27 ก.ย. 2019 เวลา 12:46 • การศึกษา
เราถูกปลูก ฝัง รังเกียจอาชีพมนุษย์เงินเดือนตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่ผมเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาเพราะผมสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ในสังคมการอาชีพงานประจำ (หรือมนุษย์เงินเดือน หรือมนุษย์ออฟฟิศ หรือ Salary Man ก็แล้วแต่จะเรียก) นั้นมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ "ทัศนคติ" ในการทำงานไปมาก
จากเดิมที่เรามองว่าอาชีพทำงานประจำนั้นค่อนข้างมั่นคงระดับหนึ่ง รายได้เข้ากระเป๋าสม่ำเสมอ มีสวัสดิการ เป็นอาชีพที่ผู้คนให้ความสนใจมาก
แต่ทุกวันนี้ผมกลับรู้สึกว่าทัศนคติที่มีต่ออาชีพนี้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
เช่น
- จากหนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊ค แนวแนะนำถึงข้อเสียของอาชีพประจำที่วางขายกันเกลื่อน
- จากงานสัมมนาต่างๆ แนว "How to" หรือ "Coaching" ที่แนะนำให้ออกมาทำงานเอง โดยดึงข้อเสียของงานประจำมาเป็นจุดขาย
- จากข้อมูลที่แพร่หลายทาง forward mail หรือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Blogger ต่างๆ ที่เสนอรายได้มหาศาลเป็นแรงจูงใจ
- การส่งเสริมการลงทุนต่างๆ หรือบรรดาเซียนหุ้น หรือกูรูการลงทุน ที่โน้มน้าวใจด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเดือนประจำ
- ฯลฯ
นอกจากนี้ยังรวมถึงการมีคำพูดเชิงเปรียบเทียบต่างๆ ที่ผลักดันให้มองงานประจำเป็นสิ่งที่มีข้อด้อยมากกว่าข้อดี เช่น
- ลาออกซะ......ถ้าอยากรวย
- ทำงานประจำให้ตายก็ไม่รวย คนที่รวยคือเจ้าของกิจการ
- ไม่เหนื่อยเหรอ.....ทำงานหาเงินให้คนอื่น
- งานประจำ....ภายนอก Hi-so แต่ Low income
- ทำงานอย่ารักบริษัทมาก เพราะเขาจะเขี่ยเราทิ้งเมื่อใดก็ได้
- งานประจำเหมือนทำงานอยู่ในคอก เป็นนายตัวเองสิ อิสระกว่า หยุดได้เท่าที่อยากจะหยุด
- ฯลฯ
แต่เอาเข้าจริงๆ กลับมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่กล้าจะออกไปเผชิญความเสี่ยงและประสบความความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
แต่กว่าที่คนเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จ เกือบทั้งหมดล้มลุกคลุกคลานมาแล้วทั้งนั้น เพียงแต่ภาพที่สื่อออกมานั้นเป็นภาพที่เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จแล้ว ทำให้คนทั่วไปมอง
ว่าการออกจากงานประจำ มาลงทุนเองทำให้สร้างฐานะได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งผลที่ตามมาก็คือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Mind set ของคนที่ทำงานประจำเปลี่ยนไป จากเดิมที่ผมมองว่าสมัยก่อนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อให้งานออกมาดีมากกว่าสมัยนี้ กลับกลายเป็นว่าทุกวันนี้ทำงานแบบขอไปทีกันมากขึ้น มีความฝันอยากจะออกไปทำกิจการเองที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น ใช้ชีวิตที่อยู่กับความฝันมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันหยุดกันอย่างใจจดใจจ่อ
ซึ่งการฝันใฝ่ที่จะมีรายได้มากขึ้น เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น มีอิสระภาพทางการเงินนั้นไม่ใช่เรื่องผิด เป็นเรื่องดีที่ทุกคนควรจะตั้งเป้าหมายและตั้งใจไขว่ค้ามันมาเสียด้วยซ้ำ
แต่การจะไปให้ถึงเป้าหมาย ทั้งที่ยังดูถูกอาชีพตัวเองอยู่ มันดูจะขัดๆ กันยังไงชอบกล.....
ทั้งที่อาชีพทำงานประจำก็ถือว่าเป็นอาชีพสุจริตอาชีพหนึ่ง
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็เพื่ออยากจะให้หันกลับมาคิดกันสักนิดนึง แยกแยะสื่อข้อมูลหรือสิ่งเร้าต่างๆ ให้ดี และพิจารณาว่าวันนี้เราทำดีที่สุดหรือยัง
แน่นอน.....อาชีพมนุษย์เงินเดือนอาจจะไม่ใช่อาชีพที่สร้างความมั่งคั่งได้
แต่ถ้าเรารู้จักจัดการชีวิต การหารายได้เพิ่ม การรู้จักลงทุน การต่อยอดความสามารถและทรัพย์สินของเราเอง หรือคนที่อยากออกมาทำกิจการเอง ก็ค่อยๆ ก้าวไปกับความเป็นจริง ไม่ใช่ภาพเพ้อฝัน มันก็สามารถไปถึงมั่งคั่งได้อย่างแน่นอน
เพียงแค่อย่าดูถูกอาชีพที่สุจริต และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตาม
เพราะด้วยกฏของแรงดึงดูด ถ้าอาชีพเราเองเรายังไม่รัก แล้วเงินมันจะมารักเราได้ยังไง
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ครับ
โฆษณา