24 ก.ย. 2019 เวลา 14:31 • ไลฟ์สไตล์
“พระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า คัมภีร์บังพระธรรม และลูกชาวบ้านบังพระสงฆ์” หมายความว่ากระไร”
อันนี้เป็นคำพูดของท่านอาจารย์พุทธทาส เมื่อหลายปีมาแล้ว ประมาณ 40 ปีล่วงมาแล้ว ท่านได้มาปาถกถาธรรมที่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ตรงข้ามกับวัดบวรนิเวศน์วิหาร
ท่านพุทธทาสได้เคยมาปาถกถา เรื่อง ภูเขาแห่งพุทธธรรม หรือวิถีแห่งพุทธธรรม ท่านพูดถึงเรื่องพระพุทธรูปบังไม่ให้เห็นพระพุทธเจ้า ก็ฮือฮากันเป็นการใหญ่ แต่ว่าพอท่านอธิบายแล้ว ก็พอเข้าใจ ท่านอธิบายความหมายว่า
“การที่พระพุทธอย่างที่คนทั้งหลายนับถือยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านี้ว่าขลังว่าศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็สามารถจะบันดาลสิ่งต่างๆให้ได้ อย่างนั้น เป็นการบังไม่ให้เห็นพระพุทธเจ้าองค์จริง คือว่าถ้าไปติดอยู่เพียงแค่นั้น ก็ไปไม่ถึงพระพุทธคุณ มีพระปัญญาคุณ พระกรุณาคุณ พระบริสุทธิคุณ ที่เรียกว่า กราบพระไม่ถึงพระ ติดอยู่ที่พระพุทธรูปปางนั้นๆ แล้วก็เป็นกันมากขึ้น ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้สักครั้งหนึ่งคงจะพูดได้เยอะเหมือนกันนะครับ
ทีนี้มาพูดถึงคัมภีร์บังพระธรรม คือถ้ามัวแต่อ่านคัมภีร์ ศึกษาคัมภีร์ ยึดมั่นถือมั่นแต่คัมภีร์ แต่ว่าไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้รู้แจ้งเห็นจริง ทำให้คัมภีร์นั้นมาบังพระธรรม คือว่าหลงอยู่ในคัมภีร์ ติดอยู่ในคัมภีร์ คิดว่าการได้เล่าเรียนนักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก เปรียญสาม ถึงเปรียญเก้า ได้เรียนอะไรต่ออะไรที่เขาเรียนกันอยู่มากมาย ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จแล้ว ก็เลยนอนกอดคัมภีร์อยู่อย่างนั้น ไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม คือว่าไม่ได้เอาธรรมที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาปฏิบัติให้บังเกิดผลขึ้น ก็เรียกว่า คัมภีร์มาบังพระธรรมตัวจริง เพราะว่าพระธรรมตัวจริงนั้นอยู่ที่การปฏิบัติ แต่ว่าการศึกษาเล่าเรียนเป็นการนำเข้าไปเป็นแผนที่ที่บอกทางให้ว่าเราควรจะไปทางไหน ควรจะไปอย่างไร อันนี้ถ้าเผื่อไม่ได้นำมาปฏิบัติก็เป็นการว่า เอาคัมภีร์มาบังพระธรรม
มาถึงข้อที่ว่า ลูกชาวบ้านบังพระสงฆ์ คือสมมุติสงฆ์ ที่ว่าลูกชาวบ้านไปบวชแล้วก็เป็นพระสงฆ์ ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่น เพียงแต่ถือศีล 227 ข้อก็เพียงพอแล้ว แล้วบางคนมาลาไปบวช บอกว่าจะได้เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย ผมบอกว่ายังนะยังไม่เป็น เป็นเพียงสมมุติสงฆ์ ที่เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัยนั้นเป็นพระอริยสงฆ์ ดูบทสังฆคุณก็รู้ สังฆคุณท่านระบุชัดเจนว่า เป็นบุคคล 4 คู่ 8 จำพวก ตามที่เราสวดๆกันอยู่
อ้างอิง
โฆษณา