Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เที่ยวทีเป็นแสน แพลนให้ดีๆหน่อย
•
ติดตาม
15 ต.ค. 2019 เวลา 10:55 • ท่องเที่ยว
อากาศที่ชุ่มฉ่ำ ทำให้คิดถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ Chubu (15 ตุลาคม 2562) by ยาจกเจ้าสำราญ
ตอนที่ 5 Kurobe Gorge
วันนี้เราเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของทริปชมความงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ตอนกลางประเทศญี่ปุ่นแล้วนะครับ
ตอนที่แล้ว ผมไปแวะพักแช่น้ำร้อนออนเซ็นที่เมือง Unazuki Onsen
Unazuki Onsen
นอกจากความงามของเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆที่ซ่อนตัวในหุบเขาแล้ว Unazuki Station ยังเป็นจุดที่ใช้ในการเดินทางไปเยี่ยมชมความงามของหุบเขา Kurobe (Kurobe Gorge หรือ คุโรเบะ กอร์จ)
Kurobe Gorge มีลักษณเป็นหุบเขาที่มีความสูงชันและมีแม่น้ำคุโรเบะ (Kurobe River) ซึ่งอยู่ในกลุ่มเทือกเขา Japan Alps ทางด้านเหนือ
จริงๆแล้วท่านผู้อ่านนักเดินทางสามารถเลือกทริปเยี่ยมชมความงามของ Kurobe Gorge ได้ 2 ทาง
1. Tateyama Kurobe Alpine Route เป็นทัวร์เต็มรูปแบบ 8 ชม. ออกจาก Tateyama
2. Kurobe Gorge Railway เป็นทัวร์ย่อ 3 ชม. ออกจาก Unazuki Onsen
ผมเลือกเดินทางแบบที่ 2 ครับ
ขอเล่าการเดินทางแบบแรกพอสังเขปนะครับ (Tateyama Kurobe Alpine Route หรือ เส้นทางเทือกเขาทาเตยามะ คุโรเบะ) คือการข้ามเทือกเขาที่พาดตัวจากจังหวัดโทยาม่า (Toyama Prefecture) ไปยังเขตจังหวัดนากาโน่ (Nagano Prefecture) ตามรูปด้านล่างครับ โดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงในการเดินทางเยี่ยมชมจุดต่างๆทั้งหมด
Tateyama Kurobe Alpine Route CR.Japan-Guide
ไฮไลท์ของทริปแรกคือ กำแพงหิมะ (Snow Wall) สูง 20 เมตร แต่จะเปิดเฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนนะครับ การเดินทางตลอดทั้งทริปจะมีทั้ง นั่งรถไฟ รถกระเช้า รถบัส เดินเท้า รถราง ไปจนถึงอีกฟากครับ เพราะฉะนั้นนักเดินทางที่ไม่ได้ไปท่านเดียวควรคำนึงถึงผู้ร่วมเดินทางด้วยนะครับ ว่ามีความพร้อมในการเดินทางหลายรูปแบบหรือไม่ครับ
แบบที่สองที่ผมเลือกเดินทางคือนั่งรถไฟสาย Kurobe Gorge Railway เพื่อขึ้นไปชมความงามของเทือกเขาคุโรเบะและแม่น้ำจากสถานี Unazuki station ไป Keyakidaira station ที่อยู่บนเขื่อนคุโรเบะครับ
การเดินทางจะนั่งรถไฟแบบเปิดรับลมครับ อากาศก็เย็นๆสบายๆ หนาวนิดหน่อย (ผมขี้หนาวครับ) ระหว่างทางก็ชมความงามด้วยตาเปล่าและถ่ายรูปไปพร้อมๆกันครับ
“กรุณานั่งด้านขวาของขบวนรถไฟ” นะครับ เพราะวิวจะอยู่ด้านขวาครับ
การเดินทางใช้เวลาประมาณ 90 นาทีสำหรับแต่ละเที่ยว ไปกลับรวม 180 นาทีหรือ 1.5 ชั่วโมงครับ
รถไฟมีหลายเที่ยวครับ สามารถตรวจสอบตารางการเดินรถไฟได้ที่
https://www.kurotetu.co.jp/en/timetable/
ส่วนตั๋วรถไฟนั้น สามารถซื้อได้ที่ สถานี Unazuki Station ได้เลยครับ ผมไปซื้อตั้งแต่ไปถึง Unazuki Onsen เลยครับ จะได้มีที่นั่งตามรอบที่เรากำหนดครับ
สรุปการเดินทาง
ผมประทับใจความสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นตอนกลางอย่างเขต Chubu มากๆครับ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามในการเดินทางมากกว่าปกติหน่อย นั่นคือการต้องนั่งรถบัสไปสถานที่ต่างๆ (ปกติผมชอบนั่งรถไฟ ขับรถเช่าครับ เพราะความสะดวกสบาย) เนื่องจากหลายๆสถานที่ที่ผมไปนั้น รถยนต์ส่วนตัวและรถไฟเข้าไม่ถึงครับ ยังไงก็ต้องต่อรถบัสหรือรถแท็กซี่ การต้องเดินทางพร้อมสัมภาระอาจจะไม่คล่องตัวเท่าไร เพราะผมวางแผนเดินทางออกจากโตเกียวและกลับไปโตเกียวอีกครั้ง
ผมมีคำแนะนำท่านที่สนใจจะเดินทางไปเที่ยวเส้นทางนี้ ดังนี้ครับ
1. ท่านสามารถเลือกที่จะเดินทางจากประเทศไทยมาลงที่ Nagoya ได้ครับ เพราะใกล้กว่ามาจากโตเกียวมาก ประหยัดเวลาและค่าเดินทางครับ
2. ท่านสามารถเลือกเช่ารถขับได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบเฉพาะบางส่วนของการเดินทางหรือตลอดทั้งทริป เนื่องจากการโดยสารทางรถไฟหลายๆเส้นทางต้องเปลี่ยนรถไฟหลายครั้ง ทำให้ใช้เวลาเยอะกว่าหรือพอๆกันกับการขับรถเช่าเองครับ
3. การขับรถไปบางสถานที่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้สุดครับ กรุณาตรวจสอบข้อมูลการเดินทางให้ละเอียดตอนวางแผนเส้นทางด้วยนะครับ
4. เส้นทางนี้มักจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมช่วงเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนครับ กรุณาตรวจสอบข้อมูลของแต่ละสถานที่ที่ท่านวางแผนจะไปโดยละเอียดนะครับ จะได้ไม่เสียเที่ยว
5. เส้นทางและทัศนียภาพสวยมากครับ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปดีๆไปเก็บภาพความทรงจำดีๆด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามทริปการเดินทางนี้ครบทั้ง 5 ตอนนะครับ ท่านผู้อ่านนักเดินทางมีข้อสงสัย คำแนะนำติชม หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม คอมเมนต์ใต้ Post ได้เลยนะครับ
ขอให้ได้รับความขอบคุณจาก #เที่ยวทีเป็นแสนแพลนให้ดีๆหน่อย
บันทึก
9
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น (ตุลาคม 2015)
9
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย