Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลุงแมน
•
ติดตาม
22 ก.ย. 2019 เวลา 03:16 • ประวัติศาสตร์
อาณาจักรสหพัฒนพิบูล ตอนที่ 2
กำเนิดร้าน "ลี้เปียวฮะ "
"เฮงเทียม แซ่ลี้" (เทียม โชควัฒนา)
ในวัย 6 ขวบ คณพ่อของเขาพาเดินทางไปเมืองจีน เพื่อจะได้ไปเยี่ยมครอบครัวตระกูลลี้ และต้องการให้เรียนหนังสือ เพราะสมัยนั้นประเทศไทยยังไม่มีโรงเรียนจีน
คุณเทียมมีพี่ชาย 2 คน พี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน เป็นลูกของคุณซูเฮียง (ภรรยาอีกคนของพ่อที่เมืองจีน) และมีน้องชาย 2 คน น้องสาว 1 คน เป็นลูกคุณสอน ที่เมืองไทย
ต่อมาคุณพ่อคุณเทียมก็ได้เปิดร้าน
"ลี้เปียวฮะ " ที่สี่แยกวัดตึก เป็นร้านโชห่วย ขายข้าวสาร อาหารแห้ง หมี่ และน้ำตาล เป็นอาหารแห้งทุกชนิด
การค้าอาหารการกิน ทำให้ไม่อดอยาก คุณพ่อคุณเทียมได้แบ่งงานให้น้องๆช่วยกันทำ บางคนที่หน้าที่ซื้อ บางคนทำหน้าที่ขาย บางคนทำหน้าที่ควบคุมคนงานแบกหาม
ส่วนคุณพ่อคุณเทียมดูแลการเงิน โกดังทั้งหมด โดยจะเป็นคนแบ่งจำนวนข้าวสารและของจำเป็นให้แก่พี่น้อง และตั้งเงินเดือนให้พี่น้องทุกคน รวมทั้งญาติๆ ที่อพยพมาจากเมืองจีนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
ในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้นมีการเลิกทาส และมีฝรั่งเข้ามาค้าขายในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง จึงทำให้คนจีนอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยทำมาค้าขายต่อจากห้างฝรั่ง ก็คือเป็นพ่อค้าคนกลาง ทำหน้าที่เป็นผู้ค้าปลีก ค้าส่งสินค้าต่างๆ
ทำให้รายได้ของ"ลี้เปียวฮะ"ในสมัยนั้นนับว่าเป็นร้านค้าโชห่วยที่สำคัญ มีสินค้ามากมายเต็มโกดัง
จึงเกิด"ตลาดทรงวาด" ซึ่งสั่งสินค้าจากฮ่องกง สิงคโปร์ และซัวเถา เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันก็มีห้างต่างชาติเกิดขึ้น เช่น ห้างบอร์เนียว ห้างโอเรียนเต็ลสโตร์ ห้างเอ.อี นานา ห้างญี่ปุ่น เช่น ห้างมิตซุย ห้างอินเดีย เป็นต้น
เมื่อคุณเทียมกลับจากเมืองจีน ซึ่งประเทศไทยมีโรงเรียนจีนสำหรับเด็กผู้ชายล้วน ชื่อโรงเรียนเผยอิง (โรงเรียนนี้สร้างเจ้าสัวมาแล้วมากมาย) ตั้งอยู่ที่ถนนทรงวาด ติดกับศาลเจ้าเล่าปิงเถ้ากง ส่วนมากนักเรียนเผยอิงเป็นลูกคนจีนและคุณเทียมก็เรียนที่แห่งนี้จนถึงอายุ 15 ปี เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ คุณเทียมจึงลาออกมาช่วยคุณพ่อทำงาน
คุณเทียมได้รับการกล่อมเกลานิสัย จนกระทั่งค่อยๆ ตระหนักในความเป็นจริงที่ว่า "คนเราเมื่อเจือจานผลประโยชน์ให้แก่คนอื่นและส่วนรวม ก็เหมือนกับคนปลูกต้นไม้ หากต้นไม้ออกลูกออกผลแต่เราเก็บผลนั้นไว้กินเพียงผู้เดียวโดยไม่แบ่งปันแก่ผู้อื่น ใครไหนเล่าจะสามารถรู้ว่าผลไม้นั้นสุกงอมแล้วหอมหวานสักเพียงใด"
ต้นไม้และผลไม้ของเราจะเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อให้ร่มเงาแก่สัตว์เล็กสัตว์น้อย ทั้งยังให้คนที่ยากไร้หิวโหยได้มีโอกาสเก็บผลอันสุกงอมซึ่งร่วงหล่นมากินเพื่อประทังชีวิต
คุณพ่อคุณเทียมมักจะพูดเสมอว่า “ธรรมดาของการค้าขายย่อมมีขึ้นมีลง ไม่แน่นอน การค้าอาจจะเฮงอยู่สองสามปี ตอนมีเงินก็ส่งเงินกลับไปซื้อที่นาและทรัพย์สินไว้ที่เมืองจีน เหมือนกับเป็นทุนเก็บไว้ แต่อีกสองปีต่อมา เมื่อการค้าขาดทุนก็จำเป็นต้องขายที่นาและทรัพย์สินเหล่านั้นมาใช้หนี้ วนเวียนกันอยู่เช่นนี้
คุณพ่อคุณเทียมยังพูดอีกว่า “เงินทองเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวมากที่สุด บางทีเปิดบัญชีให้แก่ลูกค้า เมื่อถึงเวลาเก็บเงิน ปรากฏว่าลูกค้าไม่มีเงิน ทำให้ขาดเงินจ่ายเจ้าหนี้ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดมาก ทำให้นอนไม่หลับไปหลายคืน”
ซึ่งต้องมีความรอบคอบระมัดระวังเรื่องเงินทองเสมอ เวลาที่มีลูกค้านำเงินมาชำระหนี้หรือเมื่อเก็บเงินหน้าร้านได้ ก็จะรีบนำไปเข้าธนาคารหรือไม่ก็จะเรียกเจ้าหนี้ให้มารับการชำระหนี้ทันที
คำพูดที่คุณพ่อคุณเทียมย้ำเตือนอยู่เสมอในขณะนั้นคือ “เป็นลูกผู้ชายจะต้องรักษาสัจจะวาจา หากไปรับปากกับใครเขาแล้วก็ต้องทำให้ได้ตามที่พูด หากเห็นว่าทำไม่ได้ก็อย่าไปรับปากเขาเป็นอันขาด”
คำสอนต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นมรดกตกทอดมาสู่คุณเทียม โชควัฒนาทั้งสิ้น
ฝากติดตาม อาณาจักรสหพัฒนพิบูล ตอนที่ 3
References
https://th.m.wikipedia.org
http://www.sahaunion.com
http://www.bizpromptinfo.com
https://thepeople.co.th
https://www.matichon.co.th
https://mgronline.com
หนังสือ 100 ปี ดร.เทียม โชควัฒนา
31 บันทึก
150
10
21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อาณาจักรสหพัฒนพิบูล
31
150
10
21
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย