10 ต.ค. 2019 เวลา 09:18 • กีฬา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ภาพการจรดปากกาต่อสัญญาของเเข้งดาวรุ่งชาวบริติช 5 คนทำให้เป็นที่พูดถึงว่าอาร์แซน เวนเกอร์นายใหญ่ของทีมอาร์เซน่อลกำลังมีโปรเจคในการสร้างทีมโดยใช้เเกนหลักเป็นคนบริติช และถูกตั้งชื่อว่า “British Core”
โปรเจคนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้บรรดาแฟน ๆ เดอะกูนเนอร์สเป็นอย่างมาก เพราะการที่ได้เห็นทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกมีตัวผู้เล่นเเกนหลักเป็นชาวบริติชนั้นไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ง่ายนักในฟุตบอลสมัยนี้
นักเตะที่ถูกพูดถึงในโปรเจคบริติชคอร์นี้ ประกอบไปด้วย
- คาร์ล เจนกินสัน (อังกฤษ)
- อารอน เเรมซีย์ (เวลส์)
- เเจ็ค วิลเชียร์ (อังกฤษ)
- คีแรน กิ๊บส์ (อังกฤษ)
- อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน(อังกฤษ)
- ธีโอ วัลคอตต์ (อังกฤษ)
บรรดาแฟน ๆ ต่างตั้งตารอคอยดาวรุ่งทั้ง 6 คน (ในตอนหลังได้เวลเบคมาสมทบอีกหนึ่งคนเป็น 7 คน) เจิดจรัสทั้งในสีเสื้ออาร์เซน่อล รวมถึงในทีมชาติของแต่ละคนปีแล้วปีเล่า
แต่ทว่าเมื่อเวลาเดินทางมาถึงฤดูกาล 2019 นี้ กลับกลายเป็นว่าสมาชิกของโปรเจค 2 คนสุดท้ายอย่างแรมซีย์และเจนกินสัน ได้ย้ายออกจากทีมเป็นที่เรียบร้อย
ปิดฉากโปรเจคบริติชคอร์ไปแบบบริบูรณ์ โดยที่โปรเจคนี้ไม่เข้าใกล้คำว่าประสบความสำเร็จเลยแม้เเต่นิดเดียว
ในช่วงบั้นปลายการคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์นั้น การปลุกปั้นดาวรุ่งเพื่อมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ก็ดูดรอปลงไป ผู้เล่นที่ขึ้นมาไม่สามารถสร้างมาตรฐานได้เหมือนช่วงทศวรรษหลังปี 2006 ที่จำเป็นต้องปั้นผู้เล่นเยาวชนขึ้นมา แล้วขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ของสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม
แต่พอกาลเวลาเปลี่ยนผ่านมาถึงยุคของอูไน เอเมรี่ ก็ได้เริ่มมีดาวรุ่งมากหน้าหลายตาที่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ ที่ได้ “เฟรดดี ลุงเบิร์ก” เข้ามารับตำเเหน่งผู้ช่วยแทนสตีฟ โบลด์ ที่สลับลงไปดูแลในส่วนของเยาวชนเเทน
ลุงเบิร์กรู้ดีว่าเด็กคนไหนของทีมที่มีศักยภาพเพียงพอเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้ เพราะว่าเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเขาได้รับมอบหมายให้คุมทีมเยาวชนชุด U23 ของอาร์เซน่อล พร้อมกับทำผลงานได้อย่างประทับใจพาทีมจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์
และนายใหญ่ชาวสเปนอย่างอูไนเองก็ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ กล้าที่จะมอบโอกาสลงสนามแก่ตัวดาวรุ่งเหล่านี้เช่นเดียวกัน
ดาวรุ่งของอาร์เซน่อลที่น่าจับตามองและได้รับโอกาสลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้วได้แก่
- บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ, อายุ 18 ปี)
- กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (บราซิล, อายุ 18 ปี)
- รีสส์ เนลสัน (อังกฤษ, อายุ 19 ปี)
- เอมิล สมิธ โรว์ (อังกฤษ, อายุ 19 ปี)
- โจ วิลล็อค (อังกฤษ, อายุ 20 ปี)
- มัตเตโอ เกนดูซี่ (ฝรั่งเศส, อายุ 20 ปี)
- เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส (อังกฤษ, อายุ 22 ปี)
- คีแรน เทียร์นีย์ (สกอตแลนด์, อายุ 22 ปี)
หากนับรวมคนที่พึ่งก้าวพ้นวัยดาวรุ่งไปนิดหน่อยก็ยังมีร็อบ โฮลดิ้ง และคาลัม แชมเบอร์ส ที่พึ่งอายุ 24 ปี โดยที่ในรายหลังนั้นพึ่งคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมที่พบกับบอร์นมัธเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย
อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองก็คือเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ศูนย์หน้าชาวอังกฤษ วัย 20 ปี ที่ปัจจุบันถูกลีดล์ ยูไนเต็ดยืมตัวไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพก็โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง กดไปแล้ว 4 ประตู จากการลงเล่น 8 นัดในทุกรายการ
หากมามองดูขุมกำลังหนุ่มเหล่านี้แล้ว จะพบว่ามีเชื้อสายเป็นบริติชอยู่ถึง 9 คน และเมิ่อมองดูฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของแต่ละนายในปัจจุบันแล้ว จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
บางทีดาวรุ่งชุดนี้ อาจจะเป็นกลุ่มที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อโปรเจคบริติชคอร์ให้ประสบความสำเร็จก็เป็นได้
🇬🇧
โฆษณา