10 ต.ค. 2019 เวลา 05:15 • ประวัติศาสตร์
สาวโรงงาน ...ลูกชาวนา🌾
อิหล่า ...มื่อได๋สิกลับบ้าน กลับมาซอยแม่ดำนาแนเด้อ คนฮู้
เสียงจากปลายสาย ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2562 ปกติเสียงนี้เป็นเสียงที่คุ้นเคยดี แต่จะได้ยินในช่วงเดือนมิถุนายน ของทุกปี
สิ้นเสียงโทรศัพท์ ลูกสาวเริ่มมองปฏิทินหาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ที่พอจะลาพักร้อนเพิ่มได้เพื่อกลับบ้านไปให้แม่เห็นหน้า
จริงๆแล้วแม่คงอยากเห็นหน้ามากกว่า อยากให้ไปช่วยดำนา😊 ไหนๆก็กลับบ้านแล้วช่วยถอนต้นกล้าก็ยังดี (หลกกล้า) เพราะช่วงนั้นฝนไม่ตกเลยไม่สามารถดำนาได้ ทำได้แค่ถอนกล้ารอฝนและรอสูบน้ำเข้านาเพื่อดำ...
แล้งไม่มีน้ำมีแต่เม็ดทราย ชาวนา...หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
ปีนี้ช่วงต้นเดือนมิถุนายน แล้งมาก แล้งจนคิดว่าปีนี้ลูกชาวนาต้องซื้อข้าวกิน
แล้งเสียจนเพื่อนๆ หลายคนถามว่า ...มันเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย จนทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงจริงๆใช่ไหม ?
หรืออาจเพราะช่วงต้นปีที่ผ่านมา เกิดปัญหา ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจชาวเมืองกรุง จึงทำให้คนรอบข้างหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมล้อมมากขึ้น จึงเกิดคำถามแบบนี้ขึ้นมา
กลับมาที่ท้องทุ่งนาอันแห้งแล้ง หลังจากที่ต่างคนต่างได้กำลังใจ ลูกสาวกลับมาสู้งานต่อในโรงงาน แม่และพ่อก็มีแรงสูบน้ำจากห้วยสาธารณะมาใส่นาข้าว และปักดำจนแล้วเสร็จ
พอข้าวเริ่มโตก่อนตั้งท้อง วันที่ 30 เดือนสิงหาคม 2562 ยังจำได้ดี เกิดปัญหาน้ำท่วมหมู่บ้าน แม่โทรมาช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งลูกสาวกำลังกินชาบู
"อิหล่า...น้ำท่วมบ้านเฮาละเด้อ ถนนทางเข้าหมู่บ้านขาดเบิดแล้ว ไปไสบ่ได่ ไฟกะดับ น้ำกะบ่ไหล แบตกะสิเบิด"
สิ้นเสียงแม่วางสาย ไลน์ดังตลอดเวลาเนื่องจากมีเพื่อนที่ทำงานอยู่แถวบ้าน เกิดน้ำท่วมสำนักงานกลับหอพักไม่ได้ ต้องนอนค้างคืนที่สำนักงาน
หลังจากนั้นได้เข้าไปดูใน facebook กลุ่มหมู่บ้าน จึงพบว่าเกิดน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 30 ปี
ซึ่งครั้งนี้ถือว่าท่วมหนักสุด เท่าที่ผู้เฒ่าผู้แก่จำความได้ ผ่านไปสามวันจึงติดต่อทางบ้านได้ แม่เล่าให้ฟังว่าน้ำมา 1 วัน ท่วมหมู่บ้านและไร่นาเสียหายหลายแปลง เมื่อเขื่อนทางด้านท้ายหมู่บ้านขาดน้ำจึงลด และน้ำไหลลงไปท่วมหมู่บ้านท้ายเขื่อนต่อ
จากเหตุการณ์ฝนแล้ง น้ำท่วม ปัญหาฝุ่นละออง ที่ก่อตัวอย่างหนักในปีนี้ จึงทำให้ผู้คนกลับมาสนใจ และเห็นความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวของทุกคน ที่ถูกมองข้ามมานาน
เมื่อทุกคนช่วยกันดูแลโลก ดูแลสิ่งแวดล้อม คนละไม้คนละมือ พลังเล็กๆจากทุกคนจะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโลกและทรัพยากรของเรา ให้เหลือไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ใช้ ได้อยู่อาศัยต่อไป
เหมือนแม่ผู้ปลูกข้าว ปลูกทุกปี ลงทุนไปเท่าไหร่ไม่เคยคิด คิดอยู่อย่างเดียวว่าเกิดมาเป็นลูกชาวนาต้องปลูกข้าวกินเอง และลูกฉันต้องได้กินข้าวที่ฉันปลูก
แท้จริงแล้วแม่ก็หาข้ออ้างให้ลูกกลับไปดำนา ไปเกี่ยวข้าว ทั้งๆที่ลูกสาวถอดกล้าได้ไม่ถึง 10 มัด ความรักความคิดถึงของครอบครัวยิ่งใหญ่นัก
หนุ่มสาวชาวโรงงาน รวมทั้งผู้ที่จากบ้านมาไกล อย่าลืมทำงานหนักจนไม่มีเวลาไปดำนาช่วยแม่นะคะ
หลังผ่านมรสุมน้ำท่วม นาข้าวของสาวโรงงานก็งาม มีความเป็นไปได้สูงมากที่งามเพราะฝีมือกล้า 10 มัดที่ถอดเองกับมือ😁
แม่ถ่ายส่งรูปให้ดูเมื่อ 5 ตุลาคม 2562
เดือนหน้าจะถ่ายรูปฤดูเก็บเกี่ยวมาฝากนะคะ
เป็นกำลังให้ สาวโรงงาน🌳 ฝาก"กดไลท์" และ "กดติดตาม" กันด้วยนะคะ✌🌾
โฆษณา