22 ก.ย. 2019 เวลา 04:00 • บันเทิง
“Shutter Island” ถึงแม้ตอนดูมันจะสับสน งงงวย แต่หนังเรื่องนี้ก็ลากคนดู ให้ดูไปจนจบเรื่องได้ เพราะมันทั้งเครียด ทั้งลุ้น ทั้งสับสน อยากรู้ตอนจบแบบสุดๆ....
ตัวละครหลักของเรื่องคือ “Teddy” นำแสดงโดยนักแสดงมากความสามารถแสดงดีทุกเรื่องแต่กว่าจะได้ Oscar ก็ปาไปหลายปีครับสำหรับ “Leonardo DiCaprio” ในเรื่องนี้ “Teddy” ตำรวจศาลผู้ได้รับหน้าที่มาสืบคดีพร้อมผู้ช่วยอีก 1 คนคือ “Chuck” นำแสดงโดย “Mark Ruffalo” ทั้งคู่ต้องมาสืบคดีการหายตัวไปของ นักโทษหญิงที่มีอาการป่วยทางจิตคนนึงที่ Shutter island ซึ่งเป็นเกาะที่มีไว้ขังอาชญากรที่มีอาการป่วยทางจิต นักโทษคนนี้มีชื่อว่า “Rachel”
“Teddy” พยายามสืบและค้นหาความจริง แต่ยิ่งสืบก็ยิ่งพบความแปลกของคดี การให้ความร่วมมือของพยานและหมอประจำเกาะก็ดูจะไม่ได้เรื่องเอาซะเลย อีกทั้งยังเกิดเรื่องราวที่หลอกหลอนตัวเองในความฝัน “Teddy” จึงเริ่มที่จะปะติดปะต่อเรื่องและใกล้ความจริงเข้าเรื่อยๆ
แต่ความจริงที่เขาพบกลับเป็นเรื่องราวของตัวเขาเองที่เกิดขึ้นในอดีต และเรื่องราวที่ตัวเองไปรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องทั้งหมดจะลงเอยยังไง คดีจะถูกคลี่คลายหรือไม่ นักโทษที่หายตัวไปจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ต้องติดตามชมครับ
สำหรับเรื่องนี้ เป็นหนังที่ต้องดูให้จบครับ ห้ามเลิกดูกลางเรื่องเด็ดขาด ไม่งั้นคุณจะติดค้างกับมันครับ ถึงแม้ว่าคุณจะพยายามเดาตอนจบไว้แล้ว แต่เชื่อเถอะคุณต้องมีเปลี่ยนคำตอบบ้างแหละ เพราะหนังปั่นหัวเราซะไม่เหลือเลยครับ ขนาดดูจบแล้ว ยังต้องมานั่งคิดทบทวนในแต่ละฉากๆ อีก
ความยาวหนัง 2 ชั่วโมง 18 นาที เป็นเวลาที่ค่อนข้างนานครับ แต่ก็นั่นแหละครับ หนังลากเราไปจนจบเรื่องจนได้ ออกฉายเมื่อปี 2010 กวาดรายได้ทั่วโลกไปประมาณ 294 ล้านเหรียญสหรัฐ ดูเสร็จก็เตรียมยาพาราเซตามอลซัก 1 เม็ด ไม่ก็มาระบายกันในโพสต์นี้ได้ครับ แต่ก็อย่าเพิ่งสปอยล์ให้เพื่อนๆที่ยังไม่ได้ดูนะครับ
“การยอมรับความจริงของตัวเองและอยู่กับมันให้ได้ เป็นสิ่งที่ควรมีนะครับ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าจะปรับปรุงมันยังไง จะพัฒนามันยังไง เราคงหลอกตัวเองไปไม่ได้ทั้งชีวิตหรอกครับ”
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก www.imdb.com
โฆษณา