Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจเจ้มีสาระ
•
ติดตาม
9 ต.ค. 2019 เวลา 12:33 • ปรัชญา
เรื่องราวต่อจากนี้เป็นประสบการณ์ตรงของเจเจ้เลยค่ะการอุทิศบุญหลักธรรมปฏิบัติให้หายจากโรคร้าย
ในอดีตเจเจ้จะตามคุณยายไปวัดสวดมนต์ตลอดพอคุณยายเสียไปเราก็เหมือนเสียนิสัยโดยพลันช่วงนั้นเรียกว่าวัยรุ่นกำลังอยากรู้อยากเห็นล่ะค่ะจากไปวัดสวดมนต์ก็โดนเพื่อนๆชวนไปเที่ยวแทนการเข้าวัดยังดีอยู่เรื่องหนึ่งก็คือไม่ชอบทานเหล้าสูบบุหรีี่เจเจ้จะขอเมากับข้าวมากกว่าด้วยชนิดว่าทานเก่งซะด้วย555จนเพื่อนบอกเฮ้ยเปลืองกับข้าวจริงๆด้วยเราเป็นคนทานอะไรแล้วย่อยยากมากเจเจ้จึงกลายเป็นคนป่วยกระเสาะกระแสะไม่แข็งแรงเพื่อนๆเริ่มเบื่อเจเจ้ว่าป่วยก็จะไม่ชวนไปเที่ยวไหนอีกช่วงนั้นเจเจ้เหงามากเจเจ้ไม่มีใครเลยคุณพ่อคุณแม่ทำงานไปต่างจังหวัดบ่อยแถมไปครั้งละนานๆซะด้วยเจ้เจ้เป็นลูกคนเดียวนะคะไม่มีพี่น้องกับใครเขา
เจเจ้เริ่มมีโลกส่วนตัวสูงมากความเหงาและความป่วยตลอดทำให้บางครั้งไปนอนเล่นๆที่โรงพยาบาลซะเลยไปคนเดียวไม่บอกใครเพราะไม่อยากให้ใครต้องห่วงเราอีก
ที่โรงพยาบาลนี่แหละค่ะจะมีตึกพระสงฆ์ใช่มั๊ยตึกสงฆ์อาพาธเจเจ้จะชอบเข้าไปดูเสมอได้เห็นความต่างอะไรหลายอย่างทำให้เจเจ้หวนคิดถึงคำของคุณยายจงเป็นผู้ให้มากกว่าการเป็นผู้รับเจเจ้ไม่มีเงินทองฟุ่มเฟือยช่วยได้เลยช่วยแม่บ้านตึกทำความสะอาดคอยเทกระโถนของพระท่านจนคุณหมอรู้เรื่องเข้าก็เอ็ดเอาว่่าเธอก็คนป่วยนะมาทำแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายหนักไปอีกแต่เจเจ้ทำแล้วสบายใจกลับมาเตียงผู้ป่วยตัวเองก็ว่างล่ะค่ะสวดมนต์ดีกว่าแผ่เมตตาให้ทั้งโรงพยาบาลเลย
เจเจ้ในสมัยนั่นเลยกลายเป็นที่รู้จักของหมอพยาบาลแม่บ้านตึกหลังจากอาการดีขึ้นเจเจ้ก็กลับมาบ้านมาเรียนหนังสือต่อมุ่งมั่นในการสวดมนต์มากขึ้นและการที่ได้อยู่เงียบๆคนเดียวบ่อยเข้าเจเจ้ก็นั่งดูตัวเองได้พบว่าคนเราทำไมตัวเราเองยังมีความต่างในตัวเองเลยพิจารณาตัวเองจนชินและก็ชอบนั่งนิ่งๆตามดูลมหายใจว่าเป็นอย่างไรจึงสัมผัสได้ว่าลมหายใจก็เป็นเพื่อนเราได้ซึ่งตอนนั้นเจเจ้ทำไปด้วยความสนุกไม่คิดหรอกค่ะว่าจะเข้าข่ายการปฏิบัติ
จนมีการล้างป่าช้าของมูลนิธิจังหวัดเจเจ้ขอตามเขาไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในตอนนั้นเยอะมากตื่นเต้นมากได้เห็นพิธีกรรมที่แปลกตาจนพี่ร่วมพี่ปอ กลุ่มหนึ่งเอาแปรงมาใส่อุ้งมือและบอกว่าจัดการหลุมนี้นะเจเจ้รับคำและคอยดูคนข้างๆว่าทำยังไง
ตอนนั้นจู่ๆน้ำตาเจเจ้ไหลเองไม่รู้ตัวพี่ข้างๆก็ดุเจเจ้ว่าทำไม่ได้มาทำไมเจเจ้จะบอกเขาว่าไม่ได้ร้องไห้นะน้ำตามันไหลเองพวกเขาไม่สนใจเจเจ้แล้วทำงานต่อเจเจ้ไม่พูดอีกหันมองศพที่อยู่ตรงหน้าแล้วตั้งจิตแผ่เมตตาตามที่คุณยายเคยสอนลมพัดมาวูบหนึ่งเจเจ้ได้ยินจริงๆคำว่าขอบคุณมันดังข้างหูทีเดียว(แล้วแต่ดุลย์พินิจนะคะความเชื่อส่วนบุคคล)เจเจ้รับรู้ได้ถึงบรรยากาศรอบๆตัว
เจเจ้นั่งตกแต่งศพจนสะอาดแล้วรู้สึกดีบอกไม่ถูกเลยค่ะเชื่อว่าการที่เราคิดดีอุทิศบุญให้เขานั้นเขาได้รับแน่นอน
กลับถึงบ้านคุณแม่กลับจากต่างจังหวัดมารู้เรื่ิองเข้าพอดีเจเจ้เลยโดนดุแถมยังต้องตามคุณแม่ไปวัดหาหลวงพ่อรดน้ำมนต์ท่านเกรงว่าจะโดนผีตามเราก็เลยได้แต่ทำตาปริบๆ
เวลาล่วงเลยจนเรียนจบม.ปลายเจเจ้ก็ยังคงป่วยมาตลอดญาติๆจะโทษว่านี่ที่เป็นแบบนี้เพราะชอบเก็บกระดูกล้างป่าช้า(เจเจ้มารู้จากหลวงพ่อภายหลังมันคือการปลงอสุภะดีๆนี่แหละ)
เจเจ้เข้าเรียนหนังสือต่อที่กรุงเทพฯ
ตอนแรกคุณแม่บอกให้ต่อปวส.แถวบ้านไม่อยากให้ไปไกลเพราะขี้โรค
เจเจเป็นคนดื้อนะถ้าดันทุรังนี่ไม่สนใครล่ะทั้งๆที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยตามใจนะเจเจ้เลยคุยกับคุณพ่อเรื่องมาเรียนต่อท่านเลยบอกให้เดือนละ900บาทอยู่ได้อยู่อยู่ไม่ได้ให้กลับบ้าน เอาไงเอากันสู้ไปตายดาบหน้าหาประสบการณ์ของชีวิต
วันแรกในกรุงเทพฯ
เจเจ้พักบ้านญาตินะตอนเข้าไปใหม่ๆ
900บาทกับชีวิตเมืองกรุง
วันแรกเจเจ้ไปสมัครเรียนที่รามคำแหงคำนวนแล้วเทอมแรกนี้เขากำหนดลงทะเบียนไม่เกิน4เล่มเราก็ลงไปก่อน2เล่มแล้วค่อยหาทางเพิ่มเงินในกระเป๋าตอนนั้นความคิดมากมายหาทางอยู่ต่อให้รอดกำหนดจิตตนเองมุ่งมั่นมีเป้าหมายเดินไปหางานทำในที่ๆเขาขายของร้านค้าที่ตึกมีของทานเพียบเจเจ้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกวักมือเรียกมาทางนี้เจเจ้เดินไปเจอร้านขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไม่พบเด็กผู้ชายคนนั้นแต่พบป้ายรับคนทำงานในร้านด้วยสัมผัสบางอย่างเจเจ้ยกมือกล่าวขอบคุณเจเจ้ได้ทำงานในร้านนั่นเป็นลูกจ้างที่พร้อมจะเรียนรู้งาน
รายได้ไม่มากมายนักแต่ก็สามารถให้เจเจ้ใช้ชีวิตในเมืองหลวงอย่างสบายไม่ต้องอดข้าวอดน้ำมีงานให้ทำและได้เรียนหนังสือพอขึ้นปีสามเจเจ้ต้องกลับมาเรียนราม.1ก็ต้องลาออกจากงานเจเจ้ออกจากบ้านญาตินานแล้วก็เลยต้องมาเช่าหออยู่หน้าราม
ชีวิตที่ราม1พลุกพล่านมากเจเจ้ต้องรอดและเรียนให้จบลืมบอกไปเจเจ้ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯไม่ป่วยเลยนะแข็งแรงมากเจเจ้ตระเวนหางานแถวหน้ารามก็ไม่มีใครรับเลยตัดสินใจไปไกลขึ้นมาบุญครองเลยละกันวันนั้นเจเจ้เลยได้เข้าทำงานที่ร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่งในห้างนั้นทำได้ประมาณ2อาทิตย์เจเจ้ก็เห็นร้านตรงข้ามขายเสื้อผ้าดูหรูดูดีมากและเห็นเขามีสอนลูกน้องรีดผ้าด้วยสนใจก็เลยเดินไปถามเขาช่วงพักได้ข้อมูลมากมายเขาแนะนำบริษัทดีๆให้เจเจ้ถ้าสนใจไปสมัครดูวันหยุดเจเจ้เลยไปตามเขาบอกไปถึงเจเจ้แวะไหว้พระที่หน้าบริษัทก่อนแผ่เมตตาให้เสร็จวันนั้นเจเจ้ได้งานใหม่และได้เงินเดือนในฝันเลยล่ะเจเจ้กลับมาบอกร้านที่ทำอยู่พี่เขาใจดีบอกไปเถอะไม่เป็นไรกราบขอบคุณความมีน้ำใจค่ะพี่
เริ่มต้นงานใหม่คิวซีเจเจ้ทำงานไปได้ระยะหนึ่งด้วยความตั้งใจเรียนรู้งานทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงงานเจ้านายมองเห็นความสามารถประกอบกับท่านปฏิบัติธรรมด้วยมันก็เหมือนการสื่อสารที่ง่ายขึ้นท่านจึงส่งเจเจ้มาอยู่ฝ่ายตลาดงานมากขึ้นจนแทบจะไม่ได้เรียนเจเจ้เลยดรอปตัวเองเรื่องงานซะดื้ิอๆท่านเข้าใจบอกเรียนจบมาเริ่มงานที่นี่นะเจเจ้กล่าวขอบคุณความมีน้ำใจของท่านเจเจ้กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างจริงจังอีกครั้งจนเรียนจบสมใจบัณฑิตใหม่เพิ่มขึ้นอีกคนเจเจ้เดินทางกลับบ้านมาช่วยงานที่บ้านจนแต่งงานมีครอบครัว
ระยะที่ผ่านมากรรมดีให้คุณก็ยังให้เราได้ผ่านเรื่องราวดีๆมาตลอดจนเมื่อเจ้ากรรมนายเวรใหญ่มาเยือนชีวิตที่ราบเรียบรึเปล่า555ให้มีเหตุต้องเผชิญกรรมหนักเจเจ้เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะอีกแล้วอารย่อยยากนี่กรรมเจเจ้เลย
วันที่พบหมอเจเจ้พยายามถ่ายจนเลือดสาดโถส้วมหมอตัดเนื้อไปตรวจเจเจ้เป็น"มะเร็ง" ตอนที่หมอบอกเจเจ้ทำใจไปแล้วหัวเข่ายังทรุดได้ร่างกายเบาไม่มีแรงพยุงตัว5นาทีเห็นจะได้
เจเจ้ยิ้มรับคำหมอ ปลุกใจและสติ มันถึงเวลาสินะคำๆนี้ที่คุณยายเคยสอน
"ไม่รู้ตัวทุกข์พระธรรมไม่เกิด"
ตั้งแต่นั้นมาเจเจ้เข้ารับการรักษาแต่แบบแพทย์แผนไทยนะเพราะเจเจ้รู้แบบเจเจ้เองว่าเจ้เจ้ไม่อยากตายเพราะคีโม(ความเชื่ิอส่วนตัว)
ยาต้มเต็มบ้านจ้าทุกขนานเจเจ้ทานหมดสรุปเจเจ้ฝันเห็นคุณยายท่าน
บอกว่าเจริญกรรมฐานแผ่เมตตานะลูกอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทำให้มากทำให้บ่อยและอย่าไล่เขาเพราะเขาก็คือส่วนหนึ่งของเราที่เจริญผิดที่ผิดทางและเมื่อกำหนดจิตให้จิตบริสุทธิ์ปล่อยให้ว่างวางทุกสิ่งปล่อยลมหายแบบเบาๆสบายๆอย่าเกร็งตัวแล้วมองลงไปจนเราพบเพื่อนเรา(มะเร็ง)แล้วเจรจากันไม่ใช้อารมย์เชิญชวนเขามาร่วมสวดมนต์แผ่เมตตาและเจริญกรรมฐานด้วยกันปรับภพภูมิให้เขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนสามารถออกมาร่วมบุญนอกกายเราเจเจ้ทำเช่นนี้ถึง2ปีเต็มๆแผ่เมตตาทุกวันและทุกขณะจิตเจเจ้มีเพื่อนมาสวดด้วย
ปัจจุบันเจเจ้หายจากโรคร้ายมองเห็นธรรมมากขึ้นและเพื่อนเจเจ้ก็ได้ไปเกิดใหม่ไม่ต้องมาเป็นเชื้อโรคในกายอีก(โปรดพิจารณาด้วยสติ)
ที่เจเจ้มาเล่าเรื่องก็อยากจะสื่อว่าการที่คนเรามีจิตเมตตาต่อสรรพสิ่งในโลกทั้งที่มองเห็นและไม่เห็นนั้นต้องการความรักความเข้าใจทั้งสิ้น
รักที่ไม่เปลี่ยนแปลงในธรรมค่ะมีมา
ยาวนานมากเค้าจะตามเราไปตามแรงแห่งกรรมไม่ว่าจะเจออะไรขอให้มีสติและผ่านมันไปด้วยความเมตตานะคะ
ผลบุญที่ได้สวดในนามพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์พระปฐม
เป็นบารมียิ่งใหญ่แล้ว ขอฝากกุศลผลบุญไปกับฉัพพรรณรังสี
รัศมี 6 ประการแผ่เมตตาจิตทั่วทุกทิศทั่วอนัตตจักรวาลไปยัง
สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก (นรกโลก มนุษย์โลก เทวโลก) สวด
อย่างน้อย 9 จบ อย่างมากตลอดเวลา
นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้า
นะโมพระผู้มีพระภาคเจ้าอนุตตรธรรม
นะโมสรรพพุทธานัง
นะโมสรรพธัมมานัง
นะโมสรรพสังฆานัง
นะโมอิติ อิติ โพธิสัตว์
นะโมพุทธายะ พลังพระเปิดโลก
โอม ข่ายเพชรพระพุทธเจ้า
โอม ยันต์เกราะเพชรพระพุทธเจ้า
โอม ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า
โอม พระแม่เจ้าธรณี เมกามาอุ
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม
โอม ท่านท้าวพยายมราช
โอม ท่านท้าวสักกะเทวราช
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาราช
ลูกขออุทิศส่วนกุศลด้วย อิทังปุญญะพะลัง
ผลบุญใดที่ลูกได้สั่งสมมารวมทั้งสวดพระนาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าลูกขอแผ่บุญกุศลไปกับ
ฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สมเด็จ
พระพิชิตมารศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ
พระองค์ ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์
ทั้ง 3 โลกเจ้ากรรมนายเวร ญาติมิตร มีความสุข
สำเร็จในชีวิตได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏสงสาร
โดยสิ้นเชิงด้วยพระบารมีมิอาจประมาณลูกขอ
นอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจขอให้เจ้ากรรมนายเวร
ญาติมิตรและจิตของลูกสะอาดสว่างใส หลุดพ้นไซร์
สู่ทิพย์นิพพานพร้อมบริวารทุกท่านเทอญ
สัมปะติจฉามิ สัมปจิตฉามิ นิพพานสุขัง
คุณประโยชน์ของการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาจิต
ให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกไปกับฉัพพรรณรังสีรัศมี
6 ประการ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
องค์แรกเริ่มมีดังนี้
1. โปรดช่วยสรรพสัตว์ได้แดนเปรต อสุรกาย มนุษย์โลก
สัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเป็นภูติผีวิญญาณเร่ร่อน แผ่ไปทั่ว
เทวโลกพรหมโลก ได้รับโมทนาบุญกับเราการแผ่เมตตา
แผ่ส่วนกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกรวมถึงเจ้ากรรม
นายเวรจงทำทุกวัน จงตัดเวรตัดกรรม ให้อโหสิกรรม
ต่อกันยกเป็นอภัยทานถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเราโกรธ
ตอบจะเพิ่มภพชาติให้เกิดมาใช้หนี้เวรกรรมกันอีก
2. สวดด้วยจิตศรัทธาแท้ เทพพรหมรักใคร่ สรรเสริญ
เมตตาติดตามรักษาเราให้อยู่เย็นเป็นสุข
3. สวดตลอดเวลาคิดปรารถนาสิ่งใดก็สมหวัง
4. สวดตลอดเวลาจิตเป็นสมาธิ ภาวนาจิตไม่ฟุ้งซ่าน
จิตสะอาดปราศจากนิวรณ์
5. จิตสะอาดสว่างไสวจิตหลุดพ้นจากการยึดติดในขันธ์ 5
จิตเป็นจิตประภัสสรเป็นจิตพระอริยบุคคลได้ง่ายเพราะ
เป็นจิตที่มีเมตตาเคารพบูชาพระรัตนตรัยมองเห็นภัยใน
วัฏฏสงสาร เป็นจิตฉลาดไม่มีอวิชชา เป็นจิตที่มีพระนิพพาน
เป็นกรรมฐานได้ 8 กรรมฐานคือ
1) พุทธานุสสติกรรมฐาน
2) ธรรมนุสสติกรรมฐาน
3) สังฆานุสสติกรรมฐาน
4) พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
5) อุปสมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงความดียิ่งของพระนิพพาน
6) เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ตัดเวรตัดกรรม
ยกเป็นอภัยทานถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเจ้าโกรธก็เป็น
การเพิ่มภพเพิ่มชาติ
7) การอุทิศแผ่กุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก จงทำทุก ๆ
อย่าวัน งน้อยสวด 9 จบ ช่วยทั้งคนทั้งผี ทั้งสัตว์โลก
สัตว์นรก ช่วยเทพเทวดามีโอกาสโมทนาบุญกับพวกเราด้วย
8) พระคาถาสวดพระนามพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนี้ พระท่าน
ให้ไว้แก่มวลมนุษย์มาจากเบื้องบนพระนิพพานให้สวดทุกวัน
เพื่อช่วยมวลเวไนยสัตว์และตนเองก็หลุดพ้นจากนรกเปรต
อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องได้เกิดในแหล่งอบายภูมิ
4 อย่าง นี้เป็นการเสริมบารมีให้แก่ตนเองและผู้อื่น
9) การแผ่พลังจิตให้เป็นพลังไปรอบทิศจักรวาลทั้ง 3 โลกนั้น
ทำจิตให้ว่างจากขันธ์ 5 ว่างจากกิเลศตัณหา ทำบุญ
กุศลทุกอย่างขอถวายทางจิตให้องค์สมเด็จพระบรมครู
พระพุทธเจ้าโปรดโมทนาบุญกุศลทุก ๆ พระองค์
เพื่อประโยชน์สูงสุดแด่มวลสรรพสัตว์ทุกจิต
ดวงธรรมญาณได้รับผลบุญที่ลูกแผ่ไปให้ทุก
ดวงจิตธรรมญาณเทอญ
การขอแรงพลังจิตขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นการขอแรงคลื่นวิทยุของท่านผู้เป็นใหญ่
บุญบารมีใหญ่ ช่วยอีกแรงหนึ่งเพื่อให้สรรพสัตว์
3 โลกได้ยินคลื่นวิทยุได้ดียิ่งขึ้น
จิตของสัตว์อบายภุมิน้อยนักที่จะได้รับได้ยิน
เหมือนคนตาบอด แต้ถ้าเขาโมทนายินดีรับการ
อุทิศบุญแผ่เมตตาไปกับเขา ก็ทำให้เขาเป็นสุข
พ้นทุกข์จากอบายภูมิได้ทุกคนเราต้องทำจิตให้ให้
สะอาดทำจิตว่างจากขันธ์ 5 ปล่อยพลังจิตไปทั่วรอบทิศ
จักรวาล
10) สวดพระคาถาพระนามพระองค์สมเด็จพระปฐม
บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝากบุญกุศลไว้กับท่าน
ท้าวยมราชได้แน่นอนโปรดสัตว์ได้ทั่วทั้ง 3 ไตรภพ
แล้วแต่จะกำหนดจิตโปรดได้หมดทุกประเภท ทั้งชาติ
กำเนิด 4 คือ(เกิดในไข่ เกิดในคูต เกิดเป็นตัว เกิดขึ้นเอง
เช่น ผี เทพ พรหม) ภูมิวิถี 6 คือ
1.สัตว์นรก 2. เปรต 3. อสุรกาย
4.สัตว์เดรัจฉาน 5. คน 6. เทวดา พรหม
โปรดสัตว์ได้ตามวาระของวิญญาณใด ถึงพร้อมย่อม
สามารถเข้าถึงสุขคติภูมิ คือสวรรค์และคนชั้นสูงมี
ความสุขตามฐานะ กฏของกรรมต่าง ๆ ที่คอยกีดกั้น
ขวางงานตามไม่ทันเพราะเป็นบุญใหญ่ เป็นเมตตา
บารมีจากการแผ่เมตตา
Cr.จากหนังสือ(ธรรมประทานพร คุณเกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ)
เจเจ้นำบทแผ่เมตตาทั้งสามโลกมาฝากค่ะ
ชอบกดไลท์กดแชร์ติดตามผลงานเจเจ้ด้วยค่ะ
บันทึก
4
3
1
4
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย