Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไอเก่งเป็นนักปัดยา
•
ติดตาม
29 ก.ย. 2019 เวลา 16:34 • ประวัติศาสตร์
จะว่าไปช่วงชีวิตในวัยเยาว์ของพยัคฆ์น้อย คัตสึจิโยะ ช่างหนาวเหน็บและเย็นชา ตระกูลทาเคดะ หาใช่ครอบครัวที่อบอุ่นไม่ ภายในเต็มไปด้วยภัยที่จ้องจะทำร้ายจากด้านหลัง ขอเล่าย้อนไปครั้นก่อนหน้านั้นเพื่อความเข้าใจถึงการเมืองในภูมิภาคคันโตนี้ว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังแค่ไหน ก่อนที่เราจะไปต่อในช่วงวัยหนุ่มของ ฮารุโนบุ ที่เขาจะต้องเผชิญการเมืองภายในครอบครัว
ปี เทนบันที่ 2 คศ 1534 ในวัย 13 ขวบของ ฮารุโนบุ ซึ่งเดิมชื่อ คัตสึจิโยะ ได้ถูกบังคับให้แต่งงานทางการเมืองกับบุตรีของ อุเอสึกิ โทโมโอกิ นามว่า มัตสึ เป็นภรรยาที่มีวัยมากกว่าตนเอง 1 ปี
อย่างที่รู้กันว่า อุเอสิกินี้มีสามสายหลัก ๆ
คือ สาย โอกิกายาสึ อินุคาเคะ และ ยามาโนอูจิ
ตราตระกูล โอกิกายาสึ ( อุเอสึกิสายหนึ่ง )
ซึ่งมีอิทธิพลในเขตปกครองแคว้น เอจิโกะ อูเอโนะ และ มูซาชิ อุเอสึกิ โทโมโอกิเอง ก็มาจากสาย โอกิกายาสึ ด้วยความที่แคว้นใกล้กับแคว้นไอสุอันมั่งคั่ง หากแต่ว่า ผู้ปกครองแคว้นไอสุนั้น กลับไม่พอใจในความมั่งคั่งที่ตนมี เขาพุ่งเป้าความทะเยอทะยานไปที่ทรัพย์สมบัติของแคว้นข้างเคียง นั้นมิใช้ใครอื่น
ภาพรูปปั้นของ โฮโจ โซอุน
โฮโจแห่งไอสุ ตระกูลที่เพิ่งตั้งมาเพื่ออ้างความชอบธรรมของตระกูลโฮโจแห่งคามาคุระอันเก่าแก่และทรงอำนาจ กำลัง มองหาแคว้นที่อ่อนแอกว่าเพื่อขยายอำนาจของตน แหลมของแคว้นซากามิ และ อ่าวเอโดะของแคว้นมูซาชิ ช่างเป็นขุมทองสำหรับการค้าเสียจริง ๆ
ผู้นำตระกูลทั้ง โฮโจ โซอุน ปฐมผู้ก่อตั้งตระกูลโฮโจใหม่ที่สร้างตระกูลจากโรนินผู้ไม่มีอะไรเลยสู่ผู้นำแคว้นอันมั่งคั่ง โซอุนนี้แหละที่แอบอ้างความชอบธรรมในตระกูลโฮโจสมัย คามาคุระ และ บุตรชาย โฮโจ อุจิสึนะ
โซอุน และ อุจิสึนะ ได้เข้ารุกรานแคว้นข้างเคียง ผู้เคราะห์ร้ายรายแรกคงหนีไม่พ้นแคว้นซากามิที่อยู่ติดกับ ไอสุ ซึ่งปกครองโดยตระกูล มิอุระอันเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยเฮอัน สาแหรกของตระกูลไทระที่ยิ่งใหญ่ อันบรรพบุรุษเคยทำศึกกับ มิยาโมโตะ โยชิตสึเนะ ในยุทธนาวี ดันโนะอุระ มาแล้วมีหรือจะยอมให้ไดเมียวหน้าใหม่ที่แอบอ้างโครตเง้าตระกูลเก่าแก่มาลูบคม
ตราตระกูล มิอุระ
ในปีเอย์โช ที่ 9 คศ 1512 โฮโจ โซอุน กรีฑาทัพเข้าโจมตีปราสาทอาราอิ ทหารของตระกูลมิอุระต้านทานกำลังกว่า 9,000 นายของโฮโจ ด้วยกำลังที่มีเพียง 6,000 นาย สงครามดำเนินไปถึง 4 ปี ตระกูลมิอุระพยายามต้านทานอย่างสุดความสามารถ แต่กองทัพของตระกูลโฮโจ แข็งแกร่งเกินไป แม่ทัพ มิอุระ โยชิโมโตะ บุตรชายของไดเมียวแคว้นซึ่งทำหน้าที่ป้องการปราสาท ได้ตัดสินใจ เซปปุกุปลิดชีวิตตนเองเยี่ยงซามูไร และแล้ว ชัยชนะกับแคว้นซากามิ ก็ตกเป็นของโฮโจในที่สุด
ภาพวาดปราสาทอาราอิ
ความทะเยอทะยานไม่จบเพียงเท่านั้น ในเมื่อรัฐกันชนอย่าง ซากามิ สิ้นแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ อ่าวเอโดะ อันอุดมสมบรูณ์ไปด้วยธุรกิจประมงและคึกคักเต็มไปด้วยการค้าขาย คือสิ่งที่โฮโจต้องการครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว
ภายหลังจากการเสียชีวิตของ โฮโจ โซอุนผู้เป็นบิดา ในปี คศ 1519 โฮโจ อุจิสึนะ บุตรชายของ โซอุนได้สานต่อเจตนารมณ์นำความรุ่งโรจน์มาสู่ตระกูล เขาริเริ่มรุกรานแคว้นมูซาชิอีกครั้งใน ปี ไดไอ ที่ 4 คศ 1524 สมรภูมินี้ถูกกล่าวในชื่อ ศึกที่ทาคานาวาฮาระ
ในรุ่งเช้าวันที่ 13 มกราคม โอกิกายาสึ อุเอสึกิ นำกองทัพออกจากปราสาทเอโดะ และได้เคลื่อนทัพมายั่งแนวรบของโฮโจ เพื่อหมายสัประยุทธ์พวกโฮโจให้สิ้น หากแต่ว่าการเดินเข้ามาชนซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ ย่อมเป็นขนมเคี้ยวเล่นสำหรับขุนศึกผู้เจนจัดในสงครามอย่างอุจิสึนะ
อุจิสึนะให้สั่งให้ทหารเข้าโอบกองทัพที่พุ่งเข้ามาแล้วอ้อมกำลังเข้าทะลวงกองทัพของ โอกิกายาสึจากแนวหลัง หลอกซ้าย ตีขวา หลอกหน้า ตีหลัง กองทัพ โอกิกายาสึ แตกพ่ายรีบรี่ถอยกรูกลับปราสาทเอโดะ แต่นั้นคือสิ่งที่ อุจิสึนะ ได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
โฮโจส่งกำลังไปดักเส้นทางเข้าปราสาทเอโดะไว้ล่วงหน้า ตัดทั้งหนีทีไล่ดุจปิดประตูตีแมว ดุจถือลูกไก่ในกำมือ การอ่านสถานการณ์ถึงสองสามชั้นได้ขาดคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ ตระกูลโฮโจไร้พ่ายก็เป็นได้
นั้นยังไม่พอ โฮโจ อุจิสึนะ ได้แอบติดต่อให้ข้ารับใช้ของ โทโมโอกิ คือสองพี่น้อง ตระกูลโอตะ โอตะ ซาคาสุเกะ และ โอตะ ซุเคซาดะ ที่ประจำเป็นกองกำลังรักษาการณ์อยู่ในปราสาทเอโดะ เปิดประตูปราสาทหักหลังผู้เป็นนาย จนสามารถยึดปราสาทเอโดะได้ง่ายราวกับพลิกฝามือ
ในเมื่อข้างหน้าไปต่อไม่ได้ ข้างหลังก็ไม่มีที่ให้ถอย อุเอสึกิ โทโมโอกิ จึงจำใจต้องหลบหนีไปตั้งรับฟื้นฟูกำลังที่ปราสาท คาวาโอเกะ ซึ่งอยู่ในเขตไซตามะในปัจจุบัน ความคับแค้นของไดเมียวผู้สูงศักดิ์ที่ถูกตระกูลใหม่มาเหยียดหยามมันคับอกของ โทโมโอกิ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ปี เคียวโรคุที่ 3 คศ 1530 วันที่ 6 กรกฏาคม อุเอสึกิ โทโมโอกิ ผู้นี้จักต้องได้ล้างแค้น เขาเคลื่อนทัพรุกคืบหมายตีปราสาทเอโดะเพื่อทวงสิ่งที่เป็นของเขาคืน แต่ผู้ที่มารับมือเขาไม่ใช่ อุจิสึนะ ศัตรูคนสำคัญ หากแต่เป็น ขุนศึกหนุ่มผู้ที่เป็นตำนานแห่งยุคคนหนึ่ง โฮโจ อุจิยาสึ ในวัยเพียงแค่ 14 ขวบเท่านั้น สมรภูมินี้ ถูกขนานนามในชื่อศึกที่โอซาวาฮาระ ในศึกนี้ไม่มีการบันทึกมากนักว่า สู้รบกันอย่างไร มีเพียงทฤษฏีที่พยายามอธิบายในเรื่องนี้ แต่ชัยชนะก็ยังตกเป็นของ โฮโจอยู่ดี ไม่ว่าพยายามแค่ไหน ความแค้นของ โทโมโอกิ ก็ยังไม่ได้รับการชำระ
ภาพวาดโฮโจ อุจิยาสึ
แลดูว่าพวกโฮโจ จะแข็งแกร่งเกินไป คงต้องมีพันธมิตรเข้ามาช่วยเสียแล้ว ใครหละที่จะต้านทานพลังอำนาจของโฮโจได้ ใครหละคือศัตรูของศัตรู ที่เราสามารถผูกมิตรด้วย
ทาเคดะ โนบุโทระ ไดเมียวที่สร้างชื่อจากการรวบรวมแคว้นคาอิอันกระจัดกระจายย่อมเป็นที่สนใจแก่ โทโมโอกิ ทางทาเคดะเองก็เพิ่งเอาชนะโฮโจมาได้ที่สมรภูมิ นาชิโนชิไดระ ยุทธศาสตร์แคว้นก็คุกคามชายแดนของโฮโจ ใครเล่าจะเหมาะสมกว่าทาเคดะเป็นไม่มี
การแต่งงานทางการเมืองระหว่าง ฮารุโนบุ และ มัตสึ จึงจัดขึ้นเพื่อรวมอำนาจต่อต้านตระกูลโฮโจนั้นเอง
ที่กล่าวมายืดยาวนั้นเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนถึงเส้นใยทางพันธมิตรและสภาพการเมืองในยุคสงครามว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนไว้ ชีวิตของพยัคฆ์น้อย ฮารุโนบุ เป็นเครื่องมือทางการเมืองของผู้เป็นบิดา มาตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกแล้ว
แต่อนิจจา มัตสึที่กำลังตั้งครรค์ บุตรของ ฮารุโนบุ อยู่นั้น ต้องมาเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง การเสียชีวิตของมัตสึ ก็ดับฝันตอกตะปูปิดฝาโลงความหวังของตระกูล โอกิกายาสึ พวกเขาแม้ไม่สามารถรุกชิงพื้นที่มาได้ ท้ายที่สุดพวกเขายังสูญเสียที่มั่นสุดท้ายคือ ปราสาท คาวาโอเกะ แก่บริวารเก่าผู้ทรยศตนคือ ตระกูลโอตะ ที่หันมารับใช้ โฮโจ สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมหรือนี้คือชะตากรรมของผู้อ่อนแอในยุคสงคราม
ทางทาเคดะเห็นว่าจะสานต่อสัมพันธ์ก็รั้งจะไม่ก่อประโยชน์ โนบุโทระ จึงจัดการแต่งงานกับบุตรีของ ซันโจ คินโยริ ขุนนางในเกียวโต ผู้ดำรงค์ตำแหน่งเป็นมหเสนาบดีฝ่ายซ้าย ซาไดจิง ในราชสำนักที่เราเรียกกันว่า ไดนากง เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับราชวงค์ อีกทั้งตระกูลซันโจ มีต้นตระกูลโยงไปถึงสายตระกูลฟูจิวาระ ยังมีความสัมพันธ์กับตระกูลโฮโซคาวะที่ทรงอิทธิพลในรัฐบาลโชกุนอาชิคางะ กับ วัดอิชิยามะ ฮอนกันจิ ที่มีสานุศิษย์มากมายทั่วญี่ปุ่น นับว่าเป็นหมากที่ โนบุโทระเดินได้ฉลาดจริง ๆ
ด้วยเหตุนี้ ตระกูลทาเคดะจึงยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ ตระกูลอิมากาว่า และ ตระกูลโฮโจ ต่างยอมสงบศึกไม่รุกรานต่อกันในระยะหนึ่ง แต่ใครก็ย่อมรู้ว่า ทาเคดะ ต้องการพื้นที่ทางทะเล ซึ่งโฮโจที่แคว้นเต็มไปด้วยอ่าวและท่าเรืออันบรรพบุรุษตนพยายามกรุยทางสร้างขึ้นมาเพื่อความยิ่งใหญ่ รู้แก่ใจดีว่า สายตาของ ทาเคดะ จับจ้องมาที่ใคร
ปีเทนบันที่ 9 คศ 1540 พยัคฆ์หนุ่ม ทาเคดะ ฮารุโนบุ เติบใหญ่สมชายชาตินักรบ ในวัย 20 ปีบริบรูณ์ ข้างกายเขาล้วนมีแต่เหล่าผู้กล้ารายล้อมและยอมรับใช้ ดั่งที่ ชินเง็นในช่วงปัจฉิมวัยที่มักจะยกคำกล่าวของ หวางซื่อกง ว่า
" ไม่มีทหารผู้อ่อนแอ ภายใต้การนำของแม่ทัพที่เข้มแข็ง "
สิ่งนี้สะท้อนฉายให้เห็นตั้งแต่ครั่นยังเยาว์วัย
ยามาโมโตะ คันซุเกะ คือหนึ่งในบริวารที่ ฮารุโนบุ ไว้วางใจมากที่สุด ด้วยความเฉลียวฉลาดหลักแหลม ความซื่อสัตย์ และ กล้าหาญ ทำให้เรามักจะเห็น คันซุเกะ ติดสอยห้อยตาม ฮารุโนบุ ประดุจเงาตามตัว
และ เวลานี้เอง คือจุดเริ่มต้นของวีรกรรมรวบรวมชินาโนะทั้งเหนือ-ใต้ให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ธงทาเคดะ เป้าหมายต่อไปที่กีบเท้าแห่งทหารม้าทาเคดะจะไปเหยียบย่ำคือ ชิอิซากาตะ
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย