1.ภาคบังคับ ไม่ว่าจะเป็น X-Ray Ultrasound ก็จะเสียเงินระดับหลักพัน
หากจะลงละเอียดไปอีก ก็จะเจอ ส่องกล้อง MRI เพื่อดูว่า น่าจะใช่ หรือไม่ใช่ ค่าตรวจก็จะขยับใกล้หลักหมื่นขึ้นมา
2.ถ้าผลตรวจขั้นตั้น มั่นใจแล้วว่า ใช่ หมอก็จะสั่งตรวจละเอียด เพื่อความชัดเจน ก็จะหนีไม่พ้น CT SCAN ต้องเตรียมเงินหมื่น และถ้าหมอยังลังเล หายังไม่เจอว่า ต้นเรื่อง ที่เชิญเพื่อนมะเร็งมาอยู่กับตัว คืออะไร ก็ต้องเจอกับ PET SCAN อันนี้ ต้องมี ครึ่งแสน
3.ยัง ยังไม่หมด เพราะต้องตรวจเลือดดูค่าต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น CBC ค่ามะเร็ง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หมอจะสั่งชุดใหญ่ไฟกะพริบให้เลย
อันนี้ก็ไม่เกินหมื่น
4.เมื่อรู้แน่ชัดว่า เพื่อนมะเร็ง อยู่ตรงไหน แล้ว หมอก็จะวางแผนการรักษา จะผ่าตัดก่อนค่อย ทำคีโม หรือฉายแสง เพื่อให้ก้อนยุบ ค่อยผ่า หรือผ่าก่อน ค่อยทำคีโม ตรงนี้ ถ้าหมอบอกผ่าตัดก่อน ต้องมีเป็นแสน ไว้ให้อุ่นใจ มีน้อยกว่านี้ น่าจะไม่พอ แต่ถ้าต้องทำคีโม ก่อน หมอก็จะสั่งตรวจเลือดเพื่อสั่งยาคีโม และนัดวันมาให้คีโม ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าจะนอน รพ.หรือไม่นอน ก็ต้องมีไว้เป็นหมื่นขึ้น
5.ถ้าผ่าตัดเสร็จแล้ว จะให้คีโม หมอก็จะสั่งตรวจชิ้นเนื้อที่ได้มา
ระดับ DNA รวมถึงตรวจเลือด อีกชุดใหญ่ ค่าตรวจตรงนี้ อีกนิดเดียวแตะหมื่น ตรวจทำไม ตรวจเพื่อวางแผนให้คีโมเพื่อรักษาต่อไป
6.เมื่อประเมินแล้วว่า ให้คีโม ได้ ก็นัดวันมานอน รพ.จะกี่วันขึ้นอยู่กับสูตรยาที่หมอกำหนด ตรงนี้ ก็ต้องเสียเป็นหมื่น หมอวางแผนกี่ครั้งก็คูณไป
7.นอกเหนือจากค่าตรวจ ค่ายา ที่จะต้องมีมาเป็นระยะๆ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ค่าเดินทาง ค่าคนเฝ้าไข้ ถ้าญาติ ต้องทำงานกันหมดมาเฝ้าตอนให้คีโม ไม่ได้ ค่าอาหารเสริมบางอย่างที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยได้ดีขึ้น ค่าใช้จ่ายตรงนี้จะมาเรื่อยๆ ตามเหตุปัจจัย
8.ถ้าคุณมีเงินและเข้ารพ.รัฐบาล ค่าใช้จ่ายประมาณที่เล่ามา จะไม่มีปัญหาใดๆ แต่ถ้าไม่ได้มีเงินมาก ต้องใช้สิทธิ์ต่างๆ ที่มี มาช่วย หรือถ้ามีเงินก็ควรใช้สิทธิ์ แต่ต้องมาใช้ในเวลาราชการเท่านั้น รอนานหน่อย ต้องใช้ใจล้วนๆ