23 ก.ย. 2019 เวลา 03:21 • ประวัติศาสตร์
ปลาคาร์พสายพันธุ์ 'โคฮากุ' (Kohaku) ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ สมัยก่อนมันมีชื่อว่า 'ซาราสะ' (Sarasa)
(ตอนที่ 1)
ซาราสะ แปลตรงตัวว่า ผ้าพิมพ์ เป็นชื่อที่บรีดเดอร์ชาวญี่ปุ่นใช้เรียกแทนการเปรียบเทียบปลาคาร์พสีขาวที่มีจุดสีแดงเกิดขึ้นบนลำตัวหรือใบหน้ามานานกว่าสองร้อยปีมาแล้ว
จากบันทึกทางประวัติศาสตร์มีการกล่าวไว้ว่า ซาราสะถูกพบครั้งแรกราวๆ ปี ค.ศ.1800 เป็นปลาที่มีลักษณะลำตัวสีขาวและมีสีแดงเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าและลำตัวของปลา ซึ่งชาวบ้านสัณนิษฐานว่าเกิดจากการผ่าเหล่าของปลาไนสีดำอย่างมากอย (Magoi)
ต่อมาชาวบ้านได้นำมันไปผสมกับปลาคาร์พสีแดงล้วนอย่างฮิกอย (Higoi) จนเกิดเป็นปลาคาร์พสีขาวที่มีแพทเทิร์นสีแดงหลากหลายมากขึ้น ทั้งสีแดงพาดใต้ท้อง สีแดงพาดหลัง และสีแดงที่กระจายไปทั่วบริเวณลำตัว และมีการตั้งชื่อที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะลวดลายของปลา แต่ชื่อที่ได้รับการพูดถึงมากในยุคนั้นคือซาราสะ
ภาพจาก www.no1koi.com
ในขณะนั้นซาราสะเริ่มเป็นที่สนใจของผู้คนมากขึ้น และโด่งดังมากขึ้นไปอีกในปี ค.ศ.1914 เมื่อนายฮิโคซาบูโร่ ฮิราซาว่า (Hikozaburo Hirazawa) ได้นำเอาปลาคาร์พซาราสะที่มีสีขาวสลับแดงสวยงามไปโชว์ตัวที่งาน Taisho Exhibition
หลังจากนั้นซาราสะก็กลายเป็นปลาที่ชาวบ้านในนิงาตะนิยมนำไปเพาะพันธุ์กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น จากปลาไนที่ชาวบ้านเคยจับมาทำเป็นอาหาร บัดนี้ได้กลายมาเป็นการจับเพื่อเพาะพันธุ์ไว้เลี้ยงเล่นแทน
การเพาะพันธุ์ปลาซาระสะแพร่หลายออกไปเรื่อยๆ ฟาร์มปลาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากชาวบ้านธรรมดาก็กลายมาเป็นบรีดเดอร์เพาะปลา และพวกเขาก็ตั้งชื่อปลาตามสายเลือดที่แต่ละฟาร์มทำขึ้น โดยสายเลือดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนั้นมีชื่อว่า โกสุเกะโคฮากุ (Gosuke Kohaku)
โกสุเกะโคฮากุ มาจากการตั้งชื่อตามสายเลือดปลา (Bloodline) ของฟาร์มปลาคาร์พที่ชื่อว่าโกสุเกะ (Gosuke) สวนคำว่าโคฮากุนั้นให้ความหมายว่าสีแดงและสีขาวดุจหิมะ (โค=สีแดง, ฮากุ=สีขาวดุจหิมะ)
ฟาร์มแห่งนี้สามารถเพาะปลาซาราสะให้มีลวดลายที่สวยงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ปลาซาราสะให้กลายมาเป็นโคฮากุในยุคแรกเลยทีเดียว
นายคุนิโซะ ฮิรอย (Kunizo Hiroi) จากฟาร์มโกสุเกะได้นำปลาเพศผู้สีขาวที่มีจุดสีแดงกระจายไปทั่วตัว (Goten Sakura) มาผสมเข้ากับปลาคาร์พเพศเมียที่มีสีขาวและมีสีแดงกระจายคลุมทั้งหัว (Menkaburi) จนสามารถผลิตปลาที่มีลวดลายสีแดงพาดตามหลังอย่างสวยงาม และตั้งชื่อสายเลือดปลาของเขาว่าโกสุเกะโคฮากุ (Gosuke Kohaku)
ภาพจาก www.no1koi.com
ในตอนนั้นโกสุเกะโคฮากุเป็นสายเลือดปลาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ฟาร์มปลาหลายๆ ฟาร์มได้นำปลาสายเลือดดังกล่าวไปเป็นต้นสายของพวกเขาอีกที และหนึ่งในนั้นคือฟาร์มที่มีชื่อว่าโทโมอิน (Tomoin) ฟาร์มแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ต่อยอดและพัฒนาสายพันธุ์โกสุเกะโคฮากุได้ดีมาก และมีสายเลือดที่นิ่งที่สุดในยุคนั้น ซึ่งต้องบอกว่ามันมีเรื่องของโชคเข้ามาเกี่ยวข้องนิดๆ
เรื่องมีอยู่ว่าในปี ค.ศ.1935 นายโกจิโร่ ซาโต้ (Goroji Sato) ได้ซื้อแม่ปลาโคฮากุสายเลือด Gosuke Kohaku มาจากฟาร์มซากุเซน (Sakuzen) ในราคา 500 เยน แล้วนำมาขายต่อให้กับฟาร์มโคอิเดะ (Koide) แต่ทางฟาร์มโคอิเดะกลับไม่ได้นำปลาตัวนี้ไปเพาะพันธุ์ต่อ ทางฟาร์มโกสุเกะทราบเรื่องนี้เข้า จึงไปติดต่อขอซื้อแม่ปลาคืนเพื่อนำไปขายให้กับนายเกนจิ โฮชิโนะ (Genji Hoshino) เจ้าของฟาร์มโทโมอินในขณะนั้น
ฟาร์มโทโมอินตัดสินใจที่จะนำแม่ปลาตัวนี้มาลองเพาะพันธุ์ และทุกอย่างก็เข้าล็อค เมื่อแม่ปลาโกสุเกะโคฮากุได้ให้ผลผลิตลูกปลาออกมาเป็นจำนวนมาก แถมยังเป็นลูกปลาที่มีคุณภาพดีจนได้รับการยอมรับกันว่าเป็นสายพันธุ์โคฮากุที่ดีที่สุดเป็นสายพันธุ์แรกๆ ของยุคอีกด้วย ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่แล้วก็มีเหตุให้แม่ปลาโกสุเกะโคฮากุตัวนี้ต้องย้ายพำนักอีกครั้ง
ติดตามตอนที่สองได้เร็วๆ นี้นะครับ
อนึ่ง บางตำรามีการจำแนกชื่อของมันออกไปตามลักษณะการขึ้นของสีแดง ไม่ว่าจะเป็นใต้ท้องปลา แก้มปลา หรือคลุมทั้งหน้าปลา ซึ่งยังไม่มีบันทึกใดที่ให้ความชัดเจนในเรื่องของชื่อปลาเหล่านั้นได้ จึงไม่ขอกล่าวถึงชื่ออื่นๆ ของปลาในยุคนั้นนะครับ
ขออนุญาตกดไลค์หรือแชร์เพจเล็กๆ ของเราด้วยนะครับผม ขอบคุณครับ-FISH BLOGGER THAILAND-
โฆษณา