2 ต.ค. 2019 เวลา 11:15 • ปรัชญา
เมื่อวานนี้ ต้องขอขอบคุณผู้ที่แสดงความเห็นต่อภาพ(ที่เปรียบเทียบกิเลสกับสนิม) ว่า.."เห็นรูปแล้วตกใจหมดเลย" จึงตอบไปว่า "กิเลสน่าตกใจกว่ารูปนี้มาก"
วันนี้จึงถือโอกาสพูดเรื่องกิเลสตัวร้าย ที่มาทำลายความสุขสงบของจิตใจ ทำให้ทั้งคนและโลกนี้มีทุกข์ มีภัย มีอันตรายและความเดือดร้อนนานาประการ
ดังที่เคยกล่าวให้ทราบแล้วว่า กิเลสนั้นมีชื่อและหน้าตาต่างๆกันไป แต่รากเหง้าใหญ่คือ อวิชชา ซึ่งแปลว่าความไม่รู้ หรือความโง่เขลานั้นเอง จากอวิชชามันก็แตกกอออกมาใหญ่ๆ 3 กอ มีชื่อว่า ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความโลภ (โลภะ) นั้น คือตัณหา แปลว่าความอยากทั้งหลาย ทิ่มาใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เรื่องราวต่างๆที่ปรากฏในใจ ทำให้เราติดใจ อยากเสพ อยากได้ อยากแสวงหา ถ้าอยากมากก็เรียกว่าโลภมาก ถ้าความอยากนั้นอยู่ในปรกติวิสัยที่ควบคุมได้ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่กระไรนัก แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ และเป็นโลภะที่มากเกินขอบเขต จนกระตุ้นให้ต้องแสวงหามาด้วยความไม่เป็นธรรม ผิดกฎหมาย แน่นอนว่าจะต้องสร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้แก่ตนและผู้อื่นตามมา ดังตัวอย่างเช่น การค้าที่หลอกลวง เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค การคดโกง การคอรัปชั่น การลักขโมย ฯลฯที่นำไปสู่คุกตะราง
 
ส่วนโลภะ ทางเพศนั้น เรียกว่าตัณหาราคะ หรือความรักใคร่ถ้าไม่ควบคุมก็ก่อให้เกิด การล่วงละเมิดทางเพศ เช่น การข่มขืน การเป็นชู้ เป็นต้น
เรื่องความรักทางเพศนี้ก็นับเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญของคนเรา ความรักแม้จะถูกต้องตามหลักกฎหมายและศีลธรรม ก็ยังนำมาซึ่งความทุกข์ เมื่อรักไม่สมหวัง หรือต้องพลัดพลาดจากกัน หรือเมื่อเกิดการระแวงหึงหวง อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ถึงขั้นฆ่ากันตายก็มี
ทุกวันนี้การที่เราอยู่อย่างไม่ปลอดภัย ไปไหนก็ต้องระวัง แม้อยู่ในบ้านก็ต้องมีเหล็กดัดเหมือนคุกขังตัวเอง เพื่อกันขโมยผู้ร้าย จะทำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบเพื่อป้องกันการคดโกงเอาเปรียบ จะใส่ของประดับอันมีค่าก็กลัวการแย่งชิง หากเป็นหญิงสาวจะไปไหนก็ต้องระวังตัวเพราะอาจถูกล่อลวง ฉุดไปข่มขืนหรือค้าประเวณี ส่วนคนรวยอาจจะถูกจับไปเรียกค่าไถ่ เป็นต้นเหล่านี้ ก็เพราะกิเลสตัวนี้
โทษภัยจากกิเลสตัวนี้ มีมากมาย บรรยายเท่าไหร่ก็ไม่หมด จนขณะนี้ที่สังคมเรามีปัญหาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กันไป จนแก้ได้ยาก เช่นปัญหาหนี้สินล้นพันตัวแม้ในบุคคลที่เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ การคอรัปชั่นที่ปราบเท่าไหร่ไม่หมด การค้าสารติดที่นับวันยิ่งขยายตัว การคดโกงกันหลอกลวงกันด้วยวิธีต่างๆซึ่งปัจจุบันขยายตัวแพร่หลายมากขึ้นทั้งทางออนไลน์และการติดต่อส่วนบุคคล ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมาจากกิเลสที่เรียกว่าโลภะทั้งสิ้น
' โลภะ' นี้ นอกจากจะใช้คำว่า 'ตัณหา' 'ราคะ' แล้วยังมีคำว่า 'อภิชฌา' ซึ่งแปลว่าเพ่งเล็งอยากได้ของเขา
กิเลสเหล่านี้เปรียบเหมือนไฟเผาใจให้เร่าร้อน เพราะความอยากและการแสวงหา รวมทั้งการหวงแหนรักษาสิ่งที่ได้มาเหล่านั้น
ซึ่งนอกจากมันจะเผาไหม้ตัวเองแล้ว มันยังไปเผาคนอื่นให้เดือดร้อนไปด้วย ดังคำสอน ที่พระพุทธเจ้าในอัคคิสูตรดังนี้
อัคคิสูตร ว่าด้วยไฟกิเลส
“ภิกษุทั้งหลาย ไฟ ๓ กองนี้ คือ
๑. ไฟคือราคะ ๒. ไฟคือโทสะ ๓. ไฟคือโมหะ
▪ ไฟคือราคะ ย่อมเผาผลาญนรชนผู้กำหนัดหมกมุ่นอยู่ในกามทั้งหลาย
▪ ไฟคือโทสะ ย่อมเผาผลาญนรชนผู้มีจิตพยาบาท ชอบฆ่าสัตว์
▪ไฟคือโมหะ ย่อมเผาผลาญนรชนผู้ลุ่มหลงไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยะ
หมู่สัตว์ เมื่อไม่รู้จักไฟทั้ง ๓ กองนี้ จึงยินดียิ่งในสักกายะ (เพลิดเพลินยินดีในอุปาทานขันธ์ ๕ ) ไม่พ้นจากบ่วงแห่งมาร สั่งสมเพื่อเกิดในนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน อสุรกาย และแดนเปรต
ส่วนชนทั้งหลายผู้หมั่นอบรมตนในศาสนธรรม
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งกลางวันและกลางคืน
•หมั่นเจริญอสุภสัญญาเป็นนิตย์ ย่อมทำไฟคือราคะให้ดับลงได้
•ชนทั้งหลายที่มีคุณธรรมสูง ย่อมดับไฟคือโทสะลงได้ด้วยเมตตา
•และย่อมดับไฟคือโมหะด้วยปัญญาอันเป็นเครื่องทำลายกิเลสได้เด็ดขาด
ชนผู้มีปัญญารักษาตนเหล่านั้น ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน ดับไฟทั้ง ๓ กองนั้นได้แล้ว ชื่อว่าดับกิเลสได้สิ้นเชิง ล่วงพ้นทุกข์ได้ทั้งสิ้น บัณฑิตทั้งหลายผู้เห็นแจ้งอริยสัจ จบเวท รู้สิ่งทั้งปวงโดยชอบ ย่อมไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะรู้ยิ่งถึงภาวะที่สิ้นสุดการเกิด
(ขุ.อิติ.อ.๙๓/๓๓๗)
กิเลสเปรียบดั่งไฟ มันเผาไหม้ทั้งคืนวัน
จงรู้จักหน้าตามัน และป้องกันใว้ให้ดี
กิเลสมีหลายหน้า เป็นมายาหลอกใจนี้
ให้คิด ทำ พูด ไม่ดี ให้เป็นผีที่น่ากลัว
รัก โลภและโกรธหลง ทำให้งงไปทำชั่ว
จงมีสติระวังตัว อย่ามัวเมาหลงเงาเอย
การป้องกันและแก้ปัญหาความโลภก็คือ การมีสติ ความสันโดษพอใจในสิ่งที่มีที่เป็นตามศักยภาพ การรู้จักความพอเพียง (ไม่เห่อเหิม ทะเยอทะยานเกินไป) การรู้จักใช้สมาธิข่มใจควบคุมตนเอง และการใช้ปัญญาเพื่อเตือนตัวเองในการพัฒนาสิ่งดี หรือละวางสิ่งไม่ดี
ส่วนราคะนั้น จะต้องใช้การกำหนดอสุภะคือการพิจารณาให้เห็นความไม่สวยไม่งามของสิ่งที่ทำให้ตนติดใจรักใคร่หลงใหล
สำหรับกิเลสผู้ร้ายตัวต่อไปขอยกไปคราวหน้า
หากใครมีความคิดเห็นประการใด ควรบอกให้ทราบกันบ้างนะคะ
ด้วยความปรารถนาดี
โฆษณา