16 ต.ค. 2019 เวลา 11:00 • กีฬา
"เมื่อนักบอลตีเทนนิส"
ฟุต-เน็ต หรือฟุตบอล เทนนิส เป็นกีฬาที่เอา เทนนิสมาผสมกับฟุตบอล แต่เดี๋ยวนี้ในสนามซ้อมของบางสโมสรก็นำเอาการเล่นแบบนี้มาใส่ไว้ในโปรแกรมด้วย
ทั้งเป็นการผ่อนคลาย ทั้งเป็นการพัฒนาทักษะการจับบอลและเปิดบอลโด่งในระยะสั้นๆ ให้แม่นยำ
การเป็นนักกีฬาอาชีพ แน่นอนว่าต้องผ่านการฝึกหนักมาตลอด ต้องมีวินัยต่อตัวเองมากกว่าคนธรรมดา แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมีด้วยคือพรสวรรค์ จะมากจะน้อยก็ว่ากัน ถ้ามีมากแถมขยันซ้อมก็เก่ง ก็เป็นแชมป์
มันดันมีนักกีฬาบางคนที่มีพรสวรรค์ไม่ใช่แค่กีฬาประเภทเดียว แต่เล่นเก่งเกือบทุกอย่าง เพียงแต่เมื่อต้องเลือกเส้นทางว่าจะเอาดีในประเภทไหน ก็ต้องทิ้งอย่างอื่น มุ่งเอาดีในเส้นทางที่เลือก
เทนนิสก็เหมือนกัน เราเห็นนักเทนนิสอาชีพระดับท็อปหลายคนที่มีพรสวรรค์ด้านฟุตบอล
โนวัค โยโควิช, ราฟาเอล นาดาล , แอนดี้ เมอร์เร่ย์ หรือ กาแอล มงฟิส พวกนี้สกิลฟุตบอลไม่ธรรมดา
ในด้านตรงกันข้าม นักฟุตบอลหลายคนก็ตีเทนนิสเก่งไม่เบา เพียงแต่จะหาคนที่เล่นทั้งฟุตบอลอาชีพ แล้วเคยลงทะเบียน และลงแข่งขันเป็นนักเทนนิสอาชีพด้วย คงหาได้ยากหน่อย
เคสล่าสุดหมาดๆ คือ เปาโล มัลดินี่ ตำนานเอซี มิลาน และ ทีมชาติอิตาลี
"น้ามัล" หันมาเป็นนักเทนนิสอาชีพเมื่อ 2 ปีก่อน เคยลงแข่งในประเภทชายคู่ด้วยที่อิตาลีบ้านเกิดในชาลเลนเจอร์ ทัวร์ (ระดับต่ำกว่า ATP ทัวร์)
เงินรางวัลอาจไม่มากมายอะไรแต่เป้าหมายของ มัลดินี่ คือการลงแข่งมากกว่า เขาจับคู่กับ สเตฟาโน่ ลันโดนิโน่ แต่ก็แพ้ให้กับคู่ของ โทมัซ เบดนาเร็ค และ ดาวิด เพล ไป 2 เซตรวด 6-1, 6-1 หลังจากนั้น มัลดินี่ ก็ดูเหมือนไม่ลงแข่งเทนนิสอาชีพอีกเลย
คนต่อมา ไมเคิ่ล โบลดิ้ง นักเตะจากยอร์คเชียร์ เขาวนเวียนอยู่กับสโมสรระดับเก่าแก่เช่น ฮัลลัม, แมนส์ฟิลด์ รวมไปถึง กริมสบี้ ทาวน์ แต่ก็เคยสร้างชื่อกับ แบรดฟอร์ด ในช่วงท้ายๆ อาชีพนักเตะ
รายนี้แปลก เพราะไม่ใช่นักบอลแล้วไปเป็นนักเทนนิส แต่ตรงกันข้าม เขาเป็นนักเทนนิสมาก่อน แล้วค่อยมาเอาดีด้านฟุตบอล
โบลดิ้ง เล่นเทนนิสอาชีพจนถึงอายุ 22 แล้วค่อยหันมาเตะบอล เพราะมีพรสวรรค์ทั้งสองกีฬามาตั้งแต่สมัยเด็ก พีคสุดของเส้นทางนักฟุตบอลคือเซ็นสัญญากับ แอสตัน วิลล่า ในปี 2002/03 ขณะอายุ 26 ปี แต่ลงเล่นเกมบอลถ้วยเล็กๆ ไปแค่ 2 นัดเท่านั้น
สมัยเป็นนักเทนนิส เคยติดทีมชาติในระดับเยาวชน และเคยเป็นรูมเมทกับ ทิม เฮนแมน ยอดนักเทนนิสชาวอังกฤษด้วย เขาเคยติดท็อป 20 นักเทนนิสของสหราชอาณาจักรด้วย
กระทั่งปี 1998 นี่แหละที่ ไมเคิ่ล โบลดิ้ง หันมาเอาดีด้านการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัว
อีกคนนี่หนักกว่า แต่ต้องย้อนไปไกลหน่อย กับ รังเกล รังเกลอฟ
รังเกลอฟ เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน เขาเป็นปีกขวาฝีเท้าดี เคยติดทีมชาติในระดับเยาวชน และเข้าชิงชนะเลิศ บัลแกเรียน คัพ ถึง 2 สมัย หนแรกในปี 1956 ลงเล่นให้ โบเตฟ พลอฟดิฟ แต่แพ้ให้ เลฟสกี้ โซเฟีย ไป 2-5
หนต่อมาในปี 1960 อยู่กับ โลโคโมทิฟ พลอฟดิฟ แต่ก็แพ้อีก หนนี้แพ้อย่างน่าเจ็บใจให้กับ เซปเตมวรี่ โซเฟีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-4
จากนั้น รังเกลอฟ หันมาเป็นนักเทนนิสก็เก่งระดับแชมป์ประเทศ ติดทีมชาติบัลแกเรีย อยู่ร่วมทีมที่ทำการแข่งขัน เดวิส คัพ 2 สมัย
ครั้งแรกในปี 1964 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ บัลแกเรีย เข้าร่วมเทนนนิส เดวิส คัพ แต่ก็ตกรอบแรก เพราะบัลแกเรียแพ้ฝรั่งเศศ 0-5
หนต่อมาในปี 1967 รังเกลอฟ ทำผลงานได้ดี บัลแกเรีย เจอกับ โปรตุเกส ในรอบแรก เขาลงเล่นในแม็ทช์ชายคู่ เอาชนะคู่แข่งแบบไม่เสียเซ็ตเลย และบัลแกเรียก็ชนะโปรตุเกส 5-0
รอบต่อมาพวกเขาต้องเจอสหราชอาณาจักร คู่ของ รังเกลอฟ ดวลกับ โรเจอร์ เทย์เลอร์ กับ ไมค์ แซงสเตอร์ แล้วพ่ายไป 3 เซตรวด 6-2, 6-1, 6-0 สุดท้ายสหราชอาณาจักรชนะบัลแกเรียขาดลอย 5-0
ภายหลัง รังเกล รังเกลอฟ กลายมาเป็นโค้ชเทนนิส สอนเยาวชนอยู่ในพลอฟดิฟ มาตลอด ถือเป็นบุคคลสำคัญในวงการเทนนิสของบัลแกเรียด้วย
น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิตอย่างกระทันหันเมื่อปี 2012 ด้วยวัย 75 ปี
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา