23 ก.ย. 2019 เวลา 01:05 • ไลฟ์สไตล์
เหล้าทำร้ายเรา เราทำร้ายใคร?
.
.
.
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า บทความนี้เป็นตอนที่3แล้วนะครับ ที่ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องเหล้า...(ใครยังไม่ได้อ่าน2ตอนแรกไปอ่านได้เลยนะครับ)
เชื่อว่าหลายคนมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องเหล้า ไม่ว่าจะทั้งด้านที่ดี หรือด้านที่แย่ แต่มันจะอยู่ในความทรงจำคุณแน่นอน...
ในบางเวลาเหล้าอาจจะมอบความสุขให้แก่ใครหลายคน แต่ในเวลาเดียวกัน ใครอีกหลายคนก็อาจจะต้องทนทุกข์เพราะเหล้า ผมเชื่ออย่างนั้น...
ผมเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มเหล้า คือดื่มได้แต่ถ้าเลือกได้ผมจะไม่ดื่ม แต่ผมไม่เคยมีอคติหรือรังเกียจคนที่ดื่มเหล้านะ คุณดื่มไปเถอะ
ผมยินดีด้วยถ้ามันทำให้คุณมีความสุข แต่ขออย่างเดียว ขอให้การมีความสุขของคุณไม่ไปเบียดเบียนใครก็พอ...
ที่เกริ่นมาทั้งหมด เพราะวันนี้ผมมีเรื่องจะมาเล่า(เหล้า) เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมเอง
ย้อนกลับไปเมื่อ วันอาทิตย์ ที่ 24 ธันวาคม 2549 ก่อนวันคริสต์มาส 1 วันเมื่อเกือบ13ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมอายุ8ขวบ
เรียนอยู่ชั้นป.2 ความทรงจำส่วนนี้ติดอยู่ในหัวผมตลอดมา และคงจะไม่ลืมแน่ในชีวิตนี้...
วันนั้นตอนเย็นที่บ้านย่า
(อยู่อีกอำเภอ ห่างจากบ้านที่พ่อแม่ผมอยู่ประมาณ50กิโลเมตร) พ่อดื่มเหล้ากับเพื่อนๆของพ่อ ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน(ผมไปกับพ่อ2คน เพราะแม่พึ่งไปหาพี่สาวที่กรุงเทพ) พ่อดื่มหนักจนเมามาก แต่วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ วันจันทร์ผมต้องไปเรียน พ่อจึงต้องพาผมกลับไป ย่าเห็นว่าพ่อเมามากแล้วจึงห้ามไม่ให้ขับรถกลับ แต่พ่อยืนยันว่าพ่อไม่เมา ยังขับรถได้(รถมอเตอร์ไซค์ Dream 125 สีดำ ขายไป10ปีแล้ว555) สุดท้ายพ่อก็ขับรถพาผมกลับบ้าน
เวลาประมาณ2ทุ่ม ในตอนนั้นผมใส่แค่กางเกงขาสั้น เสื้อกันหนาวบางๆ ไม่ใส่หมวกกันน็อค ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าพ่อขับรถไม่นิ่งแล้ว...
พ่อขับรถด้วยความเมา ออกมาจากบ้านย่าได้ประมาณ15กิโลเมตร มีทางตรงก่อนเข้าโค้งจุดหนึ่ง มีรถพ่วงขับแซงมา(แซงมาปกตินี่แหละ) แต่ด้วยความเมาจึงคุมรถไม่ได้ รถเลยหลุดไถลออกไปข้างทาง ผมน่าจะกระเด็นออกจากตัวรถไปไกล(ผมไม่รู้สึกตัวแล้วตอนนั้น) รู้ตัวอีกทีตอนตื่นมาอยู่ห้องฉุกเฉินแล้ว ซีกขวาของหน้าผมถลอกไปเกือบทั้งหมด แผลเหวอะหวะ แขนขวากระดูกร้าว ซีกขวาของตัวแผลเต็มไปหมด (ที่พูดมานี่พันผ้าพันแผลหมดนะครับ ตอนนี้ทั้งหน้ามีแค่ตาที่ไม่ถูกพัน555) หมอบอกว่าโชคดีมากที่อวัยวะภายในไม่เป็นอะไรมาก
(มีคนบอกว่า ก่อนหน้านั้นไม่ถึงอาทิตย์ จุดที่เกิดเหตุตรงนี้มีคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป1ราย หมวกกันน็อคใบนั้นยังอยู่ข้างต้นไม้แถวนั้นอยู่เลย) ณ ปัจจุบันนี้คิดแล้วก็ยังหลอนอยู่...
พ่อไม่เป็นอะไรมาก เพราะใส่หมวกกันน็อค
แต่กางเกงยีนส์ขาด เสื้อขาดนิดหน่อย มีแผลถลอกตามตัวบ้างเล็กน้อย...
ตอนที่ผมฟื้นแล้วเจอพ่อครั้งแรก ผมเห็นพ่อร้องไห้แล้วเข้ามาขอโทษ ผมในตอนนั้นที่ยังขยับตัวไม่ได้เลย... แม่รีบกลับจากกรุงเทพมาหาผม ผมเห็นแม่ร้องไห้ แม่เฝ้าดูผมอยู่ตลอดใน2สัปดาห์ที่ผมอยู่โรงพยาบาล
ผมกลับจากโรงพยาบาล มาพักฟื้นที่บ้านอีก1เดือน กว่าจะกลับไปเรียนตามปกติได้
หน้าผมตอนไปโรงเรียนเต็มไปด้วยแผลเป็น
เพื่อนตั้งฉายาว่า ไอ้หน้าสิงโต(ไม่ได้โกรธเพื่อนนะตอนนั้น รู้สึกเท่ดี555)
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น พ่อผมเลิกเหล้าไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง(แล้วก็กลับไปดื่มอีก แต่ในปัจจุบันดื่มน้อยลงมากแล้ว...มั้ง...)
พ่อรู้สึกผิดมาตลอดในเรื่องนี้ มันกลายเป็นปมในใจทั้งพ่อและผม ตอนป.6ผมเคยคิดอยากจะดื่มเหล้าให้เสียคนไปเลย แต่ผมทำไม่ได้ เพราะมีคนหนึ่งคงเจ็บปวดมากถ้าผมกลายเป็นแบบนั้น...แม่ผมเอง
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจึงหล่อหลอมให้ตัวผมในปัจจุบันเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มเหล้า เพราะทุกครั้งที่ผมดื่มเหล้า เหตุการณ์เหล่านี้มันย้อนกลับมาทำร้ายทุกที เป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลบไปได้ ผมจึงต้องยอมรับ จดจำ และให้มันเป็นบทเรียนในชีวิตของผมเอง ว่า"อย่าให้เหล้าทำร้ายเรา จนทำให้เราต้องไปทำร้ายใคร"
สุดท้ายนี้อยากจะฝากขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อดทนอ่านจนถึงบรรทัดนี้ ผมหวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่มากก็น้อย หากมีข้อคิดเห็น อยากเสนอแนะหรือติชมอะไร ฝากข้อความแสดงความคิดเห็นไว้ได้นะครับ
.
ยุทธกร 23/9/62(จะสอบมิดเทอมแล้วนะ)
โฆษณา