30 ก.ย. 2019 เวลา 02:19 • ธุรกิจ
#การอ่านmomentum
สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเป็นสิ่งที่ต้องคอยติดตามและเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดทิศทางของตลาด ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราต้องเผชิญความผันผวนตลอดเวลา Twintrade มีทริกในการดู momentum มาฝากเพื่อนๆครับ
ก่อนอื่นต้องขออ้างอิง ทฤษฎี Dow มาประกอบคำอธิบาย ด้วยหลักใหญ่ 3 ประการ
.
.
1.ทุกข้อมูลข่าวสารต่างๆล้วนสะท้อนไปที่ราคาหมดแล้ว ไม่ว่าเราจะลงทุนแนวไหนก็ตาม การเทรดในจังหวะต่างๆสะท้อนไปที่ราคาหมดแล้ว
.
.
2.ราคาหุ้นในตลาด จะเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเป็นแนวโน้ม
.
.
3.ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอ
.
.
จาก 3 หลักการ สามารถช่วยนำมาต่อยอดในการเทรดได้
.
.
การเกิดการซื้อขายนั้น ล้วนเกิดจากพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนและนักเก็งกำไร ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาได้ถูกผลักดัน จนเกิดแนวโน้มขึ้นมานั้นเอง
.
.
ที่นี้ด้วยแนวคิดว่าตลาดเคลื่อนที่เป็นแนวโน้ม ถ้าตามหลักเศรษฐศาสตร์ นั้นราคาจะเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดดุลยภาพ เมื่อผู้ซื้อ ผู้ขายตกลงกันได้
.
.
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดหุ้นไม่ได้เกิดจากการปรับตามพฤติกรรม อย่างนั้น
.
.
การเคลื่อนไหวจะปรับไปด้วยความโลภกับความกลัว เหมือนคลื่นลม คลื่นลมเล็กๆ ก่อตัวเป็นคลื่นลมกลางๆ และสุดท้ายเป็นคลื่นลม ใหญ่ในที่สุด
.
.
การซื้อขายของนักเก็งกำไรและนักลงทุน ก็มีพฤติกรรมคล้ายๆคลื่นลม ที่จะปรับเพิ่มขึ้นจนเป็นแนวโน้มในที่สุดนั้นเอง
.
.
จากรูปตัวอย่าง เมื่อการนักลงทุนมองเห็นไปในทิศทางเดียวกัน พฤติกรรม การซื้อขายจะถูกผลักดันไปด้วยความโลภ จนไปถึงระดับหนึ่งจะเกิดแรงเฉื่อยขึ้น ( จุดที่ผมขีดด้านบน)
.
.
.
ราคานั้นก็จะวิ่งขึ้นไปอยู่แต่เริ่มช้าลงจนไปสู่จุดสูงสุด แล้วก็เริ่มมีแรงขายที่มากขึ้นตามมาครับ
.
.
จุดในส่วนโค้งด้านบนนั้น จะมีแรงเฉื่อยอยู่ทั้งฝั่งซื้อและขาย สลับแรงซื้อและแรงขาย มักเป็นรูปแบบsideway (ลังเล) ไปสักระยะหนึ่ง
.
.
จนเมื่อแรงขายได้ผ่านจุดแรงเฉื่อยลงมานั้น ก็จะมีแรงขายมหาศาลต่อเนื่องแล้วรวดเร็ว จะเรียกว่า crash หุ้นถล่มลงมาก็ได้ครับ
.
.
ขณะที่หุ้นพยายามปรับเข้าสู่มูลค่าที่แท้จริงนั้นเพื่อเข้าสู่ จุดดุลยภาพ (จากในรูปเราจะเห็นว่าเข้าใกล้ 0 เรื่อยๆ )
.
.
เมื่อถึงจุด 0 แล้วทำไม มันถึงลงต่อนั้น เป็นเรื่องของอารมณ์ ชนะเหตุผล เราจะเห็นได้จากนักวิเคราะห์ทางปัจจัยทางพื้นฐานมักประสบบ่อยๆ คือ ซื้อแล้วลงต่อ ทั้งๆที่คำนวณมาแล้ว ว่าเป็นราคา under value แล้ว แต่ก็ยังไหลอยู่
.
.
ผมต้องขอยกคำพูด ของ เซอร์ไอแซค นิวตัน นักฟิสิกส์ ผู้คิดทฤษฎีแรงโน้มถ่วงโลกที่ กล่าวไว้ว่า
.
.
"ข้าพเจ้าสามารถคำนวณแม้การเคลื่อนไหวของดวงดาว แต่มิอาจคำนวณอารมณ์ของมวลชน"
.
.
อารมณ์ ที่เกิดจากความกลัวที่อยู่เหนือเหตุผล ทำให้ราคาได้ถูกแรงขายต่อเนื่องลงมา
.
.
จนกระทั้ง ( ถึงจุดที่ขีดด้านล่างในรูป ) จะเกิดแรงเฉื่อยราคายังคงทำจุดต่ำสุดใหม่ (เจอจุดต่ำสุดของรอบ boom) แต่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ก็จะเกิดเป็นช่วง sideway (มีทั้งซื้อขายสลับกันไปมา)
.
.
จนกระทั้งผ่านจุดแรงเฉื่อยขึ้นมาได้ แรงซื้อกับจำนวนวอลุ่มมหาศาล ก็ผลักดันให้เกิดเป็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งครับ
.
.
#สรุปในการอ่านmomentum
1.เข้าใจแนวโน้ม โดยดูว่าหุ้นที่ดูอยู่นั้น เป็นหุ้นที่อยู่แนวโน้มไหน
.
.
.
2.เราไม่มีทางรู้จุดที่สูงสุด และ ต่ำสุดได้ จงอ่านบริบท ( สภาพแวดล้อมของราคา) แล้วเลือก take action ในจังหวะ best due ไม่ใช่ best profit
.
.
ย้ำอีกครั้ง ว่าให้ take action ในจังหวะ best due หลายคนไม่กล้า เพราะไปอิงกับกราฟราคา อยากไปขายที่ best profit
.
.
หรือในทางกลับกัน เห็นราคาน่าซื้อ ก็อยากซื้อที่ราคา best profit จนพลาดจุดซื้อที่ best due ไปครับ
.
.
.
3.ต้องเทียบอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงที่จุด best due ยอมรับความเสี่ยงได้เท่าไร ผลตอบแทนที่ตลาดมอบให้พอจะคุ้มมั้ย เมื่อคิดรอบคอบก็ take action เลย
.
.
ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนและเก็งกำไร เอาไปปรับใช้ในการลงทุนได้ครับ
.
.
มีข้อสงสัย พิมพ์ comment มาถามได้เลยครับ^^
.
.
blockdit : twintrade เล่าหุ้นให้มันง่าย
line square : [ทวินเทรด] ] คุณได้รับเชิญให้เข้าร่วมสแควร์ของ LINE
เล่าหุ้นให้มันง่าย
โฆษณา