8 ต.ค. 2019 เวลา 07:45 • ไลฟ์สไตล์
อ่อนแอในปัญหาของตัวเองแต่กลับไปสร้างความเข้มแข็งให้กับคนอื่น...
เบลอหน่อยนะเค้าอาย
เมื่อหลายปีก่อนในวันที่เราอ่อนแอ เมื่อยล้ากายใจ ปัญหาต่างเข้ามารุมเร้า วันนั้นเป็นวันที่รู้สึกแย่มากๆ หาทางออกไม่เจอไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี
มันช่างเป็นช่วงที่อ่อนไหวง่าย เปราะบางเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าไม่คิดหาทางออก มันคิดนะคิดได้แต่มันทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง แต่มันทำไม่ได้ ใจมันไม่ยอมสั่งให้ทำ
เลยต้องนั่งเศร้าเสียใจอยู่แบบนั้น รอให้เป็นหน้าที่ของวันเวลาไปละกันเดี๋ยวสักวันมันก็ผ่านไปเอง อย่างที่เขาเคยบอกไว้ว่า "เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง" เราก็เชื่อแบบนั้น
ในวันที่เราแย่ๆนั้นดันมีน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหา บอกว่ามีเรื่องกลุ้มใจ อยากขอคำปรึกษาหน่อยได้ไหม เราก็โอเคมีไรก็เล่ามา
น้องเข้ามาปรึกษาเพราะเห็นว่าเป็นพี่ในกลุ่มคนเดียว หน้าที่ของเราคือต้องทำตัวให้เป็นพี่ที่ดี และไม่ทำให้น้องรู้สึกว่ามาปรึกษาผิดคน สิ่งที่เรารู้สึกแย่ในใจจึงถูกปกปิดด้วยรอยยิ้ม และหน้าตาที่เบิกบานที่พร้อมจะรับฟังและช่วยกันแก้ปัญหา หาทางออกในสิ่งที่น้องเจออยู่
ทุกปัญหาของน้องเรารับฟังและให้คำปรึกษาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ ณ.ตอนนั้น ขณะที่ฟังน้องเล่าอยู่นั้น เรารู้เลยว่าที่จริงน้องก็ไม่ได้อยากได้คำปรึกษาอะไร
น้องแค่อยากหาคนที่รับฟังปัญหาของเขาก็แค่นั้น เขาแค่อยากระบาย อยากเล่าในสิ่งที่เขาเจอมาให้ใครสักคนที่เขาเชื่อใจฟังก็เท่านั้น เพราะน้องก็รู้อยู่แล้วว่าทางออกคืออะไร ควรทำอย่างไรกับปัญหาที่เจอ
เพราะทุกครั้งที่เราเสนอทางออกให้ น้องมักจะพูดเสมอว่า "แต่ว่า....เป็นแบบนั้นแบบนี้นะ" แสดงว่าน้องก็รู้อยู่แล้ว เหมือนกับเรานั่นแหละ ว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไร
แต่มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตุได้คือ เมื่อหลายๆคนที่มีเรื่องราวอะไรมามักจะเข้าข้างตัวเองเสมอ คิดเสมอว่าตัวเองถูก เลยต้องการคนรับฟังที่สนับสนุนความคิดของเขาได้
นั่นก็คือคนสนิทของเขาเพราะคนสนิทพร้อมที่จะเข้าข้างเพื่อนหรือน้องเสมอ น้องว่าถูกพี่ก็ว่าถูก แต่ที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะสิ เพราะในขณะที่เราฟังน้อง เรากำลังฟังความฝ่ายเดียวอยู่
เราไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร เราจึงจะบอกกับน้องเสมอว่า ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นลองกลับมาที่มองตัวเองก่อนไหมว่าเราผิดหรือถูก อย่ารักตัวเองเกินไปจนไปยัดเยียดความผิดของตัวเองให้คนอื่นสิ แต่ถ้ามั่นใจว่าตัวเองถูกก็ตัดสินใจได้เลยพี่เข้าข้างเสมอ แต่ถ้าเราผิดคนที่น่าสงสารคือคนอื่นไม่ใช่เรานะ จำไว้...
หลังจบบทสนทนาน้องก็ขอบคุณยกใหญ่ที่รับฟังปัญหาของเขา ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง เราก็ดีใจที่เป็นคนที่ทำให้ใครสักคนรู้สึกดีขึ้น โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาที่เราก็ไม่ได้ต่างจากน้องเลย ฟังๆดูก็ตลกไม่น้อย 🤣🤣
ในวันนั้นวันที่เราก็ไม่ต่างจากน้องเรากลับเข้มแข็งในปัญหาของน้องและอ่อนแอมากๆในปัญหาของตัวเอง แล้วแบบนี้ถ้าน้องรู้ว่าเราก็ยังแก้ปัญหาตัวเองไม่ได้แล้วจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้คนอื่นได้อย่างไร ที่จริงแล้วมันน่ายกย่องหรือน่าสมเพชกันแน่ก็ไม่รู้เนอะ 😥😥😥
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะเรายังเชื่อเสมอว่า ทุกคนที่มีปัญหาเขาไม่ได้อยากได้คนช่วยแก้ปัญหา เขาอยากได้แค่คนรับฟังปัญหาของเขา รับฟังเรื่องราวของเขา เพราะแค่ได้ระบายออกบ้างสิ่งที่หนักอึ้งในใจก็จะผ่อนคลายลงไม่มากก็น้อย เพราะสุดท้ายคนที่ต้องตัดสินใจแก้ไขเรื่องราวต่างๆคือคนที่มาขอคำปรึกษาไม่ใช่คนให้คำปรึกษา เราจึงมีหน้าที่แค่รับฟังปัญหาและเก็บงำเรื่องราวของเขาไว้ให้ดีที่สุดก็แค่นั้นเอง...
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความจนจบนะคะ
#เด็กบ้านนอก
โฆษณา