21 ก.ย. 2019 เวลา 11:54 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ฝนตกหนักช่วงนี้ ชื้นๆ ฉ่ำๆ ยังงี้ เป็นใจให้ยุงเพาะพันธุ์ขยายตัวดีทีเดียว
ช่วงเดือนนี้ นอกจากไข้หวัดใหญ่ และ ไข้เลือดออก แล้ว น้องที่มาแรงไม่แพ้กันคือน้องชิคุนกุนยา หรือไข้ปวดข้อยุงลาย
Chikugunya ขอเรียกสั้นว่า น้องชิคุน น้องไวรัสนี้ติดต่อได้ผ่านยุงลาย (Aedes spp.) เหมือนกับเชื้อไข้เลือดออกเลย ทั้งยุงลายบ้าน และ ยุงลายสวน
เวลาคนไข้มาพบคุณหมอ มักมาด้วยอาการ
- มีไข้
- มีผื่นแดงๆ ตาแดง
- ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ
คล้ายกับไข้เลือดออกมากเลย แล้วคุณหมอจะรู้ได้ยังไงนะว่าเป็นอะไรแน่
ชิคุน จะมีอาการเด่น คือ ไข้จะสูงสองวันแรก และจู่ๆก็ไข้ลด บางคนนึกว่าหายไข้ แต่กลับเจออาการปวดข้อ เพราะ main target ของน้องชิคุน คือ fibroblas ในร่างกาย
คนไข้จึงมักปวดข้อมากๆ โดยเฉพาะข้อนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก รึข้อเข่า โดยอาการปวดข้ออาจหายภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่บางรายใช้เวลา 3 เดือน จนถึงเป็นปี
เมื่อเริ่มแรกที่โดนยุงลายกัด จนเริ่มมีอาการ ซึ่งแสดงว่าเชื้อไวรัสจากน้ำลายยุงแพร่เข้ากระแสเลือดแล้ว ระยะนี้ คือช่วงวันที่ 2-3 จะเริ่มเป็นไข้ มีอาการเหมือนไข้ทั่วไป เชื้อจะใช้เวลาบ่มตัวเองประมาณ 3-7 วัน ระยะนี้หากมาโรงพยาบาล คุณหมอจะต้องวินิจฉัย โดย rule out ไข้เลือดออกก่อน
เบื้องต้นมักสอบถามประวัติ ตรวจอาการเบื้องต้น และเจาะเลือดส่ง CBC กับ Screening test เพื่อประเมินเบื้องต้น ที่นิยม คือส่ง Chikungunya IgM คู่กับ Dengue virus screening เพราะจากกราฟจะเห็นว่าภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อเชื้อ คือ IgM จะเริ่มขึ้นในวันแรกๆ ที่แสดงอาการ ใกล้เคียงกับจังหวะเชื้อมีปริมาณมากในกระแสเลือด ( viremia)
บางแห่งอาจตรวจ IgG ร่วมด้วยหากไม่แน่ใจว่าคนไข้เป็นมานานเกือบ หรือ เกินสัปดาห์
หากบางแห่งสามารถตรวจ PCR ได้ ก็จะส่ง Chikungunya virus PCR ร่วม ก็จะให้ผลตรวจที่ค่อนข้างแม่นยำทีเดียว
การรักษานั้น ยังไม่มีวิธีหรือยาเฉพาะ คุณหมอก็จะรักษาตามอาการค่ะ
หากพบอาการข้างต้น รีบมาโรงพยาบาลนะจ๊ะ ที่สำคัญดูแลสุขภาพ ระวังยุงกัด และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงรอบบ้าน มาร่วมด้วยช่วยกันนะจ๊ะ😀
โฆษณา