11 ต.ค. 2019 เวลา 04:00 • กีฬา
จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้า Messi กับ Ronaldo ไม่ได้เล่นฟุตบอล
หากพูดถึงนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของยุคนี้ คงจะหนีไม่พ้น Lionel Messi และ Cristiano Ronaldo
Lionel Messi เป็นชาวอาร์เจนตินา ปัจจุบันอายุ 32 ปี สังกัดทีมบาร์เซโลน่า
ตลอดอาชีพ เขายิงประตูให้สโมสรไปถึง 420 ลูก
พาทีมคว้าแชมป์ ลาลีกา 10 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก 4 สมัย และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของบัลลงดอร์ไป 5 สมัย
ส่วน Cristiano Ronaldo เป็นชาวโปรตุเกส ปัจจุบันอายุ 34 ปี สังกัดทีมดัง เช่น ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตลอดอาชีพ เขายิงประตูให้สโมสรไปถึง 422 ลูก
พาทีมคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 6 ครั้ง ใน 3 ประเทศ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 5 สมัย และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของบัลลงดอร์ไป 5 สมัย
ทั้งสองคน ผลัดกันครองความยิ่งใหญ่มานานเป็นสิบปี จนถูกมองว่า อาจเป็นถึงผู้เล่นเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์
แต่ถ้าสมมติว่า Messi และ Ronaldo ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง?
1) แมนยูไนเต็ดอาจจะตกต่ำยาวหลายสิบปี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงปี 2007-2009 ที่แมนยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดนั้น โรนัลโด้เป็นคีย์แมนที่คอยยิงประตูสำคัญให้ทีมโดยตลอด
ซึ่งหากไม่มีเขา แมนยู คงจะได้แชมป์ลีกแค่เพียง 2 ครั้ง (ปี 2011, 2013) จากช่วง 15 ปีหลังสุด ซึ่งน้อยจนน่าใจหาย
และที่สำคัญลิเวอร์พูล ก็น่าจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างน้อย 1 ครั้ง ในปี 2009 ที่คู่หู ตอร์เรส และเจอราร์ด พาทีมเก็บไปได้ถึง 86 แต้ม
ส่วนบาร์เซโลน่า ในช่วง 10 ปีหลัง คว้าแชมป์ลาลีก้า ไปได้ถึง 7 ครั้ง
หลายคนอาจบอกว่า ถึงแม้ไม่มีเมสซี่ บาร์ซ่า ก็ยังมีแนวทางการเล่น Tiki-Taka ที่แข็งแกร่งอยู่ดี
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่มีประตูที่เมสซี่ทำได้ปีละ 30-40 ลูก ทีมอย่างเรอัล มาดริด หรือ แอตเลติโก มาดริด คงมีโอกาสเบียดลุ้นแชมป์ได้อย่างสูสีขึ้น
ถึงแม้ที่ผ่านมา บาร์ซ่าจะยังมีกองหน้าคนอื่นที่ฝีเท้าร้ายกาจ เช่น ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช, อเล็กซิส ซานเชส หรือเนย์มาร์ แต่คงยากที่จะทดแทนได้ และหลายคนก็ต้องย้ายออก เพราะเทียบเมสซี่ไม่ได้จริงๆ
2) แล้วใครจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ของวงการฟุตบอล?
หากจะวัดว่าใครเป็นเบอร์หนึ่งของโลก คงต้องดูว่า
ใครคว้ารางวัลบัลลงดอร์ไป
เมสซี่ และโรนัลโด้ ได้ตำแหน่งเกียรติยศนี้มาครองรวมกัน 10 ครั้ง ซึ่งถ้าไม่มีสองคนนี้ เราคงได้เห็นหลายคนคว้ารางวัล แต่จะไม่มีใครยืนระยะได้ยาวเช่นนี้
ปี 2008 เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่ยิงให้ลิเวอร์พูลไป 24 ลูก ในฤดูกาลนั้น รวมทั้งยิงในนัดชิงยูโร พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยุโรป ก็น่าจะได้รางวัลไป
ปี 2009-2012 ซาบี้ เฮอร์นานเดส และอันเดรียส อิเนสต้า สองคู่หู ที่พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์โลกปี 2010 และแชมป์ยูโรปี 2012 รวมทั้งนำบาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จอีกมากมาย ก็น่าจะผลัดกันเชยชมรางวัลนี้ ถึงขนาดที่บางคนบอกว่าจริงๆแล้ว เมสซี่ทำผลงานได้ดี เพราะมีสองคนนี้ปิดทองหลังพระ
ปี 2014 มานูเอล นอยเออร์ จะกลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่สอง ต่อจาก เลฟ ยาชิน ที่คว้ารางวัลนี้ไปครองได้ หลังจากทำผลงานอย่างโดดเด่น จนพาเยอรมันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้น
ปี 2015 เนย์มาร์ จะก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกอย่างเต็มตัว
ในฤดูกาล 2014/15 เนย์มาร์ ระเบิดฟอร์มสุดยอด ยิงในลีกไป 22 ลูก และในแชมป์เปี้ยนสลีกอีก 10 ลูก พาบาร์เซโลน่าคว้าทริปเปิ้ลแชมป์
และในเมื่อไม่มีเมสซี่ เขาน่าจะต้องแบกรับการทำผลงานที่มากกว่านี้
ที่สำคัญ วันนี้เราคงจะได้เห็นเขายังเล่นอยู่กับบาร์เซโลน่า ในฐานะดาวเด่นของทีมอีกด้วย
และนอกจากนี้ จากที่เราเคยเห็นการเปรียบเทียบว่า เมสซี่ กับโรนัลโด้ ใครเก่งกว่ากัน
มันอาจจะกลายเป็นชื่อของ เนย์มาร์ กับแกเร็ธ เบล แทน
ปี 2016 อองตวน กรีซมัน ที่โดดเด่น ด้วยการพาทีมชาติฝรั่งเศสเป็นรองแชมป์ยุโรป (หรือเป็นแชมป์หากโปรตุเกส ไม่มีโรนัลโด้ในทัวนาเมนต์นั้น) และยิงประตูให้แอตเลติโก มาดริด คว้าที่ 3 ของลีก (หรือเป็นแชมป์ในหลายๆปี หากไม่มีเมสซี่และโรนัลโด้) ก็คงจะคว้ารางวัลไปได้แน่นอน
1
3) ตำนานของเหล่านักเตะในอดีต จะยังถูกเล่าขาน
โรนัลโด้ ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของรายการ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนสลีก ที่ 127 ประตู
ส่วนเมสซี่ ตามมาเป็นที่สอง ยิงไป 112 ประตู
ซึ่งถ้าไม่มีสองคนนี้ ชื่อของ ราอูล ที่ยิงอยู่ห่างๆที่ 71 ประตู จะถูกกล่าวถึงแทน
ถ้าพูดถึงเรื่องทำประตู มีอีกสถิติที่อยู่มายาวนานกว่า 30 ปี และยากจะทำลาย นั่นคือ เกิร์ด มูลเลอร์ นักเตะชาวเยอรมัน ที่ยิงไปถึง 85 ลูก ในหนึ่งปีปฏิทิน
แต่แล้วในปี 2012 เมสซี่ ก็ซัดไป 91 ประตู จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และคงไม่มีใครมาแซงได้อีกแล้วในเวลาอันใกล้
นอกจากนี้ โรนัลโด้ ก็ยังเป็นคนที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนสลีกหนึ่งฤดูกาล มากที่สุดคือ 17 ลูก ซึ่งสถิติเดิมทำไว้ที่ 12 ลูก โดย รุด ฟาน นิสเตลรอย
เรียกได้ว่า ทั้งคู่คือสุดยอดของนักฟุตบอลแห่งยุคอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
มันคงใกล้ถึงเวลาที่ทั้งสอง จะต้องแขวนสตั๊ดแล้ว
ซึ่งในอีกไม่กี่ปี โลกฟุตบอลคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
1
ทั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าอนาคต จะมีนักเตะที่เก่งกาจอย่างนี้ถือกำเนิดขึ้นอีกหรือไม่
แต่ก็ถือว่าพวกเราโชคดีมากๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ได้จับจ้องการต่อสู้กันของสองมนุษย์ต่างดาว ด้วยตาของตนเอง
1
และเรื่องที่จะเกิดขึ้นแทนคือ
คำถามที่ว่า Messi หรือ Ronaldo ใครเก่งกว่ากัน
อาจเป็นที่ถกเถียงกันไปอีกเป็นร้อยปี..
แล้วคุณล่ะ คิดว่าถ้าเรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมา
มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
1
โฆษณา