11 ต.ค. 2019 เวลา 05:12 • การศึกษา
5 ขั้นตอนปรับ Mindset เพื่อพัฒนาตนเอง
คำว่า Mindset ในความหมายจาก พจนานุกรมแปลอังกฤษเป็นไทย มีความหมายว่า “ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม” และหลายๆคนคงได้ยินคำๆนี้มาใช้กันบ่อยๆในแง่การสร้างแรงจูงใจให้กับตนเอง
จากงานวิจัยของนักจิตวิทยาที่ชื่อว่า Carol Dweck พบว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นจะมี Mindset ที่แตกต่างจากคนทั่วไป โดยคนที่ประสบความสำเร็จนั้นจะมี Mindset แบบ Growth Mindset (กรอบแนวคิดแบบเปิดกว้าง) เป็นพวกความเชื่อที่ว่า ตนเองสามารถพัฒนาทักษะต่างๆได้อยู่เสมอ
ซึ่งแตกต่างจากคนส่วนมากที่จะมี Mindset แบบ Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบปิดตาย) โดยเชื่อว่าทักษะตนเองมีขีดจำกัด และพัฒนาเพื่อข้ามขีดจำกัดไม่ได้อีกแล้ว
1
การมี Mindset แบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะพื้นฐานของมนุษย์ต้องการความปลอดภัย ทำให้เราอยู่ที่ที่เราคุ้นเคยและไม่อยากเสี่ยง แล้วถ้าวันนึงเราอยากพัฒนา Mindset ของเรา จะต้องเริ่มต้นยังไงบ้าง?
1. ทำความเข้าใจ Mindset ที่มีอยู่ในตัวคุณเองก่อน
     สิ่งแรกของการปรับ Mindset ก็คือ เราต้องรู้และเข้าใจ Mindset ของเรานั้นเป็นแบบไหน สมมุติให้ Mindset เป็นคนอีกคนที่อยู่ในความคิดของเรา เขาคิดอะไรอยู่ ? เขาจะพูดอะไรกับเรา ? เช่น ถ้าเจอสิ่งที่ท้าทายทักษะของคุณ Mindset จะพูดกับเราว่า “จะทำได้หรอ” “ถ้าทำผิดมาอายนะ” “ฉันทำไม่ได้แน่เลย”
คอยสังเกตุ คำถามเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นในความคิดคุณบ่อยๆแล้วละก็ คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่มี Fixed Mindset ซึ่งจะทำให้ไม่กล้าพัฒนาตนเอง และมันอาจทำให้สิ่งที่คุณทำอยู่ถึงทางตันได้ง่ายๆเลย หรือคุณอาจจะไม่มีความสุขที่จะทำสิ่งนี้อีกต่อไปเลยก็ได้
2. ปรับมุมมองเพื่อเพิ่มโอกาสให้ตนเอง
     เมื่อเราทำความเข้าใจ Mindset ของเราแล้วว่าเป็นอย่างไร สิ่งต่อไปคือ หาเหตุผลว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจในความสามารถตนเองเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ เมื่อเราได้เหตุผลนั้นมาแล้ว ก็อยู่ที่มุมมองของเราแล้วว่า จะมองสิ่งสิ่งนั้นเป็นอุปสรรค์ที่เราต้องหลีกเลี่ยง หรือมองให้เป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มทักษะใหม่ๆ
ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมองเป็นอุปสรรค์เมื่อนั้นคุณพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงและเลือกใช้ Fixed Mindset ไปแล้ว แต่ถ้าคุณมองว่ามันคือโอกาสแล้วละก็ คุณกำลังเริ่มต้นการใช้ Growth Mindset เพื่อพัฒนาทักษะตัวคุณเองแล้ว
3. ความตั้งใจที่แน่วแน่
     การจะปรับเปลี่ยนอะไรสักอย่างในครั้งแรกนั้นมันยากมากๆ และ Mindset เป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเรามานาน จะปรับเปลี่ยนเลยคงไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ ยิ่งเราพยายามปรับเปลี่ยนแต่ Fixed Mindset ที่อยู่ในหัวเราจะคอยพูดกับเราตลอดเวลา
1
วิธีจัดการที่ทำได้คือใช้ Growth Mindset และความตั้งใจที่อยากจะพัฒนาตนเองเอาชนะ Fixed Mindset ที่อยู่ในหัวเราให้ได้ เช่น
•Fixed Mindset ในหัวบอกว่า: แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้ได้ ความสามารถของเราไม่น่าจะถึงหรือเปล่า
•Growth Mindset ตอบกลับไปว่า: ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำได้ไหม แต่ถ้าเราพยายามก็น่าจะเรียนรู้ได้นะ
•Fixed Mindset ในหัวบอกว่า: ถ้าพลาดล่ะ มันน่าอายนะ
•Growth Mindset ตอบกลับ: คนที่ไม่เคยพลาดคือคนที่ไม่กล้าทำอะไรเลยและความผิดพลาดเราเรียนรู้จากมันได้
4. เริ่มลงมือทำ
     สิ่งสำคัญของการที่เราจะปรับเปลี่ยน Mindset ไม่ใช่ทำเพื่อแค่ให้เราเปลี่ยนความคิดแต่มันต้องส่งผลถึงพฤติกรรมของเราด้วย Fixed Mindset ที่อยู่ในความคิดเรานั้นเป็นเพราะว่าเราไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone เพราะพื้นฐานของมนุษย์ต้องการที่ที่ปลอดภัยจึงส่งผลถึงพฤติกรรมของเราทำให้ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้
แต่เมื่อใดเราสามารถเปลี่ยน Growth Mindset ให้เป็นพฤติกรรมได้ เรารู้สาเหตุว่าอะไรที่เราบกพร่องทำให้เราไม่มั่นใจ เราก็หาวิธีฝึกฝนในเรื่องนั้นๆ เราก็จะสามารถขยาย Comfort Zone ของเราออกไปได้ ความสามารถในการพัฒนาตนเองเราก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย
5. ยังทำไม่ได้ ไม่ใช่ “ทำไม่ได้”
     คนที่ประสบความสำเร็จเค้าอาจจะลงมือทำเป็นสิบครั้งร้อยครั้งก็เป็นไปได้มันจะล้มเหลว 9 ครั้ง แต่ประสบความสำเร็จครั้งที่ 10 ก็เป็นไปได้
1
ในหลายเรื่องเราก็ต้องยอมรับว่า แค่คิดแล้วลงมือทำเลยนั้นอาจจะยังไม่ประสบผลสำเร็จได้ทันทีอย่างที่คิด เมื่อทำแล้วผิดพลาดอาจจะยิ่งตอกย้ำแล้วพาเรากลับไปอยู่ Fixed Mindset อีกครั้ง
สิ่งที่เราจะทำได้เมื่อการเปลี่ยนแปลงของเรายังไม่ประสบผลสำเร็จก็คือ บอกตัวเองว่าคุณสมบัติในตอนนั้นของเรายังไม่ถึง ยังทำไม่ได้ เราแค่ยังทำไม่ได้ไม่ใช่ว่าเราทำมันไม่ได้เลยการเติมคำว่ายังเข้าไป Fixed Mindset จะช่วยเปลี่ยน Mindset ของเราให้กลายเป็น Growth Mindset ได้
ตัวอย่างเช่น เราทำไม่ได้ จะทำให้เราหยุดพัฒนาตนเองเป็น Fixed Mindset แต่ถ้าเราพูดว่าตอนนี้ยังทำไมได้ โดยนัยของมันแล้วหมายความว่ามันจะมีโอกาสทำได้ในอนาคต นั่นคือ Growth Mindset นั่นเอง
1
อ่านเพิ่มเติม
References : www.caf.co.th
อย่า<ลืม>กดไลก์ กดแชร์ คอมเม้นต์ 🙏
เพื่อเป็นกำลังใจให้ me ด้วยนะคะ รัก🥰
#meเรื่องจะเล่า 💕
โฆษณา