21 ก.ย. 2019 เวลา 07:45
ค่าทวงถาม.. ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อต้องผ่อนรถ... 🤔🤔🤔
ประสพการณ์​ตรงเรื่องค่าทวงถาม
... เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก.... เมื่อต้องผ่อนรถยนต์​ ซึ่งใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน​ตั้งแต่​ 4​8​ งวดจนเดี๋ยวนี้​ถึง​ 84 งวด​ ผ่อนกันยันลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันเลย​ เพราะช่วงระยะเวลาการผ่อนที่ยาวนาน​ อาจมีสภาวะ​ที่การเงินสะดุด​ ส่งค่างวดล่าช้าบ้าง​ ซึ่งเป็นที่มาของค่าทวงถาม​ ซึงแอดเองก็เจอปัญหา​หานี้เหมือนกัน
รูปนี้คือไหว้แม่ย่านางรถ​ หลังจากผ่อนจนจบ..😁😁😁
ประเด็น​สำคัญก็คือ
เราจะต้องพยายามรักษา สถานะไม่ให้ขาดส่งเกิน 3 งวด​ เมื่อผ่อนจนครบ (แอดผ่อน72 งวด)​ ก็ยังไม่สามารถทำการโอนได้เลย เพราะติดเรื่องดอกเบี้ยล่าช้า และค่าทวงถาม
ในส่วนของ ดอกเบี้ยล่าช้าที่แอดเจอประมาณ 6, 000 กว่าบาท​ แอดยอมจ่ายเพราะถือว่า เราเป็นฝ่ายผิดนัด แต่ในส่วนของค่าทวงถาม ที่ยังไม่ได้ ส่งช้าเกิน 3 งวด​(ตามที่กฎหมาย​กำหนด)​ กลับ​เรียกมางวดละ 500 ทุกๆงวด จนกลายเป็นยอด 20,000 กว่าบาท​ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม เพราะเราเสียดอกเบี้ยทั้งหมดและเสียค่าดอกเบี้ยปรับล่าช้าอยู่แล้ว
ดังนั้น เมื่อผ่อนเสร็จเรียบร้อย​ จึง ติดต่อเข้าไปที่สำนักงานใหญ่ ของลิสซิ่ง แจ้งว่า จะไม่ชำระค่าทวงถาม
  ทางเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่าผู้ใหญ่ ลดให้ได้ 20% จาก 20,000 บาทเหลือแค่ 16, 000บาท ซึ่งถือว่ายังไม่เป็นธรรม ใจจริงๆ คือไม่ต้องการที่จะชำระเลย
ณ.จุดนี้แอดขอแนะนำสำหรับ ท่านที่มีปัญหา ให้ศึกษาข้อกฎหมาย ในมาตรา 8, 9,10 เกี่ยวกับ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งสามารถ Search หาได้จาก Google ศึกษาให้เข้าใจชัดเจนเพื่อเวลาตอบคำถาม กับพนักงาน จะได้ดูเป็นผู้มีภูมิความรู้( และแนะนำ ให้บอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าจะร้องไปที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ​ธปท ซึ่งจะได้ผล ชัดเจนมากกว่า)​
อันนี้​ไม่เกี่ยว​.... เอามาลงพักสายตาเล่นๆ..
แต่ในกรณีของแอด พลาดไปบอกว่าจะร้องไปที่​ สคบ. เลยต้องไปร้องที่สคบ.และมีการเรียกไกล่เกลี่ย ทำให้เสียรังวัด ตอนที่เจ้าหน้าที่สคบ.​ถามว่าสามารถจ่ายขั้นต่ำได้เท่าไหร่ แอดฯตัดสินใจบอกว่า 3,000 บาทซึ่งในใจตอนนั้นคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้
แต่พอถึงวันนัดเจ้าหน้าที่จากทางลิสซิ่งก็มา แล้วทางฝ่ายสคบ.เรียกไปคุย​เป็นส่วนตัวเฉพาะฝ่าย​ ไปยื่นข้อเสนอของเราให้กับลิสซิ่ง หลังจากออกจากห้องมาถึงได้คุยกันนอกรอบ​ และให้เบอร์ไว้ นัดวันโทรแจ้งรายละเอียด​
พอครบกำหนดเขาก็ยังไม่โทรมาแจ้ง​ แอดก็นิ่งไม่ติดต่อกลับ​ เพราะก่อนจะแยกจากกันแอดบอกแล้ว​ว่าถ้าตกลงกันไม่ได้จะทำการร้องเรียนไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หลังวันนัด​ เจ้าหน้าที่ลิซซิ่ง​ก็โทรมาอีกครั้งว่า ลดให้เหลือ 12,000 บาทไม่สามารถลดได้อีกแล้ว​ แอดจึงแจ้งว่าถ้าอย่างทางแอดนั้นก็จะร้องไปที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยเพราะว่ามันเป็นการเรียกเก็บซ้ำซ้อนผิดกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน แล้วก็ไม่ติดต่อเขาอีกเลย​
อีก 2-3 วันทางเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อกลับมาใหม่ มาถามเราว่าเราสามารถที่จะจ่ายได้เท่าไหร่แอดเลยจำเป็นต้องยืนยันความประสงค์ไปตามเดิมคือ 3,000 บาทจากที่เคยยื่นเรื่องไว้กับสคบ.
เลยตกกระไดพลอยโจนหลังจากนั้นเขาก็ให้แฟกซ์เอกสารเป็นการยืนยันว่าตกลงวันที่ 3,000 บาทส่งไปให้เขา แล้วก็ไปชำระที่หน้าเคาน์เตอร์บริษัทลิสซิ่งหลังจากนั้นก็ฝากเอกสารยืนยันไปที่สคบ. ว่าไม่ดำเนินเรื่องต่อได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
เท่ากับว่าชำระค่าทวงถามแค่​  3,000​ บาทจากยอด​ 20,000​บาท​  ตอนนี้คือได้รับเล่มที่โอนเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้ว
: ประเด็นหลักที่ทางลิซซิ่งฯ​ ยอมให้เราจ่ายเท่านี้​ เพราะหากมีการร้องเรียน​ และตรวจสอบ จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย จะทำให้เขาเจอปัญหา มากกว่าที่เป็นอยู่ อาจจะโดนรื้อหลายๆเรื่อง ที่ซุกอยู่ใต้พรม ซึ่งจะได้ไม่คุ้มเสีย เขาจึงตอบตกลง ในข้อเสนอที่เรายื่นไปแต่ก็มีการเล่นตัวกันนาน กว่าจะตกลงกันได้
: สำหรับท่านที่เจอปัญหาในเคสอย่างนี้​ รบกวนให้ศึกษาข้อกฎหมาย​ให้เข้าใจ​ ไม่ได้เอาว่าความเพียงแต่ให้สามารถตอบคำถามได้อย่าง ชัดเจนรวดเร็ว
ดูมีความรู้​ สามารถต่อรองกับเจ้าหน้าที่บริษัท​ลิซซิ่งได้
.. ก็ลองดูครับ​ เผื่อจะเป็นประโยชน์​กับอีกหลายๆท่านด้วยครับ​
... 😁😁😁 อ่านจบรบกวนกดติดตาม​ กดไลค์​กดแชร์​กัน​หน่อย​นะ​ครับ​ เพื่อ​เป็น​กำลังใจมือใหม่หัดเล่าเรื่อง.... ขอบคุณ​ครับ​
โฆษณา