16 ต.ค. 2019 เวลา 13:21 • ไลฟ์สไตล์
คิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึง
"อาจแค่ไม่มีใครให้คิดถึง ก็เลยคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึง"
เฟรนด์คนนึงในเฟสบุ๊คโพสข้อความนี้ในวอลของตัวเองแล้วระบบมันฝีดเข้ามาขึ้นในหน้าโฮมของผม
นี่อาจเป็นอะไรซักอย่างที่ดูเท่ห์ๆคมๆที่เค้าโพสลงมา แต่มันทำให้เห็นว่านี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของความขัดแย้งทางจิตใจที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและเราก็ยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้กับมัน
ไม่มีใครที่ไม่ควรถูกคิดถึง
มีแต่การกระทำที่ควรหรือไม่ควรกระทำ
เฟรนด์คนนี้ทำให้ผมนึกถึงเคสหลายๆคนขึ้นมาจนในที่สุดทำให้ต้องเขียนบทความนี้
มันจะน่าเศร้าขนาดไหนที่เราไม่สามารถคิดถึงคนที่
เรารักและมีคุณค่าความหมายต่อเราได้
มันจะน่าเศร้าขนาดไหนที่เราไม่สามารถคิดถึงคนที่เราเทิดทูนและมีคุณค่าทางจิตใจต่อเราได้? มันน่าเสียดายถึงเพียงไหนที่เราไม่สามารถคิดถึงคนที่จุดประกายชีวิตของเรา หรือคนที่ทำให้เรารู้จักคำว่ารักได้ เพียงเพราะเรารู้สึกเจ็บ ทรมาน อึดอัด ไม่ถูกต้อง ไม่ควร ไม่ให้พลังในการใช้ชีวิต หรือรู้สึกเป็นไปในทางลบต่อตัวเราเอง? จริงๆแล้วความรู้สึกเหล่านี้มันสะท้อนออกมาจากตัวของเราเอง จากความคิด จากมายด์เซ็ท จากประสบการณ์ จากความรู้สึกในอดีตของเรา สะท้อนออกมาจนถึงปัจจุบัน วัตถุหรือบุคคลอันเป็นที่ตั้งแห่งความคิดถึงของเราอาจจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความรู้สึกเหล่านี้ของเราเลยด้วยซ้ำ
เคยมีเคสที่มาบำบัดหลายคนรู้สึกผิดและโทษตัวเองที่คิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึง แต่ก็โกรธตัวเองรู้สึกผิดที่ไม่สามารถคิดถึงเค้าได้ มีเคสนึงแม่ของเธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้วแต่การคิดถึงแม่มันช่างเจ็บปวดทุรนทุรายจนไม่อาจรับได้ แม่กลายเป็นคนที่ไม่ควรคิดถึงทั้งๆที่เป็นคนที่เค้ารักมากที่สุด อยากจะคิดถึงจนสุดหัวใจ แต่ก็กลัวความเจ็บปวดที่มันนำมาให้ น่าเห็นใจมากๆ ดังนั้นคำถามที่เราควรหาคำตอบก็คือ
ทำอย่างไรหรือคิดแบบไหนที่เราจะเป็นอิสระที่จะ
สามารถคิดถึงคนที่เราต้องการคิดถึงได้โดยที่ไม่ทำร้ายตัวเราเองและคนรอบข้าง?
เราอาจจะจำคนบางคนในชีวิตเราไม่ได้ เพราะเค้าคนนั้นอาจไม่ใช่คนที่เข้ามามีบทบาทในประสบการณ์ที่สำคัญของชีวิตเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่ได้เป็นคนสำคัญในชีวิตของคนรอบตัวของเค้า เพราะเค้าต้องเป็นลูกของพ่อแม่สักคน เป็นหลานหรือพี่น้องของใครสักคน เป็นลูกศิษย์ เพื่อน หรือคนรักของใครสักคน หรือการแอบรักใครสักคนที่มีเจ้าของ ความรักเป็นสิ่งที่งดงามในตัวของมันเอง เพราะในนั้นมีความปรารถนาดี ความเอื้ออาทร ความห่วงใย ความเมตตา เป็นไปได้หรือที่ความรักจะกลายเป็นความเจ็บปวดความโกรธหรือความเกลียด นั่นมันคนละสิ่งกันอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการครอบครอง
ดอกไม้งดงามที่บานจากลำต้นที่เกิดในรอยแยกของร่องหินบนส่วนยอดของผาน้ำตก ไม่เหมาะที่เราจะนำกลับบ้านไปด้วย ควรปล่อยให้มันสวยงามสดใสเบิกบานอยู่อย่างนั้น
ดังนั้นถ้ามองในแง่ของคนคนหนึ่งหรือในแง่ความสวยงามที่ความรักนำมาให้ จึงไม่มีใครเลยที่จะไม่ควรถูกคิดถึง ในทางกลับกัน หากแม้เค้าคนนั้นเคยมีบทบาทที่สำคัญในชีวิตของเราแต่มันกลับเป็นประสบการณ์ในแง่ลบ เราจะรู้สึกว่าคนคนนั้นไม่ควรถูกคิดถึง เพราะการคิดถึงจะนำมาซึ่งความรู้สึกเจ็บปวด อึดอัด ทรมาน เสียใจ น้อยใจ อิจฉา โกรธ หรือแม้แต่แค้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้จิตใต้สำนึกจดจำเอาไว้และสร้างเงื่อนไขชีวิตว่าชั้นไม่ต้องการจะเจ็บกับเหตุการณ์แบบนี้อีก ชั้นไม่ต้องการเจอคนแบบนี้อีก ชั้นไม่ต้องการระลึกถึงมันอีก และสมองจะถูกโปรแกรมตามนั้น ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นจะถูกล๊อคเก็บไว้แต่ข้อมูลก็ยังคงอยู่ภายในนั้นไม่ได้หายไปไหน ประสบการณ์เหล่านั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งในเซลของร่างกายเรา แล้วเมื่อเรามาเจอเหตุการณ์รูปแบบเดิมกับคนใหม่เวลาใหม่สถานที่ใหม่เราก็รู้สึกคล้ายกับว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่จำไม่ได้ เหมือนเดจาวู เกิดความรู้สึกขัดแย้งขึ้นในตัวเอง ทำตัวไม่ถูก และไม่ชอบตัวเองที่ต้องตกอยู่ในสภาวะแบบนี้
จริงๆแล้ว "คนที่ไม่ควรคิดถึง" คือรูปแบบหนึ่งของการหนีความรู้สึกที่เราไม่ต้องการเผชิญ
เพราะการเผชิญหน้าคือความเสี่ยง คือความกลัว คือความไม่มั่นคงทางจิตใจ เมื่อเผชิญหน้ากับมันเราอาจต้องเจ็บ เราอาจต้องแพ้ เราอาจพังทลาย และวิธีการที่ง่ายที่สุดในการรับมือคือหนี แสตมป์ลงไป ประทับลงไป คนคนนี้ไม่ควรคิดถึง ลืมๆไปดีกว่า ใครๆก็ทำแบบนี้ แล้วเราก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกขัดแย้งภายในแบบนี้อยู่เรื่อยไป
การเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความกลัวสร้างการเรียนรู้
ลองหาคำตอบให้ตัวเองจากการพิจารณาข้อความข้างบน เมื่อเราสงบและกล้าเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด เราจะเห็นความจริง สิ่งที่ไม่ได้ขึ้นอยู่เฉพาะกับความคิดของเราเอง ยังมีความเป็นไปได้อีกหลากหลายรูปแบบต่อจากนั้น มองมันด้วยใจเป็นกลาง ปราศจากอคติ ปราศจากคำวิจารณ์และการวิเคราะห์ คำตอบมันจะค่อยๆปรากฏออกมา ซึ่งคำตอบนั้นของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคนเอง แล้วในที่สุด มันจะกลายเป็นการเรียนรู้ แล้วในที่สุดมันอาจจะตกผลึก แล้วในที่สุดมันอาจกลายเป็นมายด์เซ็ท แล้วในที่สุดมันจะกลายเป็นการยอมรับ มันกลายเป็นการก้าวข้าม เราสอบผ่าน เราจะสงบสุขที่สามารถคิดถึงใครก็ได้ที่เราต้องการคิดถึง คิดถึงผู้คนหรือวัตถุเหล่านั้นได้โดยไม่มีการกระทำหรือการแสดงออกใดๆที่จะทำให้ใครต้องเดือดร้อนจากความคิดถึงนี้ และนั่นคืออิสรภาพจากกรงขังทางความคิดของเราเอง แล้วจะไม่มีคนที่ไม่ควรคิดถึงอีกต่อไป
Happy thinking krub.
โฆษณา