6 ต.ค. 2019 เวลา 10:29 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การกินกาแฟทำให้โอกาสในการเกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวาดลดน้อยลง
วันนี้ผมเอางานวิจัยที่น่าสนใจจาก นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอทติ้งแฮม (University of Nottingham) มาให้เล่าให้ฟังกันครับ ซึ่งงานวิจัยนี้มีความน่าสนใจมากเพราะว่าหากงานวิจัยนี้ได้ถูกศึกษาต่ออีกหน่อย ในทางการแพทย์และสุขภาพของเราจะได้ประโยชน์มหาศาล
Brown adipose tissue (BAT) หรือที่เราสามารถเรียกมันง่ายๆว่า ไขมันสีน้ำตาล เป็น 1 ในไขมัน 2 ชนิดที่พบในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในตอนแรกนั้น มีเพียงแค่ทารกและสัตว์เรียกลูกด้วยนมที่จำศีลเท่านั้นที่จะมีไขมันชนิดนี้ แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้คันพบว่า ในผู้ใหญ่ ก็สามารถมีไขมันสีน้ำตาลชนิดนี้ได้เช่นกัน
ซึ่งไขมันสีน้ำตาลนี้ มีหน้าที่หลักคือการสร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย ซึ่งช่วยในการเผาผลาญ แคลอรี่ ซึ่งไม่เหมือนกับ ไขมันสีขาวที่ทำหน้าที่ในการเก็บแคลอรี่ส่วนเกิน (คนที่มีดัชนีมวลกายหรือ BMI ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นจะมีไขมันสีน้ำตาลมากกว่า)
"ไขมันสีน้ำตาล ทำงานในวิธีที่แตกต่างไปในร่างกายของเราและมันผลิตความร้อนด้วยวิธีการ เผาน้ำตาลและไขมัน บ่อยครั้งที่มันจะเกิดขึ้นในอากาศที่หนาว ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เกิดการควบคุมน้ำตาลในเลือด เช่นเดียวกับการควบคุมไขมันในเลือด และมันจึงทำให้เกิดการเผาผลาญ แคลอรี่พิเศษที่ช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้"
คำพูดทั้งหมดข้างต้นนี่คือคำพูดจาก ศาสตราจารย์ ไมเคิล ไซมอนด์ (Michael Symonds) จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอทติ้งแฮม (School of Medicine at the University of Nottingham) ผู้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งยังกล่าวต่ออีกว่า
"นี่คือการศึกษาครั้งแรกในมนุษย์ที่แสดงให้เห็นว่า กาแฟ 1 ถ้วยมีผลโดยตรงอย่างไรกับการทำงานของ ไขมันสีน้ำตาลในร่างกาย ซึ่งผลของการวิจัยจะมีผลต่อสังคมอย่างมากเพราะ โรคอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ปัญหานึงที่กำลังดำเนินอยู่ในสังคมเช่นด้วยกับโรคเบาหวานที่กำลังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน"
โดยการศึกษาครั้งนี้เริ่มต้นจากการศึกษา Stem cell หลังจากนั้นจึงค่อยไปศึกษากับมนุษย์ เพื่อจะได้เห็นว่าผลลัพธ์นั้นคล้ายกัน ทีมได้ใช้เทคนิคในการถ่ายภาพความร้อน เพื่อติดตาม ไขมันสีน้ำตาล ของร่างกายเพื่อประเมินความสามารถในการผลิตขความร้อน
ซึ่งผลลัพธ์ของการศึกษาครั้งนี้ออกมามีแนวโน้มที่ดี แต่ยังต้องศึกษาต่อว่า คาเฟอีน จะเป็น 1 ในส่วนผสมที่เป็นตัวกระตุ้นหรือป่าว หรือว่า มีส่วนประกอบอื่นของกาแฟที่มีความสามารถในการกระตุ้นการเกิดของไขมันสีน้ำตาลได้มากกว่า
ก็ได้แต่หวังว่า การศึกษาครั้งนี้จะสามารถไขคำตอบ ในเร็วๆวันนี้ เพื่อจะได้มีตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของเรามากขึ้นนะครับ
#อยากเล่า เป็นที่เชื่อกันว่าสรรพคุณชูกำลังจากเมล็ดของต้นกาแฟนั้นถูกพบเป็นครั้งแรกในเยเมน แถบอาระเบีย และทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย
ถึงแม้ว่างานวิจัยนี้จะไม่ได้เขียนถึงชนิดกาแฟแต่ว่า เท่าที่ผมเข้าใจแล้ว มันควรจะเป็นกาแฟดำนะครับ เพราะถึงแม้ว่าการกินกาแฟจะช่วยในเรื่องการเผาผลาญแต่การกินกาแฟผสมน้ำโบกไซรัปและวิปครีม คงจะช่วยเพิ่มภาระในการเผาผลาญซะมากกว่า
โฆษณา