พระเอกไม้ประดับ เจอกระแสนางเอกกลบ เล่นดีเท่าไหร่..ก็ไม่ปัง!!
ว่าด้วยเรื่องการรับบท “พระเอก” ของนักแสดงชายสมัยนี้ ในยุคที่ละคร 1 เรื่อง ไม่ได้โฟกัสที่พระเอก-นางเอก อีกต่อไป
แต่กระจายบทละครให้ถ้วนทั่วทั้งบทพ่อ บทแม่ บทเพื่อน บทนางร้าย หรือแม้แต่บทชาวบ้าน 1 ชาวบ้าน 2 ก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่พร้อมจะแย่งซีน ตัดหน้า บทนำไปได้ง่ายๆ หากพระเอก-นางเอก ฝีมือไม่ถึงพอ
แต่สำหรับบท “นางเอก”นั้น ยังถือว่าลอยตัว เพราะโดยส่วนมากในละครบทนางเอกจะเป็นตัวดำเนินเรื่องอยู่แล้ว หรือเรียกได้ว่าเป็นตัวกำหนดทิศทางของละครเลยก็ว่าได้ ว่าจะแซ่บ จะเผ็ด จะดราม่าก็อยู่ที่เธอคนเดียวเท่านั้น
แถมผู้จัดก็ชอบที่จะเลือกบทประพันธ์ที่เน้นตัวนางเอกมากกว่าพระเอกมาสร้าง เพราะง่ายกว่าเวลาจะทำให้คนดูอิน ทั้งในแง่ของอารมณ์ตัวละคร หรือความหวือหวาในบทบาทที่มันสามารถแสดงออกได้มากกว่าบทของ “พระเอก”
ซึ่งเพราะเหตุผลเช่นนี้ บท “พระเอก” ก็เลยดูเหมือนจะตกที่นั่งลำบากในบางครั้ง จนมีคำจำกัดความถึงบทพระเอกที่ถูกบทนางเอกกลบหน้านี้ว่า “พระเอกไม้ประดับ” ที่มีไว้ให้คนดูชื่นชมความหล่อ ความฟิน
แถมบางครั้งก็เหมือนตัวละครที่ยืนงงอยู่ในดงคนฉลาด ที่นอกจากลุ้นให้ได้คู่กับนางเอกแล้ว ก็ไม่สามารถทำให้คนดูรักในตัวละครนี้ได้เลย
และต้องบอกว่ามีนักแสดงชายหลายคนเลยทีเดียวที่ตกอยู่ในตำแหน่ง “พระเอกไม้ประดับ” แบบนี้ ถามว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่เก่งพอหรือเปล่าถึงถูกบทอื่นๆกลบเสียมิด
ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่เสมอไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีฝีมือ แต่เป็นเพราะตัวบทต่างหากที่ทำให้พวกเขาถูกลืม จนอดที่จะแสดงฝีมือจริงๆออกมา
ยกตัวอย่างจากละครที่เพิ่งจบไปอย่างเรื่อง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ที่อ่านเรื่องย่อก็รู้ว่า ใคร! คือตัวเดินเรื่อง ซึ่งก็คือ “นิรา” นางเอกของเรื่องนั่นแหละ
เรื่องนี้มีนักแสดงนำหลายตัวที่ผู้สร้างเองก็คัดมาแล้วว่าต้องว้าว! สำหรับคนดู ทั้ง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” “แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี” “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” และ “พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน”
ซึ่งแน่นอนว่าหนุ่มพุฒนั้นยืนหนึ่งในบทพระเอกอยู่แล้ว แต่เพราะเส้นเรื่องที่นางเอกต้องต่อสู้กับการเป็นสาวสอง และต้องการกลับมาแก้แค้นทั้งพ่อทั้งอาตัวเอง แถมยังมีพาร์ทที่ต้องปะทะกับตัวร้ายในเรื่องบ่อยๆ
แค่ซีนเหล่านี้ก็กินพื้นที่ละครไปแล้วกว่าครึ่งเรื่อง แถมพอตัดมาที่ซีนความรักพระนางที่มันออกจะดูผิดศีลธรรมไปหน่อย ไม่ชวนให้เอาใจช่วย คนดูเลยเท “พระเอก” จนละครจบด้วยเรตติ้งที่สูงมากๆของช่อง ทุกตัวละครต่างถูกพูดถึง เสนอชื่อให้ได้ชิงรางวัล แต่บทพระเอกกลับเงียบกริบ
ไม่ต่างกันกับละครของอีกช่องที่ดังไม่แพ้กันอย่าง “กลิ่นกาสะลอง” ที่พระเอกของเรื่องอย่าง “เจมส์ มาร์” กลายเป็นบุคคลที่จั๊ดง้าว (ภาษาเหนือ แปลว่า โง่) ที่สุดในเรื่อง
เพราะแค่กิมมิคของเรื่องที่สาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” ต้องเล่นเป็น 6 คาแรคเตอร์ก็แย่งความสนใจของคนดูไปได้มากโขแล้ว ยังมาเจอนักแสดงสมทบที่ปล่อยของแบบยิงกระสุนรัวๆ บทก็ส่งไปทางตัวร้ายมากกว่าตัวดี
ทำให้ตั้งแต่ต้นจนจบละครเรื่องนี้ คนดูด่า “หมอทรัพย์” พระเอกของเรื่องไปจนไม่มีชิ้นดี แถมบทพระเอกก็มีออกมาน้อยมากๆ จนเกือบจะนึกว่า “อาปุ๊-มนตรี เจนอักษร” เป็นพระเอกเสียอีก
ซึ่งหากไม่ได้หน้าหล่อๆ บวกกับฝีมือการแสดงที่มีอยู่พอตัว “เจมส์” อาจจะดับแทนที่จะเปรี้ยงก็ได้ แต่หนุ่มเจมส์ก็อาจจะถูกโฉลกกับละครแนวนางเอกเด่นๆแบบนี้ก็เป็นได้ เพราะผลงานใหม่อย่าง “สองเสน่หา” ก็น่ากลัวว่าเขาจะโดน “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมสิริ” กลบอีกเช่นกัน
แต่ถ้าพูดถึง “พระเอกไม้ประดับ” ตลอดกาล ก็ต้องยกให้หนุ่มคนนี้ “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” ที่ไม่ว่าจะเล่นละครเรื่องไหน กระแสละครเปรี้ยงเท่าไหร่ แต่ตัวพระเอกนั้นก็เงียบกริบเช่นเดิม
พูดไปจะหาว่าโอเวอร์ แต่หากลองไล่ไทม์ไลน์ผลงานก่อนหน้านี้ของหนุ่มเคนดูแล้ว เชื่อว่าทุกท่านจะต้องยกมือเห็นด้วย
เริ่มตั้งแต่ “แรงเงา” ภาคแรกที่ตัวหนุ่มเคนยังใหม่มากๆ เลยถูกความแซ่บของนางเอกกลบซะหมด จนมาเล่น “กลกิโมโน” ก็เงียบกริบ คนดูมีภาพจำแค่ “ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต” และ “พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย” เท่านั้น
พอถูกดันลงละครฟอร์มใหญ่อย่าง “นาคี” แม้จะเป็นพระเอกแต่บทก็ไม่ส่งให้เด่นเท่าที่ควร เพราะบทถูกกระจายไปให้ชาวบ้านศัตรูเจ้าแม่นาคีบ้าง หมอผีบ้าง นางเอกของเรื่องอย่าง “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” ก็ปล่อยของซะจนคนดูลืม “อ้ายทศพล” พระเอกของเรื่องไปเลย
ส่วน “แรงเงา 2” ที่เพิ่งจบไป ก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะ “บทโทรทัศน์” ได้ฆ่าตัวละครตายทั้งเรื่อง ไม่ใช่แค่พระเอก
ฟากวิกหมอชิต อาจจะมีพระเอกไม้ประดับน้อยหน่อย เพราะละครส่วนมากไปทางละครบู๊ ที่แน่นอนว่าบทจะหนักไปที่พระเอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีพระเอกที่ถูกลืมอยู่เลย เพราะไม่อย่างนั้น กระแสของพระเอกเบอร์ต้นๆ ของช่องอย่าง “อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์” คงไม่เงียบขนาดนี้
ซึ่งจะสังเกตว่าหลังๆละครของ “อ๋อม”นั้น บทของเขาแทบไม่เป็นที่พูดถึงทั้งๆที่ละครก็ฟอร์มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แม่อายสะอื้น, นางทิพย์ หรือเรือมนุษย์ บทก็ถูกเทไปที่นางเอกบ้าง ตัวร้ายบ้าง
โดยเฉพาะเรื่องหลังสุด ที่ตัวร้ายของเรื่องอย่างสาว “คาริสา สปริงเก็ตต์” แย่งซีนทุกคนในเรื่องไปเลย หรือในเรื่อง “นางทิพย์” เอง ก็ถูก 2 นางเอก “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี” และ “ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” เอาไปกินเรียบ
หากให้ไล่รายชื่อ “พระเอก” ที่แสนน่าจะเห็นใจเพราะไม่ได้รับความยุติธรรมในบทจนได้เป็นแค่ “พระเอกไม้ประทับ” จนทั่ววงการบันเทิงนั้นอาจจะต้องเขียนชื่อพระเอกมาเกือบครึ่งวงการเลยทีเดียว
นอกจากที่กล่าวมาก็ยังมีพระเอกอย่าง ท๊อป-จรณ โสรัตน์, สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์, ธันวา สุริยจักร, บูม-กิตต์ก้อง ขำกฤษ, อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และอีกหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว
ซึ่งดูจากรายชื่อของพวกเขาเหล่านี้ จะเห็นว่าหลายคนมีฝีมือไม่น้อย แต่ด้วยจังหวะ และองค์ประกอบหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในละครหนึ่งเรื่อง ที่บางครั้งก็คาดเดาไม่ได้ว่าจะออกมาในทิศทางใด ก็ทำให้ “บทพระเอก” ที่ถือเป็นตัวละครหลักถูกสิ่งที่มีสีสันกว่าแย่งซีน
นอกจากจะบังคับให้ “คนเขียนบท” ใส่เสน่ห์เข้าไปในบทพระเอกมากกว่านี้แล้ว อาจจะต้องอาศัย “ความพยายาม” ที่มากขึ้นไปอีกของเหล่าพระเอกด้วย เพราะคงจะไม่มีใครรู้จักเสน่ห์ของตัวเราไปมากกว่าตัวเราเอง
หากบทไม่ส่งก็ต้องหาสิ่งที่จะส่งตนเองไปให้ถึงใจคนดู ไม่ปล่อยให้บทฆ่าตัวเองไปเฉยๆ ซึ่งหากปล่อยให้ตนเองไปถึงจุดนั้นเมื่อไหร่ ก็อย่างที่เห็นว่า แม้แต่ใบหน้าหล่อๆ ก็อาจไม่ช่วยอะไรเลย
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
