16 ต.ค. 2019 เวลา 11:18 • บันเทิง
เปิดตอนแรกของ กระบี่ไร้เทียมทาน...เป็นการปูเรื่องให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างสองสำนัก ที่ผูกแค้นกันมาหลายสิบปี...เชิญเสพ
กระบี่ไร้เทียมทาน 1...
เปิดเรื่อง...ที่สำนักฝึกกำลังภายในขนาดใหญ่บนยอดเขา มีชื่อเสียง มีมาตรฐาน...สำนักบู๊ตึง...
...คือต้องบอกก่อนว่า ไอ้พวกสำนักกำลังภายในสมัยนั้น ไม่ค่อยชอบอยู่บนพื้นที่ราบๆหรอก แต่ต้องไปอยู่บนยอดเขา...นัยว่ามันยากมันท้าทายดี...ใครอยากจะเรียนจะฝึกวิชาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างแรกก่อนคือ ปีนเขาขึ้นไปฝากเนื้อฝากตัว...
ฮุ้นปวยเอี๊ยง...ชื่อนี้จำให้แม่นๆนะฮะ พระเอก...อายุประมาณยี่สิบกว่าๆสวมชุดนวมแน่นหนา คลุมมิดชิดแม้แต่มือและเท้า ที่ลำตัวทั้งด้านหน้าด้านหลังมีแผ่นเหล็กสวมทับไว้อีก...
อ้าวทำไมแต่งตัวแปลกยังงั้นล่ะพ่อคุณ อากาศก็ไม่ได้หนาวอะไรนี่...
เพราะเขาต้องทำหน้าที่ยกเป้าที่เป็นไม้ สำหรับศิษย์รุ่นเยาว์ของบู๊ตึง...ฝึกปาอาวุธลับใส่...
แต่ไปๆมาๆ ตัวฮุ้นปวยเอี๊ยงเองน่ะแหละ กลับเป็นเป้าที่ถูกปาอาวุธลับใส่มากที่สุด...มากกว่าเป้าไม้ที่เขาถือ...
คนฝึกทั้งหลาย ก็ปากันไปหัวเราะกันไป สนุกที่ได้แกล้งคน...แม่งโรคจิตนี่หว่า...จนฮุ้นปวยเอี๊ยงทนไม่ไหว ถอดชุดโยนทิ้ง...ขอร้องเรียนกับศิษย์ที่อาวุโสกว่า...
“ข้าโดนกลั่นแกล้ง พวกมันไม่ตั้งใจปาใส่เป้าที่ถือเลย...ตั้งใจปาใส่ตัวข้ามากกว่า”...
“ข้าอยากฝึกวิชาฝีมือ แต่นี่ให้ข้าถือเป้าไม้ยังงี้มาเป็นปีแล้วไม่ได้ฝึกส้นตีนอะไรซักกะอย่าง...คนอื่นเค้าถือเป้ากันไม่กี่เดือนก็ได้ฝึกวิชากันแล้วอ้ะ”...
1
แต่ฮุ้นปวยเอี๊ยงในเวลานั้น ไม่มีวิชาฝีมืออะไรเลย...แบ็คกราวด์ก็น่าเคลือบแคลงสงสัย เป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่ชัดเจน...
“เอาล่ะ...ถ้าเจ้าไม่พอใจจะถือเป้าไม้ อยากฝึกส้นตีนนักใช่มั้ย...งั้นข้ามีงานใหม่ให้ทำ”...ศิษย์ที่อาวุโสตัดสินใจ...
ฮุ้นปวยเอี๊ยงถูกส่งไปเลี้ยงหมู ซึ่งถือเป็นงานที่สกปรก และต่ำต้อยลงไปอีก...เนี่ย คนเป็นพระเอกมันต้องเจอเพรสเชอร์ก่อน
ถูกส่งไปเลี้ยงหมู ก็ยังไม่วายโดนแกล้งอีก...ศิษย์บู๊ตึงหลายคนยังตามมารังควาน...
1
ยังดีที่มี...ลุ้นอ้วงยี้...ศิษย์หญิงคนเดียวของบู๊ตึง ที่มีรูปโฉมและน้ำใจงาม...คอยช่วยเหลือฮุ้นปวยเอี๊ยงเอาไว้ในบางเวลา...
แน่นอน...ลุ้นอ้วงยี้ ย่อมเป็นเหมือนนางฟ้าในดวงใจของฮุ้นปวยเอี๊ยง...
1
และแล้ววันนึง ระหว่างที่ฮุ้นปวยเอี๊ยงเลี้ยงหมู...โดนกลั่นแกล้ง...และลุ้นอ้วงยี้ช่วยปกป้องอยู่นั้น...
สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นจากยอดเขาบู๊ตึง...มีผู้บุกรุกสำนักบู๊ตึง...
จุดที่ล้งเล้งกันอยู่ที่หลักปลดกระบี่ เชิงเขา...
คือสำนักบู๊ตึงเค้ามีกฎอยู่ว่าใครจะขึ้นเขา...ถ้าไม่ใช่ศิษย์บู๊ตึง...ต้องปลดกระบี่ไว้ตรงนี้...
“กูคือ กงซุนฮ้ง...ศิษย์เอกของ ต๊กโกวบ้อเต๊ก...มาส่งมอบของให้แก่แชซ้ง”...ผู้บุกรุกประกาศกร้าว...โดยไม่ยอมปลดกระบี่...
แถมยังเรียกเจ้าสำนักบู๊ตึงด้วยชื่อตรงๆอีก...ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างยิ่ง...
เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่ว ไม่ยอมหลิ่วตาตาม...ก็ต้องมีการปะทะกันบ้าง...
ผลคือ...ศิษย์รุ่นอาวุโสของบู๊ตึงไม่มีใครต้านทานกงซุนฮ้งได้...
เมื่อตัวต่อตัวสู้ไม่ได้...ก็ต้องใช้วิธี รุม...แต่เรียกให้มันเท่หน่อยว่า...
“ก่อตั้งค่ายกล กระบี่เจ็ดดาว”...ค่ายกลอันนี้ผู้ก่อตั้งคือบริษัทซีพี เริ่มจากไก่ย่างห้าดาว แล้วก็พัฒนาเป็นอะไรไม่รู้ จนมาเป็นค่ายกลกระบี่เจ็ดดาว...น่าจะอร่อยมาก
คราวนี้ กงซุนฮ้งเป็นฝ่ายหือไม่ขึ้นมั่ง...
ระหว่างที่กั๊กๆกันอยู่...มีคำสั่งถ่ายทอดลงมา...
“เจ้าสำนัก สั่งให้ปล่อยทูตขึ้นไปพบได้”...กงซุนฮ้งผู้เขื่องโข จึงถูกนำทางขึ้นเขาไปรอพบเจ้าสำนัก...
ณ โบสถ์อันเป็นสถานที่ต้อนรับ...นอกจากศิษย์บู๊ตึงมากมาย ยังมีนักพรตวัยเกินเจ็ดสิบผู้ทำหน้าที่ รปภ. หรือเรียกให้เก๋หน่อยว่าสี่องครักษ์...ยืนสงบอยู่...
กงซุนฮ้งผู้ก้ามใหญ่ ไม่มีย่นระย่อแม้แต่น้อย...ยังคงเรียก “แชซ้ง”ยังงั้น ”แชซ้ง” ยังงี้...
พร้อมข่มขวัญเจ้าบ้านด้วยเสียงหัวเราะแฝงกำลังภายใน...จนคาน ขื่อของโบสถ์สะเทือน...ฝุ่นร่วงกราว...
รปภ.วัยดึกทั้งสี่ต้องตอบโต้...ด้วยการตะโกนม๊อตโต้ประจำสำนัก...“อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ”...แฝงกำลังภายในเปี่ยมล้นของผู้อาวุโสทั้งสี่...
กงซุนฮ้งถึงกะอึ้ง...อืม เค้าว่าพวกบู๊ตึงแม่งขี้ไม่ให้หมาแดก...ท่าทางน่าจะจริงว่า กูยอมมึงแพร๊พนึงก็ได้วะ...
แล้วก็ไม่ต้องรอนาน ดนตรีก็กระหึ่มขึ้น แดนเซอร์ออกมาโปรยดอกไม้เป็นทิวแถว...ในที่สุด เจ้าสำนักบู๊ตึงก็ปรากฎตัว...
ปัจฉิมลิขิต...
เรื่องเล่า กระบี่ไร้เทียมทานนี้ นี้ มีทั้งหมด 52 ตอน...ผมทำจำหน่ายเป็น pdf file แล้ว...รวมถึงเรื่องเล่าอื่นๆด้วย
หากท่านใดขี้เกียจรอ ต้องการจะอ่านทั้งหมดโดยเร็ว ก็สามารถสั่งซื้อได้ โดยติดต่อผมที่ moncheep3@gmail.com
ขอบคุณครับ...
โฆษณา