#สอนลูกยังไงให้เป็นอาชญากร
คุณพ่อคุณแม่เคยเห็นข่าวเหล่านี้ใช่ไหม ข่มขืน เสพยา ค้ายา ขโมยของ รวมกลุ่มทำร้าย ทำลายข้าวของ ฯลฯ
คุณพ่อคุณแม่คิดว่า สาเหตุหลักๆ สำคัญ คืออะไรครับ?
การทดลองของ Milgram
บางคนน่าจะเคยผ่านหูการทดลองอันโด่งดังของมิลแกรมมาบ้างแล้ว สรุปย่อๆ คือ คุณมิลแกรมแกประกาศหาอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองหนึ่งเกี่ยวกับความทรงจำของภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเยลอันมีชื่อเสียงโด่งดังของโลก ในปี 1961 โดยที่อาสาสมัครทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือครู และ นักเรียน
ครูและนักเรียนจะได้ถูกจัดให้นั่งเข้าประจำที่คนละฟากของกำแพง คือไม่เห็นกัน แต่ส่งเสียงพูดคุยกันได้ และนักเรียนจะถูกล็อคเข้ากับเก้าอี้ที่เตรียมไว้
คนเป็นครู จะมีหน้าที่ถามคำถามที่ได้ตระเตรียมไว้ให้ และถ้านักเรียนตอบคำถามผิด ก็จะต้องลงโทษ โดยการช็อตไฟฟ้าระดับไม่กี่โวลต์ให้นักเรียนพอสะดุ้งหลาบจำ
การทดลองนี้จะดำเนินต่อไป และทุกครั้งที่นักเรียนตอบผิด ระดับไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากไม่กี่โวลต์ เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นหลายร้อยโวลต์
ถ้าคุณพ่อคุณแม่นึกภาพไม่ออก ปลั๊กไฟในบ้านของเราอยู่ที่ 220 โวลต์ครับ ผมไม่แนะนำให้ลองเอามือไปแหย่เล่นดู
คุณพ่อคุณแม่คิดว่า ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นอาสาสมัครที่ได้รับบทบาทครู คุณพ่อคุณแม่จะหยุดที่ตัวเลขกี่โวลท์ครับ ?
แน่นอนว่าคำตอบในใจ น่าจะเป็นว่า ทันทีที่เห็นนักเรียนเริ่มออกอาการเจ็บปวด และขอร้องให้คคุณหยุด
แต่ในการทดลองของมิลแกรม ทุกครั้งที่นักเรียนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ผู้ทำการทดลองก็ได้กระซิบกับครูว่า
ไม่เป็นไรครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองของมหาวิทยาลัย คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องกังวลอะไร และคุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับการทดลองนี้ ทดลองต่อไปเถอะครับ
คุณคิดว่า คนส่วนใหญ่ จะทำตามการทดลอง หรือหยุดครับ?
ผลการทดลอง Milgram พบว่า 65% ของครูผู้เข้าการทดลอง ตัดสินใจเข้าร่วมการทดลองต่อไป ไม่ว่านักเรียนจะกรีดร้องทรมานแค่ไหน ขอร้องให้หยุดเพียงใด หรือแม้แต่เงียบเสียงไปเหมือนขาดใจตายไปแล้วก็ตามที
ถึงแม้ว่าจะลำบากใจเพียงใด เขาก็เดินหน้าต่อไป
เพราะมีคนกระซิบบอกแล้วว่า นั่นไม่ใช่ความผิดของเขา
และเขาแค่ทำตามหน้าที่ ในการทดลองเท่านั้นเอง
ออกนอกยุคปัจจุบันไปเสียนาน กลับมาที่เรื่องของการสอนลูกวัยรุ่นกัน
คุณพ่อคุณแม่คิดว่า สาเหตุหลักๆ สำคัญ ที่ทำให้น้องๆ วัยรุ่น ลงมือทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนเสียหาย ให้กับตัวเอง และผู้อื่น โดยไม่แคร์ว่าอะไรจะตามมา คืออะไร?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ส่วนมากแล้ว เขาไม่เคยต้องรับผลของการกระทำใดๆ ของตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับมือปืนที่ได้ Licence to kill คือฆ่าได้โดยไม่ต้องรับผิด
ลองถามตัวเองนะครับว่า
เรากำลังยื่น licence to kill ให้กับลูกของเราหรือเปล่า?
เวลาที่ลูกของเรายังเด็ก
ถ้าเขาแกล้งเพื่อน เขาต้องขอโทษไหม ?
ถ้าเขาจงใจทำข้าวของแตกหักเสียหาย เราบอกอะไรกับเขา ?
ถ้าเขาทำร้ายร่างกายคนอื่น เขาจะถูกดุหรือลงโทษอย่างไร ?
เมื่อเขาโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น
ถ้าเขารวมกลุ่มตีกันทำร้ายร่างกายคนอื่น
ถ้าเขาขับรถซิ่งไม่มีใบขับขี่ โดนจับเข้าคุก
ถ้าเขาหยิบบัตรเครดิตของแม่ไปใช้โดยไม่บอก
เราสอนให้เขาเห็นถึงผลกระทบที่ตามมาอย่างไร?
หรือแค่เคลียร์ผลที่เกิดขึ้นไม่ให้เขาต้องกระทบกระเทือนจิตใจ?
ถ้าเขาไม่ได้รับรู้ถึงผลกระทบที่ตามมาของตัวเอง
ถ้าพ่อแม่เป็นคนรับผลกระทบให้ทุกอย่างที่เขาทำ
เขาจะรับรู้ว่า ต่อให้เป็นเรื่องผิด ก็ไม่มีใครมีสิทธิทำอะไรเขา
ไม่ต่างกับได้รับ Licence to kill
ไม่ต่างกับได้รับเสียงกระซิบในการทดลอง
บอกว่าทำได้ ทำเลย ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ไม่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
สอนลูกยังไงให้เป็นอาชญากร
ไม่ยากเลยครับ
แค่สอนให้ไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง
ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ตั้งแต่เด็กจนโต แค่นั้นเองจริงๆ
#สอนลูกวัยรุ่น #ครูโบ๊ท #ParentCoach
#ก้าวเล็กๆ #มองข้ามปัญหาเป็นเห็นทางออก
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
