23 ก.ย. 2019 เวลา 03:43 • ปรัชญา
"ความรัก50บาท"
เมื่อตอนผมอายุ16 กำลังเรียนที่วิทยาลัยแห่งนึง
เป็นการเข้ามาปีแรกของการเรียน​ เวลา08.00
คุณครูประกาศให้เข้าแถวตอนเช้า​
แล้วผมเป็นคนตัวสูงต้องอยู่หลังสุด​ แล้วก็ยืนฟังครูพูดเรื่องกิจกรรมในวิทยาลัย​ สายตาของผมก็มองไปรอบวิทยาลัยเพื่ออยากรู้ว่ามันกว้างแค่ไหนมีที่นั่งเล่นตรงไหนบ้าง....
แต่สายตาผมก็ไปเจอผู้หญิงคนนึง​ ผิวขาวอวบๆกำลังคุยกับเพื่อนด้วยความสนุกแล้วผู้หญิงคนนั้น
ก็ยิ้มแล้วหันมาหาผม​ ทำให้ผมหลงรักรอยยิ้มของเธอ
พอเวลาเข้าแถวหมดแล้ว​ ผมก็มองตามผู้หญิงคนนั้นเรียนห้องไหนปีไหน​ แล้วผมก็รู้ว่าเธออยู่ปี2​รุ่นพี่ผม...
พอเวลาพักเที่ยง​ เวลา​ 12.00 น.
ผมก็มีเพื่อนที่เคมีตรงกันแล้วตั้งกลุ่มกันลงมากินข้าวแล้วในวิทยาลัยของผมจะมีโต๊ะ​ปิงปองอยู่โต๊ะ​นึง
ผมและเพื่อนหลังจากกินข้าวเสร็จก็มาเล่นปิงปองต่อรอขึ้นเรียน​ แต่แล้วเธอคนนั้นก็เดินมาพร้อมขนมของกินมากมายและได้กล่าวว่่า​
"นายเราเล่นด้วยสิ"
เหมือนฟ้าเปิดให้เราได้เจอกัน​ แล้วเราทั้งคู่ก็เล่นกันและได้รู้จักกันโดยเวลาอันรวดเร็ว​
แล้วเราทั้งคู่ทำความรู้จักกัน​ แล้วเราก็ข​อMSN.
เราแชทคุยกันทุกเย็นหลังเลิกเรียน"ความรู้สึกดีๆ"
ก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาทุกทีๆ​
จนเกิดความรักขึ้นมา​ พอเวลาผ่านไปจนเธอนั้นอยู่ปี3​ เป็นปีสุดท้ายที่ผมได้เห็นหน้าเธอ
ช่วงเวลานั้นมาถึงเธอจบไปแล้วไปเรียนต่อส่วนผมก็อยู่ปี3​ แต่เราจะโทรหากันตลอด​ ผมจะดูเรื่องราวที่เธอไปเที่ยวไปกับใครอยู่ไหนได้หมดผ่านทาง​"Hi5" แต่เวลาผ่านไปไม่นาน"Facebook"
ก็เข้ามาทำหน้าที่ของมันได้ดีเรามีFacebookด้วยกันทั้งคู่แล้วเราโทรแบบไม่มีเสียเงินได้​
เราทั้งคู่จะนัดเจอกันเดือนละครั้ง​ แล้วมีอยู่วันนึงเธอคนนั้นได้มาหาเพื่อนแถวบ้านผมพอดี​ และเป็นเวลาที่ผมกลับมาบ้านพอดีเช่นกัน​
แล้วเธอก็โทรมาหาผม​ บอกว่าหิวข้าวที่บ้านเพื่อนไม่มีอะไรกินเลยตังก็หมดแล้ว​ ส่วนตัวผมตอนนั้นพ่อแม่ผมไปต่างจังหวัดพอดี​ และผมมีตังติดตัวอยู่
50บาทกะซื้อข้าวเย็นกิน​ แต่เราอดได้เดียวพ่อแม่ก็กลับมาแล้ว
ผมก็ไปซื้อข้าว1ถุง​ 10บาท​ และ
ไข่พะโล้​ 1ถุง​ 40บาท
ขับรถไปให้เธอกิน​ หลังจากเอาข้าวไปให้ก็คุยกับเธอสักพัก​ หลังจากวันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายที่ได้เจอกันเพราะผมจบมาแล้วได้งานไกลเราก็ไม่ได้เจอกันบ่อย​ ใจคนเราอยู่ไกลกัน​ ผมหลงในแสงสีเสียง
จนผมไปเจอกับผู้หญิงคนนึงและผมก็จีบและคุยไปพร้อมกับเธอ​จนความหลงมันบังตาผมตกลงคบกับอีกคนแล้วเลือกที่ปล่อยเธอไป​
เธอก็รู้ความจริงแต่เธอไม่เคยด่าหรืออะไรผมเลย​ เธอกล่าวยินดีด้วยนะแก​ เป็นคำธรรมดาที่ผมไม่ได้สนใจ​ ผมก็คบๆผู้หญิง3-4คนไปเรื่อยๆ
จนวันที่ผมอกหัก​ ผมได้ทักไปหาเธอ
แล้วบอกกับเธอว่าเราโดนทิ้ง​ แต่เธอได้พูดกับเราว่าไม่เป็นไร​ เราอยู่ข้างๆแกเสมอ​ มันทำให้ผมรู้สึกผิดมากที่ได้ปล่อยมือเธอไป
ช่วงเวลานั้นมีแต่คำอธิบายปลอบใจผม​ ผมก็จะขอเธอคืนดี​ แต่นิสัยผมอยากจะเป็นแฟนเร็วๆไม่ชอบการรอนานๆ​ จนผมได้เจอคนนึงอีกครั้งที่ผมได้ทำผิดต่อเธอ​ ผมบล็อกเธอไม่ทักไปหาเธอตลอดเวลาที่คบกับผู้หญิงคนนึงเวลาเกือบ3ปี​ แต่เป็นอะไรไม่รู้เวลาผมมีปัญหาผมทักไปหาเธอ​ เธอจะพูดทำให้ผมมีกำลังใจ
แต่เหมือนหนังเรื่องเดิมผม"อกหัก" อีกครั้งและเมื่อครั้งก่อนๆผมตัดสินใจลองคุยและรอเธอพร้อมและคบกัน​ แต่ผมได้ถามเธอว่าทำไมเธอถึงไม่โกธรเราทำไมเธอยังอยู่ทุกช่วงชีวิตเรา​
เธอบอกเพราะไข่พะโล้50บาทที่แกเสียสละ​เงินเพื่อเอามาซื้อให้เราแม้ว่า50บาทนั้นมันคือเงินแบงเดียวที่แกมีอยู่​ นอกจากพ่อแม่เธอแล้วก็มีแต่แกที่ให้เราได้ยอมอดให้เราได้​ ผมได้แต่นั่งร้องไห้
ว่าตัวเองเราได้ทิ้งคนดีๆได้ปล่อยมือคนที่เห็นค่าเราไปได้ยังไง​ แต่บางทีความรักมันไม่ได้จบลงโดยการครอบครองได้คบและแต่งงานกันเสมอ
เราสองคนพยายามคบกันแต่แล้วมันก็ไม่ตรงใจกันเสมอไป​ เราทั้งคู่ได้บอกกันว่าเรากลับมาเป็นเพื่อนกันดีกว่าแต่ใครแต่งงานกันก่อนให้บอกกันด้วยนะ​ มันเป็นที่ได้ยินแบ้วสบายใจที่สุด
อยู่ๆ​ เพลง​ จดหมายจากวันวาน​ ของ​Paradox
ก็ผ่านเข้ามาในหูมันทำให้เราทบทวนทุกอย่างได้ดี
แล้วเวลานั้นก็มาถึง​ เราย้อนวันเวลาไปแก้ไขไม่ได้
วันที่ผมตัดสินใจโทรไปหาเธอ​ "เธอเราจะแต่งงานแล้วนะว่างมางานแต่งเราด้วยนะ"
น้ำเสียงของเธอ​ได้บอกประโยคเดิมๆเช่นเคย​ "ยินดีด้วยนะเร็วจังเลย"
สุดท้ายปลายสายก็ตัดไปแล้วทิ้งข้อความในแชทFacebook
ขอให้มีความสุขมากๆแม้ว่าอายุเราจะมากหรือแก่ตัวลงเราจะไม่มีวันที่ลืมเธอแบะขอให้เธอมีความสุขกับชีวิตแต่งงาน​ ถ้ามีเวลานัดเจอกันได้นะพาแฟนมาด้วยก็ได้​ แค่นี้นะ......
หลังจากที่เธอส่งข้อความมาผมก็ไม่เห็นเธออัพFacebookอีกเลย​
ความรักมันสวยงามเสมอแม้ไม่ได้ครอบครองแต่มันทำให้หัวใจเรามีพลังมาก​ ถ้ารู้ใจตัวเองแล้วอย่ารอให้มันสายเกินไป
ขอบคุณเธอ​ พ....
นามปากา​ "เพจเรื่องราวในวันวาน"
โฆษณา