Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เที่ยวทีเป็นแสน แพลนให้ดีๆหน่อย
•
ติดตาม
8 ต.ค. 2019 เวลา 09:07 • ท่องเที่ยว
เงินบาทแข็งแบบนี้ หาที่เที่ยวกันเถอะ (8 ตุลาคม 2562)
เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆท่านคงเคยได้ยินคนพูดกันเรื่อง “เงินบาทแข็ง” มาบ้าง ไม่มากก็น้อย
การที่ค่าเงินบาทของเราแข็งค่าขึ้นมาโดยตลอดนั้น สร้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของไทยโดยรวม เนื่องจากประเทศเรามีเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก (ขายสินค้าไปต่างประเทศ) และการท่องเที่ยว ซึ่งรายได้จะได้รับเป็นเงินตราต่างประเทศ
“เงินบาทแข็ง” นั้นจะทำให้เราแลกเงินสกุลต่างประเทศเป็นเงินบาทได้ “น้อยลง” เช่น
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา = 34.8527 บาท เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2559 ถ้าเราขายสินค้าได้เงิน 100 ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา เราจะได้เงิน 3,485.27 บาท
แต่มาวันนี้ อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา = 30.27 บาท เราจะได้เงินจากการขายสินค้า เหลือเพียง 3,027 บาท หรือรายได้ลดลงประมาณ 13%
อย่างไรก็ตาม การที่เงินบาทแข็งค่าก็มีข้อดีต่อการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเช่นกัน เนื่องจากเราจะสามารถ “ใช้เงินบาทน้อยลง” เพื่อแลกเงินตราต่างประเทศได้เท่าเดิม แปลว่าเราสามารถ “ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยงบประมาณน้อยลง”
ทั้งนี้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางกว่า 50% มักจะเป็นค่าที่พัก ค่าเดินทางในต่างประเทศเช่นค่ารถไฟ ค่าเช่ารถยนต์ ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ค่ากินอยู่ และที่สำคัญของคนไทยคือ “ค่าช้อปปิ้งของแบรนด์เนม”
(อย่ามาปฏิเสธซะให้ยาก สูญเสียกันไปเท่าไรแล้วกับคำว่า “Outlet” และ “Tax Refund”)
คิดแล้วก็เปรี้ยวปากอยากเที่ยวขึ้นมาทันที ผมเลยนั่งคำนวณดูว่า 1 ปีที่ผ่านมานั้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศต่างๆ นั้นประหยัดเงินไปได้มากน้อยขนาดไหนจากการที่เงินบาทแข็งค่า และประเทศไหนควรเป็นเป้าหมายในการเดินทางครั้งต่อไปดี
ถ้าเราดูตามสกุลเงินจะเห็นว่ากลุ่มประเทศในยุโรปนั้นมี “ผลตอบแทนจากการท่องเที่ยว” หรือ “Return on Travel” หรือ “ROT” (ไม่ต้องไปเสียเวลาไป search หาคำพวกนี้เลยครับ เพราะผมบัญญัติมันขึ้นมาเอง) มากที่สุด
โดยแชมป์ตกอยู่ที่สกุลเงิน “ปอนด์อังกฤษ” ที่ได้มา 13% จาก 43.078 บาทต่อ 1 ปอนด์ เหลือเพียง 37.482 บาทต่อ 1 ปอนด์ หรือคิดง่ายๆว่าคุณสามารถซื้อกาแฟ Grande Latte ที่ Starbucks ได้เพียง 107 บาท (ไทย 125 บาท)
ในขณะที่ประเทศยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโร (EUR) ก็มีค่าเงินหายไป 12% จาก 37.809 บาทต่อ 1 ยูโร เหลือเพียง 33.447 บาทต่อ 1 ยูโร
ประเทศจุดหมายปลายทางอื่นๆที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทเช่น
เกาหลีใต้: ค่าเงินหายไป 12%
ออสเตรเลีย: ค่าเงินหายไป 12%
จีน: ค่าเงินหายไป 10%
นิวซีแลนด์: ค่าเงินหายไป 9%
USA: ค่าเงินหายไป 7%
สิงคโปร์: ค่าเงินหายไป 7%
รัสเซีย: ค่าเงินหายไป 5%
ญี่ปุ่น: ค่าเงินหายไป 2%
แล้วไง ไปเที่ยวไหนดี…?
การที่เราเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนของไทยช่วยให้เราได้เปรียบในการเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น แต่กระนั้น แต่ละท่านก็ต้องพิจารณาเรื่องระยะเวลาในการเดินทาง ผู้ร่วมเดินทาง การเตรียมแผนการเดินทางโดยละเอียด การของวีซ่า และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อให้การเดินทาง smooth ที่สุดและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับทริปนั้นๆ
เพราะเราเที่ยวกันทีละเป็นแสน แพลนกันให้ดีๆหน่อยน้าาา
#เที่ยวทีเป็นแสนแพลนให้ดีๆหน่อย #100KTRIP
Positano, Italy (April 2019)
บันทึก
4
4
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย