตถ์, ข้อปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงประโยชน์สูงสุดคือบรรลุนิพพาน
🔸️สุญญตา “ความเป็นสภาพสูญ”, ความว่าง🔸️
1. ความเป็นสภาพที่ว่างจากความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะที่ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา คือ ไร้ตัว มิใช่ตน ว่างจากความเป็นตน ตลอดจนว่างจากสาระต่างๆ เช่น สาระคือความเที่ยง สาระคือความสวยงาม สาระคือความสุข เป็นต้น,
โดยปริยายหมายถึง หลักธรรมฝ่ายปรมัตถ์ ดังเช่นขันธ์ ธาตุ อายตนะ และปัจจยาการ (อิทัปปัจจยตา หรือ ปฏิจจสมุปบาท) ที่แสดงแต่ตัวสภาวะให้เห็นความว่างเปล่าปราศจากสัตว์ บุคคล เป็นเพียงธรรมหรือกระบวนธรรมล้วนๆ
2. ความว่างจากกิเลส มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ก็ดี สภาวะที่ว่างจากสังขารทั้งหลายก็ดี หมายถึง นิพพาน
3. โลกุตตรมรรค ได้ชื่อว่าเป็นสุญญตา ด้วยเหตุผล ๓ ประการ คือ
เพราะลุด้วยปัญญาที่กำหนดพิจารณาความเป็นอนัตตา มองเห็นสภาวะที่สังขารเป็นสภาพว่าง (จากความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน)
เพราะว่างจากกิเลสมีราคะเป็นต้น และ
เพราะมีสุญญตา คือ นิพพาน เป็นอารมณ์
4. ความว่าง ที่เกิดจากความกำหนดหมายในใจ หรือทำใจเพื่อให้เป็นอารมณ์ของจิตในการเจริญสมาบัติ เช่น ผู้เจริญอากิญจัญญายตนสมาบัติกำหนดใจถึงภาวะว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย;
สุญตา ก็เขียน
💎💎💎💎💎
นิสสัตต-นิชชีวะ ได้แก่ กฎแห่งเอกภพที่มิใช่สัตว์ มิใช่บุคคล หรือกฎธรรมชาติ
นิสสัตตะ นิชชีวะ โดยความหมายแล้ว หมายถึง ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยงที่ยั่งยั่งยืน เพราะเป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นธาตุที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะสภาวะความเป็นจริง แต่ละหนึ่งๆ เท่านั้น หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล ตัวตนไม่ได้ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน แทรกอยู่ในสภาพธรรมแต่ละหนึ่งๆ ได้เลย ครับ
ข้อความบางตอนจากคำบรรยาย แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๒๐๔๙ มีดังนี้
[อาจารย์สมพร ศรีวราทิตย์] ธาตุก็หมายถึงสภาวะที่มีอยู่จริง ในบาลีท่านใช้ว่า เป็นนิสสัตตะ นิชชีวะ ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ แต่ว่าเป็นของที่มีอยู่จริง หมายถึงธาตุนั่นเอง แต่ศัพท์เดิมมาจาก ธร เหมือนกัน เหมือนธรรม ก็เป็นสภาพที่มีอยู่จริง เป็นสภาพที่ทรงไว้
คำว่า ธาตุ ก็หมายความว่า ธรรมที่ปราศจาก คือ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลนั่นเอง เรียกว่า ธาตุ แต่เป็นของมีอยู่จริง ...
๑๑. "ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ. ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี" ติอาทีสุ นิสฺสตฺตนิชฺชีวตายํ.
ธมฺมศัพท์ที่ปรากฏในอรรถไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ชีวิต เช่นในอุทาหรณ์ทั้งหลายเป็นต้นว่า ก็ ในสมัยนั้นแล สภาวธรรมทั้งหลายมีอยู่ ภิกษุมีปกติพิจารณาธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่
 
ธมฺเมสุ นิสฺสตฺตนิชฺชีวสภาเวสุ ขนฺธาทิธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสิโน นิสฺสตฺตนิชฺชีวสภาวานุปสฺสิโน, น อิตฺถิปุริสาทิอนุปสฺสิโนติ อตฺโถ.
อธิบายว่า พิจารณาเห็นแจ้งธรรมในสภาวะที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ชีวิต คือในธรรมทั้งหลาย มีขันธ์เป็นต้น คือพิจารณาเห็นสภาวะที่ปราศจากสัตว์ ปราศจากชีวิต ไม่ใช่พิจารณาเห็นเป็นหญิง เป็นชาย เป็นต้น
💎💎💎💎💎
การปฏิบัติธรรม เจริญสติ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน เป็นหนทางให้เกิดปัญญาเห็นความจริงว่าทั้งหมดเป็นสภาวธรรม เป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ มาประชุมกันตามเหตุปัจจัย เกิดดับสืบเนื่องเป็นกระแสรูปนามไม่มีวันจบจริง ตราบจนคนใดได้ถึงซึ่งอรหัตตผล จึงจบสิ้นจริงๆ เมื่อพระอรหันตบุคคลท่านนั้นๆ ดับขันธ์ไป ก็ดับสนิท หมด ไม่เหลือเชื้อ จบกระแสการเกิดดับสืบต่อของรูปนาม ไม่มีการเกิดอีกต่อไป สิ้นภารกิจอันยาวนานและแสนทุกข์ในวัฏสงสาร
💎💎💎💎💎
สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทามิ
'นิพพานะ ปัจจโย โหตุ'
รวบรวมและเรียบเรียงจาก:
(๑)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
(๒)
(๓)
(๔)
💎💎💎💎💎
เพจ 'ธรรมะเน้นๆ A Great Degree Dhamma'
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา