อินเดีย ...ไม่อินดี้
เวลาพูดถึงอินเดีย เราจะนึกถึงอะไร ถ้าที่เที่ยวก็คงจะเป็นทัชมาฮาล ชัยปุระ มุมไบหรือว่านิวเดลี ถ้าของกินก็คงอดนึกถึงแกงกระหรี่หรือโรตี ถ้าผู้คนก็คงนึกถึงหนุ่มสาวในชุดผ้าส่าหรี่ หนังบอลลีวูด หรือนึกถึงคำสอนของมหาตมะ คานธี เชื่อว่าหลายคนก็นึกไปถึงความยากจน ขอทาน ชุมชนแออัด สลัม ปัญหาเรื่องความไม่สะอาดของอาหาร สภาวะแวดล้อม สาธารณสุข รวมไปถึงเรื่องการแบ่งชนชั้น วรรณะ มีภาษาท้องถิ่นอีกนับร้อย เรื่องราวที่จะแชร์ในวันนี้อาจเปลี่ยนความคิดของเรากับประเทศอินเดียไปตลอดกาล
cr. pinterest
ขอหยิบเนื้อหามาจาก World Economic Forum หัวข้อที่ว่า “7 things to know about India's economy today” - 7 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศอินเดีย บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ India Economic Summit มาลองเดากันดูว่าจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง
.
1.ช้าแต่ชัวร์ อาจเป็นนิยามของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย
World Bank ได้คาดการณ์ไว้ว่า เศรษฐกิจของอินเดียจะเติบโตกว่า 7% ในปี 2019 และเพิ่มขึ้นเป็น 7.2% ในปี 2020 ซึ่งเมื่อเทียบกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจชองจีนเมื่อปี 2018 คิดเป็นราวๆ 6% กลายเป็นว่า เป็นม้ามืดเติบโตได้ดีกว่าจีนเสียอีก ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2017 World Bank ก็เพิ่งออกมาบอกว่าเศรษฐกิจชองอินเดียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ตามหลังสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และอังกฤษเท่านั้น
.
2.อินเดียอาจกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในอีก 8 ปีข้างหน้า
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2027 อินเดียจะมีประชากรเยอะเป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าจีน ประเทศอินเดียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก คิดเป็นจำนวนคนกว่า 17% ทั่วโลก ที่อาศัยอยู่ที่อินเดีย งานนี้ประเทศจีนคงต้องมีหนาว เพราะอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของจีนเฟื่องฟูได้ดีในทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกเขามี “คน” อยู่ในมือเยอะ ไม่ว่าจะมีบริษัท มีผลิตภัณฑ์อะไร แค่ขายในประเทศก็เพียงพอแล้ว ยิ่งประเทศมีความชาตินิยมก็จะยิ่งกันรายได้ ไม่ให้ตกไปเป็นของต่างชาติได้อีก ในขณะที่จีนมีจำนวนการเพิ่มประชากรนั้นลงลดหรือคงที่ อินเดียมีอัตราการเติบโตของประชากรอยู่ที่ 1.11% อีกไม่นานเราคงจะต้องจำข้อมูลกันใหม่ อินเดียอาจขึ้นมาเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของโลกเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
.
3. พร้อมรับทุกการแข่งขัน
แม้ว่าอินเดียจะรั้งอยู่ที่อันดับที่ 58 ของรายงานการแข่งขันทางเศรษฐกิจทั่วโลก (World Economic Forum’s Global Competitiveness Report) แต่อันดับก็ค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งในปี 2017 ก็ขยับขึ้นมามากกว่า 5 ตำแหน่ง แถมยังถือครองประเทศที่มีกำไรมากที่สุดในบรรดาประเทศ G20
.
4. เต็มไปด้วยนักคิดและเหล่าสตาร์ทอัพ
ถ้าพูดถึงเรื่อง IT อินเดียไม่เป็นสองรองใคร สตาร์อัพก็เช่นกัน มีรายงานจาก NASSCOM ว่าประเทศอินเดียเต็มไปด้วยเหล่าสตาร์ทอัพใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีเทคโนโลยีสตาร์อัพกว่า 4,750 แห่งโดยที่แค่ปี 2018 ก็ปาเข้าไปกว่า 1,500 แห่ง แถมรัฐบาลยังมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดสตาร์ทอัพเพิ่มเติมอีก
cr. pinterest
5.คนรวยมากขึ้น
เหล่านักธุรกิจจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น สอดคล้องกับผลสำรวจของ AfrAsia Bank’s Global Wealth Migration Review 2019 ได้ทำการสำรวจความร่ำรวยของผู้คนใน 10 ข้างหน้า พบตัวเลขที่น่าตกใจว่า อินเดียมีการเติบโตของคนรวยสูงถึง 180% มากกว่าทุกประเทศ รวมทั้งจีนหรือแม้แต่สหรัฐฯ ที่ได้ผลการเติบโตอยู่ที่ 120% และ 20% ตามลำดับ
.
6. เพราะความยากจน ผู้คนยังต้องการงานอีกมาก
แน่นอนว่าพวกเขาพยายามลดความเลื่อมล้ำและความยากจนกันอยู่ตลอด โดยผลการสำรวจของ World Bank ก็พบตัวเลขที่ลดลงในทุกๆ ปี จาก 22% ในปี 2011-2012 เหลืออยู่ที่ 13% ใน 2015 แม้ว่าตัวเลขจะลดลงแต่พวกเขาก็ยังพบว่า 6 จาก 10 คน ต้องดำรงชีวิตด้วยเงินเพียง 3.20$ ต่อวันเท่านั้น รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนเฉย ออกการหมายเกี่ยวกับแรงงานเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีงานทำอย่างถูกกฎหมายมากขึ้น
.
7.เราอาจจะเห็นความเสมอภาคที่อินเดีย
แม้ว่าอินเดียจะมีช่องว่างในด้านความเสมอภาคสูงถึง 33% ผู้คนยังมีความหวังเต็มเปี่ยมว่า ในขณะที่เศรษฐกิจถูกขยับเคลื่อนไปข้างหน้า พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงความเท่าเทียมกันในสังคมที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
