10 ต.ค. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) ราชาเพลงป๊อปผู้สร้างประวัติศาสตร์วงการดนตรี” ตอนที่ 1
กำเนิดราชาเพลงป๊อป
ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) เป็นนักร้องผู้ได้รับการยกย่องเป็นราชาเพลงป๊อป (King of Pop)
เขาผู้นี้เป็นผู้ที่สร้างสถิติในวงการดนตรีและทำให้วงการดนตรีมีสีสันอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ถึงแม้ช่วงหลัง เขาจะมีข่าวไม่ดีและเริ่มอยู่ในช่วงขาลง แต่ความเป็นซูเปอร์สตาร์หรือตำนานของเขาก็ไม่อาจจะลบเลือนได้
ที่สำคัญที่สุด เขาเป็นหนึ่งในบุคคลในวงการบันเทิงที่ทำงานการกุศลและบริจาคเงินช่วยเหลือการกุศล โดยเฉพาะเหล่าเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสมากที่สุดคนหนึ่งในโลก
วันนี้ผมจะเล่าเรื่องราวของเขาให้ฟังครับ
ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสันเกิดที่เมืองแกรี รัฐอินเดียนาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ.1958 (พ.ศ.2501)
ไมเคิลในวัยแบเบาะ
บ้านของครอบครัวแจ็กสันนั้นเล็กและแออัด โดยตอนที่ไมเคิลเกิดมานั้น เขาก็มีพี่ชายถึงสี่คนและพี่สาวอีกสองคน และต่อมา เขาก็ยังได้น้องชายและน้องสาวอีก
น้องคนสุดท้องคือเจเน็ต (Janet Jackson)
ครอบครัวแจ๊กสัน
แคทเทอรีน (Katherine Jackson) แม่ของไมเคิล ทำงานพิเศษเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้า Sears ส่วนโจ (Joseph Jackson) พ่อของไมเคิล ทำงานเป็นคนงานในโรงเหล็ก
โจและแคทเทอรีน แจ็กสัน พ่อแม่ของไมเคิล
โจนั้นได้ค่าแรงเพียงวันละ 30 ดอลลาร์ เขาจึงตั้งวงดนตรีชื่อวง “The Falcons” และเล่นดนตรีตามบาร์และไนท์คลับในอินเดียนา
โจนั้นเป็นมือกีตาร์ และวงของโจก็ใช้บ้านของโจเป็นที่ซ้อมดนตรี
ทั้งพ่อและแม่ของไมเคิลนั้นรักในเสียงดนตรี แคทเทอรีนเองก็เล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง ทำให้ครอบครัวแจ็กสันเป็นครอบครัวที่อบอวลไปด้วยเสียงดนตรี
แต่ถึงจะรักในดนตรี โจก็เป็นพ่อที่เข้มงวดและมีกฎระเบียบในบ้านมากมาย ลูกๆ ไม่มีสิทธิแตะต้องกีตาร์ของเขาเด็ดขาด ซึ่งโจนั้นรักและหวงกีตาร์ของเขามากและเก็บรักษาไว้อย่างดีในตู้เสื้อผ้า
โจและลูกๆ (ไมเคิลอยู่ทางขวาสุด)
จนกระทั่งวันหนึ่ง ติโต (Tito Jackson) แจ๊คกี้ (Jackie Jackson) และเจอร์เมน (Jermaine Jackson) พี่ๆ ของไมเคิล ได้แอบหยิบกีตาร์ของโจออกมาจากตู้เสื้อผ้าและนำมาดีดเล่นในห้องของติโต
ไมเคิลและคนอื่นๆ ดูติโตเล่นกีตาร์ ติโตนั้นครูพักลักจำมาจากโจนานแล้ว เขาคอยสังเกตเวลาที่โจเล่นกีตาร์
ติโตค่อยๆ เรียนรู้การเล่นกีตาร์ทีละนิดๆ ซึ่งแคทเทอรีน แม่ของเด็กๆ ก็ทราบดีแต่ก็ไม่บอกโจ
หากโจรู้ล่ะก็บ้านแตกแน่
วันหนึ่ง สายกีตาร์ของโจเกิดขาด และเด็กๆ ก็ซ่อมไม่ได้ พวกเขาจึงนำกีตาร์นั้นกลับเข้าไปเก็บในตู้เสื้อผ้าพร้อมหวังว่าโจจะไม่ได้สังเกตเห็น
1
แต่สิ่งที่หวังไว้ไม่เป็นผล โจสังเกตเห็นสายที่ขาดซึ่งทำให้เด็กๆ หวาดผวา โจนั้นเป็นคนดุและตีเวลาที่ลูกทำผิด แต่ครั้งนี้ แคทเทอรีนออกหน้าแทนลูกๆ
แคทเทอรีนบอกกับโจว่าเด็กๆ นั้นร้องเพลงได้ดีและติโตก็เล่นกีตาร์ได้ดีจริงๆ
โจยื่นกีตาร์ให้ติโตพร้อมกล่าวว่า
“ไหนแสดงให้พ่อดูซิว่าแกทำอะไรได้บ้าง”
ติโต แจ็กสัน (Tito Jackson)
ทันทีที่โจได้ยินติโตเล่นกีตาร์ ความโกรธก็ค่อยๆ หาย โจรีบไปซื้อกีตาร์สีแดงใหม่เอี่ยมให้ติโตและให้ทุกๆ คนเข้าคอร์สเรียนดนตรี ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
ในไม่ช้า พี่น้องตระกูลแจ็กสันซึ่งประกอบด้วยแจ๊คกี้ ติโต เจอร์เมน มาร์ลอน และไมเคิล ได้ก่อตั้งวงดนตรีขึ้นมา ซึ่งต่อมาวงดนตรีนี้คือ “The Jackson 5”
The Jackson 5 ในยุคแรกก่อตั้งวง (ไมเคิลคุกเข่าอยู่หน้าสุด)
ในช่วงแรก เจอร์เมนเป็นนักร้องนำ ส่วนไมเคิลเล่นกลองบองโก แต่ต่อมาไม่นาน ไมเคิลก็ได้ฉายแววศิลปินและความโดดเด่นเหนือพี่ๆ
ไมเคิลร้องเพลงด้วยอารมณ์ที่ออกมาจากข้างในจริงๆ ครั้งหนึ่ง เขาได้เข้าประกวดร้องเพลงที่โรงเรียน ปรากฎว่าอาจารย์ของไมเคิลถึงกับร้องไห้เมื่อได้ยินเสียงของเขา เนื่องจากเสียงของไมเคิลนั้นไพเราะจริงๆ
1
ในเวลาไม่นาน โจก็ได้ตัดสินใจที่จะทุ่มทุกอย่างไปกับเส้นทางดนตรีของลูกๆ ถึงแม้ครอบครัวจะไม่ได้มีเงินมาก แต่โจก็ตัดสินใจใช้เงินเก็บทั้งหมดไปกับเครื่องดนตรีต่างๆ
1
ในทุกๆ วัน เด็กๆ วง The Jackson 5 ต้องซ้อมดนตรีทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่มีโอกาสได้ออกไปวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ หากใครแสดงได้ไม่ดีหรือทำพลาด ก็จะโดนลงโทษ บางครั้งโจก็จะใช้เข็มขัดเฆี่ยนลูกๆ
The Jackson 5 ขณะทำการซ้อมดนตรี
ไมเคิลนั้นไม่ค่อยทำผิดพลาดมากนัก แต่ครั้งหนึ่งเขามาซ้อมสาย โจจึงตีไมเคิล ซึ่งบางครั้งไมเคิลก็ได้ตอบโต้ไปบ้างด้วยการพยายามจะต่อยพ่อของเขาคืน ครั้งหนึ่งไมเคิลถึงขั้นโยนรองเท้าใส่โจ ซึ่งทำให้โจโมโหมากและยิ่งตีไมเคิลหนักกว่าเดิม
ไมเคิลนั้นเกลียดอารมณ์ร้ายของผู้เป็นพ่อ แต่เขาชอบการร้องเพลงและเต้น และเขาก็มีความสุขมากเวลาได้ออกแสดง
เมื่อ The Jackson 5 พร้อมทำการแสดงแล้ว โจก็ได้ติดต่อให้วงไปเล่นดนตรีที่ไนท์คลับท้องถิ่นชื่อ “Mr. Lucky’s”
ในขณะนั้นไมเคิลมีอายุเพียงหกขวบ
Mr. Lucky’s สถานที่เปิดตัว The Jackson 5
เวลาผ่านไปเพียงสองปี ขณะไมเคิลอายุได้แปดขวบ เขาก็ต้องทำงานสัปดาห์ละหกคืน โดย The Jackson 5 มีงานต้องเล่นคืนละห้างานเลยทีเดียว โดยจะแสดงในบาร์หรือไนท์คลับ
ไมเคิลนั้นต้องพบเจอกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กอายุเท่ากันไม่เคยพบเจอ เขากลับบ้านดึกแทบทุกคืน และก็พักผ่อนไม่เพียงพอจนแทบจะตื่นไปโรงเรียนในตอนเช้าไม่ไหว
แคทเทอรีนนั้นเป็นห่วงไมเคิล เธอเป็นคนเคร่งศาสนาและพาลูกๆ ไปโบสถ์เสมอ และเธอก็ไม่คิดว่าบาร์หรือไนท์คลับเป็นที่ๆ เหมาะสมสำหรับเด็ก
1
แต่โจนั้นตั้งใจที่จะทำให้ลูกๆ ประสบความสำเร็จให้ได้ โจเริ่มพาวงเข้าประกวดในงานดนตรีต่างๆ ทั้งในเมืองที่ตนเองอยู่รวมทั้งเมืองใกล้เคียง
ในที่สุด โจคิดว่าถึงเวลาที่ The Jackson 5 ต้องเริ่มอัดแผ่นเสียงเป็นของตนเองได้แล้ว และไมเคิลกับพี่ๆ ก็อยากจะอัดแผ่นเสียงกับค่ายเพลง “Motown” หนึ่งในค่ายเพลงที่ประสบความสำเร็จค่ายหนึ่งในยุคนั้น
ศิลปินในสังกัด Motown
แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร Motown ก็ไม่หันมามอง The Jackson 5 เลย โจจึงคิดว่าหาก The Jackson 5 ชนะการประกวดใหญ่ๆ เช่นการประกวดที่ “Apollo” โรงละครยักษ์ใหญ่ในชุมชนคนผิวสีในนิวยอร์กได้ล่ะก็ Motown ก็น่าจะหันมาสนใจพวกเขา
โรงละคร Apollo
ที่โรงละครแห่งนี้ เหล่านักร้องดังๆ ที่ไมเคิลชื่นชอบต่างผ่านโรงละครแห่งนี้มาแล้วทั้งนั้น และที่โรงละครแห่งนี้ก็ได้จัดประกวดความสามารถในทุกๆ คืนวันพุธ
ค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) ขณะไมเคิลอายุได้เก้าขวบ โจก็ได้พาลูกๆ วง The Jackson 5 มุ่งสู่นิวยอร์ก จุดหมายคือโรงละคร Apollo
เมื่อถึง Apollo ไมเคิลก็ตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการของ Apollo
1
ทั้งไมเคิลและพี่ๆ หวังว่าพวกเขาจะโชคดี แต่สิ่งที่เหนือกว่าโชค นั่นคือความสามารถ ซึ่งพี่น้อง The Jackson 5 นั้นมีอยู่เกินร้อย
The Jackson 5 ชนะการประกวดที่ Apollo และพวกเขาก็ได้กลับบ้านพร้อมรางวัล และที่สำคัญก็คือความหวังว่า Motown จะติดต่อมา
เมื่อกลับมาถึงบ้าน โจก็ได้ออกกฎใหม่กับครอบครัวว่าการคุยโทรศัพท์แต่ละครั้งนั้นห้ามเกินห้านาที เพราะเขากลัวว่าหาก Motown ติดต่อมา หากมีคนใช้โทรศัพท์อยู่ สายก็จะไม่ว่างและไม่สามารถพูดคุยกับ Motown ได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน Motown ก็ยังไม่ติดต่อมา โจจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของค่ายเพลงท้องถิ่นชื่อ “Steeltown” ซึ่งเป็นค่ายเพลงเล็กๆในแกรี รัฐอินเดียนา
แต่ถึง Steeltown จะเล็ก ค่ายนี้ก็ได้อัดเพลงแรกของ The Jackson 5 ชื่อเพลง “Big Boy”
ผมขอลงเพลง “Big Boy” ให้ลองฟังนะครับ
เพลง “Big Boy” ได้ถูกนำไปเปิดตามสถานีวิทยุต่างๆ และสามารถทำยอดขายแผ่นซิงเกิ้ลได้ดีพอสมควร
แต่ The Jackson 5 ไม่มีทางโด่งดังไปมากกว่านี้แน่ๆ หากยังคงอยู่กับค่ายเล็กๆ อย่างนี้
ในที่สุด กรกฎาคม ค.ศ.1968 (พ.ศ.2511) ก็ได้มีโทรศัพท์ติดต่อมาจาก Motown
ในที่สุด The Jackson 5 ก็ทำให้ Motown สนใจได้สำเร็จ แต่อนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อ ไมเคิลจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร
ติดตามต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา