กรรม วิบาก ภพภูมิ: ภพภูมิ
ตอน 'สรุปเรื่องภพภูมิ'
'ภูมิมนุษย์ คือ ชุมทาง'
'อยากไปไหนต่อ เลือกได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ณ ภูมิมนุษย์'
การนำเรื่องภพภูมิทั้งหมดมานำเสนอ จุดหมายหลักก็เพื่อเราท่านจะได้เห็นภาพรวมของสังสารวัฏ เห็นความน่ากลัวและความเป็นอันตรายของการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน ๓๑ ภพภูมิ
ภาพดอกบัว: Pinterest
เรื่องภพภูมิ เรื่องการที่สรรพสัตว์วนเวียน เวียนวนเกิดตายในภพภูมิเหล่านี้ ต่อเนื่อง ไม่มีสิ้นสุดลงได้เลย นอกเสียจากใครหวาดกลัวภัยในวัฏสงสาร เร่งพาตัวออกไปจากสรรพทุกข์ ไปสู่ทางสายที่ ๗ คือ พระนิพพาน ถึงจะจบเรื่อง
พระพุทธองค์ทรงสอน ให้ความรู้และวิธีการหมดแล้ว ว่าตราบเท่าที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด จะทำตัวอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงหรือเสี่ยงน้อยลงๆ ตามลำดับ กับการต้องลงอบาย (คือ เป็นสัตว์ เปรตและอสุรกาย และ สัตว์นรก)
และทำตัวทำใจอย่างไร สาธุชนที่ยังต้องเกิดอยู่จะเกิดให้ดี เกิดในสุคติภูมิ (มนุษย์ สวรรค์ พรหม)
เมื่อเราได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องภพภูมิ จะสังเกตเห็นได้ว่า อบายภูมิทั้งสาม เป็นที่เสวยหรือรับผลของการทำความชั่วต่างๆ อยู่ในอบายภูมิ ไม่มีความรู้ ไม่มีโอกาส ไม่มีจังหวะเวลา ให้ได้ทำความดีใหม่ เหล่าสัตว์เดรัจฉานล้วนมีชีวิตที่ลำบาก หวาดกลัวภ้ยอยู่ตลอดเวลา เหล่าเปรตอสุรกายและสัตว์นรก ก็ต้องรับกรรมด้วยความทุกข์ทรมานสาหัสต่างๆ นานา อยู่เกือบหรือตลอดเวลา
ในฝ่ายดีนั้น จะเห็นว่า สวรรค์และพรหมภูมิ เป็นที่เสวยผลของความดีต่างๆ ที่บุคคลได้สร้างสมไว้
สวรรค์จึงมีแต่ความสุข สุขที่รื่นรมย์ไปด้วยกามคุณอารมณ์ ได้แต่รูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสที่ดีๆ ละเอียดประณีต
ส่วนพระพรหมทั้งหลาย ท่านก็เสวยสุขแบบยิ่งสะอาด ประณีต เหนือสุขจากกามคุณอารมณ์
ทั้งเหล่าสัตว์ในอบายและเหล่าเทวดาและพระพรหม จึงเป็นที่เสวยผล ไม่ได้มีโอกาสหรือแทบไม่มีโอกาสทำชั่วหรือทำดีต่อ
ผิดกับในชาติที่เป็นมนุษย์ มนุษย์นั้นเปรียบเสมือนเป็นชุมทาง
กล่าวคือ ในเมืองมนุษย์ เราจะพบว่ามีทั้ง มนุษย์หรือคนที่จิตใจเป็นมนุษย์ (คำว่า มนุษย์ แปลว่า 'ผู้มีใจสูง') พบเห็นมนุษย์หรือคนที่จิตใจเหมือนสัตว์ร้าย คนที่มีจิตใจเหมือนเปรต เหมือนอสุรกาย เหมือนสัตว์นรก ในด้านดี เราจะเห็นมนุษย์ที่รักการทำบุญทำทาน ยึดมั่นการอยู่ในศีลในธรรม มนุษย์ที่รักการเจริญภาวนาทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา (=เจริญสติปัฏฐานสี่)
มนุษย์ มาด้วยบุญด้วยกุศล กรรมดีในอดีตส่งผลให้ได้เกิดเป็นคนในชาตินี้
ส่วนอนาคตจะไปไหนต่อ ก็ในภพภูมิมนุษย์นี้เอง ที่เราสามารถเลือกทางไปต่อได้ ด้วยการสะสมการกระทำที่เป็นสาเหตุให้ไปเกิดในภพนั้นๆ ภูมินั้นๆ
พระพุทธองค์ทรงจำแนกแจกแจงไว้หมดแล้ว ว่า ทำความชั่วอะไร ไปนรก ไปเปรต ไปอสุรกาย ไปเดรัจฉาน และ จะทำดีอะไร จะได้มาเกิดเป็นคน เป็นมนุษย์ เป็นเทวดาหรือพรหม
ทั้งหมดนี้ สรรพสัตว์เลือกทางไปต่อได้ ก็ในภพชาติที่เป็นมนุษย์นี้เอง อยากไปไหนต่อ เราเลือกได้! โดยเฉพาะเมื่อเราได้มีบุญเกิดมาพบพระศาสนา พระธรรมคำสอนอันยังเปิดแผ่ รุ่งเรือง สว่างไสวอยู่แบบช่วงเวลาประเสริฐนี้ เราย่อมแจ่มแจ้งในหนทางที่มีให้เลือกไปในกาลข้างหน้า
ที่สุดแล้ว ภพภูมิไหนๆ ทั้ง ๓๑ ภพภูมิในฝ่ายโลกียะนี้ ล้วนไม่น่ามี ไม่น่าเป็น ไม่น่าเอา
เกิดเป็นคน ก็สุขๆ ทุกข์ ฉลาดบ้างหลงโง่งมงายบ้าง เกิดในอบายไม่ต้องพูดถึง! เพราะมีแต่ทุกข์ฝ่ายเดียวเป็นส่วนมาก ใครจะอยากไป! ส่วนเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม ก็ดีอยู่ สบาย มีแต่ความสุข แต่มันก็ไม่มีอะไรเที่ยงอีก วันหนึ่งก็หมดเวลาสุข สิ้นอายุขัย ต้องเปลี่ยนภพชาติอยู่ดี
เทวดาบางองค์ หรือพระพรหมบางรูป เมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว ลำดับถัดไปที่รอท่าอยู่คือการลงอบายเลย ก็มี
ดังนั้น สุขในบรรดาโลกียภูมิทั้งหลาย ก็ล้วนไม่น่าเอาอยู่ดี เพราะมันไม่เที่ยง! ได้เสวยสุขแล้ววันหนึ่งก็ต้องถูกพรากไปด้วยอายุขัยและแรงกรรม
จึงมีเทวดาบางองค์ อธิษฐานขอมาเกิดเป็นคน ทั้งๆ ที่ยังไม่สิ้นอายุขัยที่จะเสวยสุขในแดนสวรรค์ ทิพยวิมาน
มาเกิดเป็นคน ในยุคที่มีพระพุทธศาสนานี้ จะได้มาสร้างสมความดี จะได้ได้ปฏิบัติธรรม ได้ห่มผ้าเหลือง เข้าผ้าขาว(แม่ชี) เป็นความดีอันเอกอุ นั่นคือ สะสมการกระทำ คำพูด ความคิด ชนิดที่จะนำพาตนเอง ออกจากสรรพทุกข์สรรพภัยทั้งปวงในสังสารวัฏ
มุ่งหน้าสู่โลกุตตรภูมิอันประเสริฐ หมดสิ้นภารกิจทุกข์ ไม่ต้องทุกข์อีกเลย
ทั้งหมดนี้ สาธุชนเลือกได้!
ในภพชาติที่เป็นมนุษย์นี้เอง!
สาธุ สาธุ สาธุ
นิพพานะ ปัจจโย โหตุ
เพจ 'ธรรมะเน้นๆ A Great Degree Dhamma'
วันเสาร์ที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
