3 ต.ค. 2019 เวลา 05:42 • ธุรกิจ
ชวลิต ธรรมสุนทร หรือโกอู๊ด แห่งเก้าดาวฟาร์ม ชายผู้สร้างมูลค่าให้ธุรกิจปูนิ่มของไทย
(เป็นอีกหนึ่งบทความที่มีความภูมิใจในการนำเสนอมาก)
ตอนที่ 1
ชวลิต ธรรมสุนทร หรือโกอู๊ด
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว “ยุคใหม่การตลาดของไทย” มีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้ชายคนนี้จากการแนะนำของคู่ค้าของโรงงานที่ทำอยู่ในจังหวัดระนองให้รู้จัก ด้วยการทำสัญญาการซื้อขายกุ้งล่วงหน้า (Shrimp Contract Farming) ที่เป็นการสัญญาว่าจะซื้อจะขายกุ้งล่วงหน้า
หลังจากการทำสัญญา 2 เดือนกว่าๆและกุ้งจะต้องส่งมอบตามสัญญาในอีกประมาณ 1 เดือน พบว่าสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งในขณะนั้นราคาตลาดก้าวกระโดดสูงกว่าที่ทำสัญญากันหลายสิบบาทต่อกิโลกรัม ปริมาณกุ้งที่จะส่งมอบประมาณ 30 ตัน ลองคำนวณเล่นๆว่าถ้าราคาขึ้น 1 บาทจะมีส่วนต่างเท่ากับ 30,000 บาท แต่ทว่ามีส่วนต่างประมาณ 70-80 บาท/กก. (ถ้าจำไม่ผิด) เท่ากับว่าโกอู๊ดต้องเสียโอกาสในเงินที่ไม่ต้องขายให้ตามสัญญาประมาณ 2,000,000 บาท คำถามคือเป็นคุณจะตัดสินใจอย่างไรกับเงิน 2 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้นมา
“ยุคใหม่การตลาดของไทย” ได้ถูกเรียกตัวไปตำหนิอย่างรุนแรงจากหัวหน้าและผู้บริหาร เพราะช่วงนั้นทุกคนที่ทำสัญญาไม่ยอมส่งมอบกุ้งให้ตามที่ตกลง คิดว่าน่าจะหลายร้อยล้านบาทอยู่กับมูลค่าที่หายไป แต่ทว่ามีฟาร์มๆหนึ่งที่ส่งมอบถามสัญญาแม้ว่าจะแค่เพียงรับปากไม่ต้องเซ็นต์เอกสารก็ตาม นั่นคือ “เก้าดาวฟาร์ม” ของคุณชวลิต ธรรมสุนทร (โกอู๊ด) ที่ยอมเสียโอกาสกับเงินหลายล้านแต่ไม่ยอมเสียคำพูดที่รับปาก
Face Book : บริษัท เก้าดาวฟาร์ม-2005จำกัด จำหน่ายปูนิ่มแช่แข็ง
หลังจากนั้นอีกไม่นาน “ยุคใหม่การตลาดของไทย” ได้ก้าวเข้ามาทำงานในห้างค้างส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้มาดูแลสินค้ากลุ่มอาหารทะเล ก็พบว่ามีการสั่งซื้อปูนิ่มแช่แข็งจากเก้าดาวฟาร์ม จึงทำให้ยิ่งมั่นใจอย่างมากที่จะสามารถพัฒนาธุรกิจนี้ให้เติบโตได้แน่นอน เพราะความเป็นคนรักษาคำพูดยิ่งชีพของโกอู๊ดนั่นเอง
ระหว่างการแนะนำสถานที่ผลิตในช่วงแรกในช่วงนั้น ซึ่งตอนนี้ก้าวไปไกลมาก
จากวันเริ่มต้นก็เป็นแบบการผลิตที่ยังไม่เข้ารูปแบบมาตรฐานระดับสากลเท่าไรนัก เพราะเป็นการทำขายในประเทศและต่างประเทศที่ไม่ได้ต้องการมาตรฐานที่สูง จึงทำให้ตลาดมีขนาดจำกัด “ยุคใหม่การตลาดของไทย” ก็มองเห็นว่าเราน่าจะพัฒนาธุรกิจนี้ให้ติบโตได้มาก เพราะไม่ต้องพบกับเรื่องปวดหัวแน่นอนจากคุณธรรมและจริยธรรมของเจ้าของโรงงาน
พื้ันที่การเลี้ยงปูนิ่ม ประมาณ 10 ไร่
จึงได้เข้าไปหารือกับหัวหน้าและผู้จัดการฝ่ายสินค้า House Brand ทุกคนก็มีความเห็นตรงกันว่าจะนำสินค้านี้มาขยายให้เติบโตขึ้น ด้วยข้อดีที่โดดเด่นคือ
1. เป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดสูงและมีผู้ผลิตน้อยราย
2. เป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ร้านค้าที่นำไปจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
3. สามารถขยายกำลังการผลิตได้ตามปริมาณที่ต้องการสั่งซื้อ
4. สามารถพัฒนาขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางได้
5. ข้อนี้สำคัญที่สุดกว่าทุกข้อที่แม้ว่าข้อข้างต้นจะไม่มีแต่มีเพียงข้อนี้ก็เพียงพอแล้ว นั่นคือคุณธรรมและจริยธรรมของเจ้าของกิจการ คุณชวลิต ธรรมสุนทร หรือโกอู๊ด
คนงานต้องตรวจสอบลังปูนิ่มทุกครึ่งชั่วโมง
เมื่อตกลงได้ข้อสรุปกันแล้วเราจึงได้นัดหมายเตรียมการเดินทางไประนอง โดยนั่งเครื่องบินไปลงสุราษฎร์ธานีเพื่อเยี่ยมชมคู่ค้าในพื้นที่นั้นก่อน ไปดูฟาร์มหอยแคงและฟาร์มปลาทับทิม เสร็จแล้วจึงเดินทางต่อไปยังจังหวัดระนองโดยทางรถยนต์ (ขณะนั้นยังไม่มีเครื่องบินบินตรง)
เมื่อได้มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยียนโกอู๊ดอีกครั้ง จากสถานะที่เปลี่ยนไปมาอยู่ในองค์กรใหม่และดูแลสินค้าใหม่ “ยุคใหม่การตลาดของไทย” รู้สึกดีใจมากที่จะได้ร่วมงานกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ครั้งนี้ได้เดินทางไปกับหัวหน้าและฝ่ายควบคุมคุณภาพ ที่ตั้งใจจะไปหารือแนวทางการพัฒนาสินค้าให้ทั้งมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของตลาด และเป็นไปตามที่เราคุยกันไว้โกอู๊ดสนใจและยินที่จะพัฒนาร่วมกันเพื่อการเติบโตไปด้วยกัน
อีกมุมของการทำงานในฟาร์มปูนิ่ม
เราเริ่มต้นด้วยการเข้าไปเยี่ยมชมฟาร์มปูนิ่มก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นมาแล้วแต่ไม่ได้สนใจ เพราะอาจจะด้วยวิสัยทัศน์อันน้อยนิดที่มีในตอนนั้น แต่วันนี้การเข้าไปตั้งใจมุ่งมั่นเป็นอย่างมากในการที่พัฒนาธุรกิจให้เติบโต ยิ่งมาร่วมมือกับคนที่นับถือหัวใจที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้แล้วยิ่งทำให้มั่นใจอย่างมาก
จากวันนั้นธุรกิจได้ขยายและเติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่ไม่เคยออกร้านเพื่อโฆษณาธุรกิจปูนิ่ม ก็เริ่มเข้ามาร่วมทำกิจกรรมเพื่อทำให้ผู้คนได้รับรู้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการบริหารจัดการที่ดีที่ได้รับความร่วมมือทั้งจากผู้ผลิตและห้างค้าส่งธุรกิจสามารถเติบโตได้ดีอยู่แล้ว ยังมีการรับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้าที่ซื้อไปด้วยจากทีมงานของห้างที่เข้าไปพบลูกค้า
พื้นที่ฟาร์มปูนิ่ม
ด้วยความมั่นใจนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทีมงานในส่วนกลางมั่นใจในธุรกิจของเก้าดาวฟาร์มแล้ว ยังทำให้ผู้จัดการพนักงานทีมงานของสาขารวมถึงลูกค้าก็มั่นใจว่าจะได้รับสิ่งที่คุ้มค่าต่อธุรกิจและการทำงานแน่นอน
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเก้าดาวฟาร์ม ที่ก้าวมาเป็นผู้ผลิตปูนิ่มแช่แข็งรายใหญ่ของไทย(น่าจะใหญ่ที่สุด) นั่นเกิดจาก
1. การเป็นของโกอู๊ด ที่เป็นคนที่มีคุณธรรมและจริยะธรรมสูง ส่งผลให้คนที่ร่วมงานด้วยมั่นใจในทุกด้านและพร้อมสนับสนุนด้วยความเต็มใจ
2. เก้าดาวฟาร์มสามารถตอบสนองปริมาณความต้องการสินค้าของคู่ค้าได้
3. เก้าดาวฟาร์มสามารถตอบสนองด้านคุณภาพการผลิตที่เป็นมาตรฐาน ด้วยการร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงและพัฒนา
4. เนื่องจากมีการพัฒนาที่เป็นขั้นเป็นตอน มีความร่วมมือร่วมใจกันพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ต้นทุนสินค้าลดลงจากการพัฒนาขบวนการที่ลดขั้นตอนและยอดขายที่เพิ่มขึ้น
5. ลงมือทำทันทีได้รับโจทย์จากคู่ค้าและลูกค้า ตอบสนองความต้องการได้ตรงเวลา
บริเวณทางเดินสำหรับการเข้ามาตรวจดูลังปูนิ่ม
เรื่องของชวลิต ธรรมสุนทร หรือโกอู๊ด แห่งเก้าดาวฟาร์ม ผู้ชายผู้สร้างมูลค่าให้ธุรกิจปูนิ่มของไทย ไม่สามารถเขียนให้จบภายในตอนเดียวได้ เพราะยังมีข้อมูลที่น่าศึกษาเรียนรู้และยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมประโยชน์ต่อคนทำธุรกิจ รวมทั้งประโยชน์ต่อสังคมยุคใหม่ “ยุคใหม่การตลาดของไทย” จึงของเรียนเชิญท่านที่สนใจติดตามในตอนต่อไปด้วยนะครับ
FB Page: Thailand Modern Marketing
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
หากชื่นชอบและถูกใจบทความนี้ ฝากกด Like กด Share และติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา