1 ต.ค. 2019 เวลา 07:33 • ประวัติศาสตร์
บ้านหลังสุดท้ายของพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซู
พี่กระติ๊บหาบทความนี้มาลงเพราะว่า ถัดจากไพ่ The High Priestess ก็จะเป็นไพ่ Empress เป็นไพ่มารดา จึงนึกถึงเรื่องราวของพระแม่มารีที่อ่านเจอจึงนำมาลงให้อ่านกันค่ะ
“เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมาดาของพระองค์และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า หญิงเอ๋ย นี่คือบุตรของท่าน และพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า นี่คือมารดาของท่าน แล้วสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตนตั้งแต่เวลานั้นมา” (ยอห์น ๑๙.๑๖-๑๗)
ข้อความข้างต้นเป็นเรื่องราวตอนที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงบนไม้กางเขน ก่อนสิ้นพระชนม์พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระแม่มารีย์มารดาของพระองค์และยอห์นสาวกคนที่พระองค์รัก จึงทรงฝากฝังให้ยอห์นดูแลเลี้ยงดูมารดาของพระองค์
เหล่าคนที่สืบหาความจริงต่างสรุปว่า ยอห์นผู้เป็นสาวกของพระเยซูได้รับเอาพระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูไปอาศัยอยู่ในบ้านของตนเพราะมีหลักฐานยืนยันไว้ในหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์เอง
นอกจากนั้นภายหลังพระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์เสด็จสู่สวรรรค์แล้วบรรดาสาวก็แยกย้ายกันไปประกาศข่าวอันประเสริฐเรื่องความรอดพ้นบาปโดยทางพระเยซู โดยมุ่งสู่เมืองใหญ่ๆในแถบเอเชียน้อย เช่นแคว้นกาลาเทีย , โคโลสี , เอเฟซัส ส่วนยอห์นผู้เป็นสาวกก็มุ่งสู่เมืองเอเฟซัส ท่านได้ทำพันธกิจของพระเยซูที่เมืองนี้ จนมีข่าวเล่าลือสืบทอดกันมาว่า ท่านได้รับเลือกให้เป็นผู้นำคริสต์จักรแห่งเอเฟซัส
อีกทั้งท่านได้ใช้เวลาเขียนหนังสือที่เมืองนี้จนถึงแก่กรรมที่นี่ ท่านก็ต้องนำพระแม่มารีย์มาพำนักอยู่ที่นี่ด้วย ท่านถึงแก่กรรมประมาณปี ค.ศ. ๑๐๐
ภาพประกอบจากhttp://www.wikipaintings.org
แต่ปัญหาก็คือ บ้านหลังที่พระแม่มารีย์มารดาของพระเยซูพำนักอยู่นั้น ตั้งอยู่ที่ไหน
เริ่มจากนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ เคลเมนท์ เบรนตาโน ได้ใช้เวลาศึกษาค้นคว้า ด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สารานุกรมทางคริสต์ศาสนามานานถึง๕ปี จนได้หลักฐานชี้ว่า พระแม่มารีย์มารดาอาศัยอยู่ในเมืองเอเฟซัสจริง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่จุดใด
ในปีค.ศ. ๑๘๙๑ กลุ่มนักบวชคณะออกัสตินได้สืบค้นหาบ้านของพระแม่มารีย์ โดยใช้เส้นทางเผยแพร่ธรรมของอัครสาวก(หรืออัครฑูต) เริ่มจากชานเมืองเอเฟซัสไปตามถนนเก่าแก่ที่ตัดผ่านกลางเมืองเก่าซึ่งระเกะระกะไปด้วนเสาหินโบราณสีขาวแบบโรมันและอัฒจันทร์ครึ่งวงกลม ก็พบว่าห่างออกไปพอประมาณมีเนินเขาเตี้ยๆเนินหนึ่งเรียกว่า “เนินเขาบุลบุล”
บนเนินเขานั้นได้พบบ้านเก่าแก่หลังหนึ่ง ชาวบ้านแถบนั้นเรีกว่า “มารีย์อีมานา กุลตูร์ ปาร์กี” ชาวบ้านแถวนั้นเชื่อกันว่าเป็นบ้านที่พำนักของพระแม่มารีย์ในปั้นปลายชีวิต
ลักษณะของตัวบ้านก่อด้วยก้อนหินถ้ามองจากเบื้องบนลงมาจะเห็นรูปทรงบ้านเป็นรูปไม้กางเขน แต่ตัวอาคารที่พบเห็นในปัจจุบันถูกต่อเติมใหม่ เพราะตรวจสอบด้วยวิธีการณ์ทางวิทยาศาสตร์พบว่าหินที่นำมาก่อสร้าง มีอายุย้อนไปถึงค.ศ.ที่๖ เท่านั้น
ส่วนฐานหินมีอายุประมาณศตวรรษที่๑ จึงพอเข้าเค้าความจริงได้บ้าง แต่จะจริงมากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ปัจจุบันเมืองเอเฟซัสอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศตุรกี ส่วนบ้านหลังสุดท้ายของพระแม่มารีย์ก็ได้ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่สำหรับนมัสการของนักจาริกแสวงบุญและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวของกับศาสนาคริสต์ด้วย
ภาพ ในบทความจากhttp://www.kunst-fuer-alle.de
โฆษณา