8 ต.ค. 2019 เวลา 11:20 • สุขภาพ
ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง เชื้อโรคเพียบ !
ปกติแล้วเราจะเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวที่ใช้อาบน้ำกันสัปดาห์ละครั้ง เพราะคิดว่าระยะเวลา 1 สัปดาห์คงยังไม่ทำให้ผ้าเช็ดตัวสกปรกเท่าไร จริง ๆ แล้วการใช้ผ้าเช็ดตัวติดต่อกันแค่ไม่กี่ครั้งก็ทำให้ผ้าเช็ดตัวสกปรกแบบสุด ๆ ได้แล้ว มีผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ว่าการใช้ผ้าเช็ดตัวติดต่อกันนาน ๆ จะส่งผลอย่างไร และควรจะใช้ผ้าเช็ดตัวไม่เกินกี่ครั้งถึงจะไม่เสี่ยงกับเชื้อโรค ลองไปดูที่เว็บไซต์ The sun นำมาฝากกันเลย
1
มหาวิทยาลัยนิวยอร์กได้ออกมาให้คำแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดตัวติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง โดยไม่ได้นำไปซัก หรือนำไปตากแดดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าเช็ดตัวที่ตากทิ้งไว้ในห้องน้ำที่ไม่มีอากาศถ่ายเท เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ร่างกายจะสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่ติดอยู่กับผ้าเช็ดตัว หรือเชื้อแบคทีเรียที่เจริญเติบโตอยู่บนผ้าเช็ดตัว ซึ่งเชื้อโรคที่พบได้ในผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วคือเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม (Coliform) อันเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง
2
โดยสาเหตุที่ทำให้ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วนี้สกปรกทั้ง ๆ ที่เรานำมาใช้เช็ดตัวแค่ตอนที่อาบน้ำเสร็จนั่นก็คือ ถึงแม้ว่าการอาบน้ำจะทำให้ตัวเราสะอาด แต่บรรดาเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือเชื้อแบคทีเรีย เศษอุจจาระ หรือปัสสาวะ ก็อาจจะติดไปกับผ้าเช็ดตัวด้วยในขณะที่เราเช็ดตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อติดไปบนผ้าเช็ดตัวแล้ว ก็จะก่อให้เกิดเชื้อรา หรือการเพิ่มจำนวนของเชื้อโรค ยิ่งถ้าหากผ้าเช็ดตัวเหล่านั้นถูกตากในที่อับชื้น ไม่มีอากาศถ่ายเทหรือแสงแดดเพียงพอ ก็จะทำให้เชื้อแบคทีเรียยิ่งเจริญเติบโตได้ดี และเรานำผ้าเช็ดตัวมาใช้อีกครั้ง เชื้อเหล่านี้อาจจะเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล หรืออวัยวะต่าง ๆ ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่มาจากการติดเชื้อโรคหรือแบคทีเรียบางชนิดได้
วิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากผ้าเช็ดตัวก็คือควรหมั่นเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อย ๆ และควรนำผ้าเช็ดตัวไปตากแดดหรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค
โฆษณา