17 ต.ค. 2019 เวลา 13:20 • การศึกษา
จากบทความที่แล้วแอดได้ลงผญาในบทความไป
แล้วมีคนสงสัยว่า ผญา คือ อะไร?
ในบทความนี้แอดเลยจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ "ผญา" ให้หายสงสัยกันค่ะ
"ผญา" หมายถึง ปัญญา, ปรัชญา, ความฉลาด, คำภาษิตที่มีความหมายลึกซึ้ง (wisdom, philosophy, maxim, aphorism.)
เป็นคำคม สุภาษิตสำหรับสั่งสอนลูกหลานให้ประพฤติตนอยู่ในฮีตคอง (จารีต- ประเพณี)
ไม่ออกนอกลู่นอกทางของคนอีสาน ที่สืบทอด
ต่อกันมาเป็นเวลานาน
นาท่งน้อยของอีแม่ Cr. Manoot_Si
ผะหยา หรือ ผญา เป็นคำภาษาอีสาน
ซึ่งสันนิษฐานกันว่าน่าจะเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า ปรัชญา เพราะภาษาอีสานออกเสียงควบ "ปร" เป็น ผ เช่น คำว่า เปรต เป็น เผต หมากปราง เป็น หมากผาง ดังนั้นคำว่า ปรัชญา อาจมาเป็น ผัชญา แล้วเป็นผญา อีกต่อหนึ่ง
ผญา เป็น คำคม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่า หมายถึงอะไร
ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน จะมีสัมผัสหรือไม่มีสัมผัสก็ได้ แต่เวลาพูดจะไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย
ผญา เป็น การพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา
มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กินใจมาก
ทำให้ผู้ฟังได้ทั้งความรู้และความคิดสติปัญญา ความสนุกเพลิดเพลิน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เกิด ความรักด้วย จึงทำให้หนุ่มสาวในสมัยก่อนนิยมพูดผญากันมาก และการโต้ตอบเชิงปัญญาที่ทำ ให้แต่ละฝ่ายเฟ้นหาคำตอบ เพื่อเอาชนะกันนั้นจึงก่อให้เกิดความซาบซึ้ง ล้ำลึกสามารถผูกมัด จิตใจของหนุ่มสาวไม่น้อย ดังนั้น ผญา จึงเป็นเหมือนมนต์ขลัง ที่ตรึงจิตใจหนุ่มสาวให้แนบแน่น ลึกซึ้ง
ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม 2562. Cr. ออนซอนอีสาน
🌟ประเภทของผญา
รูปแบบของผญานั้น หากจะพิจารณาแบ่งโดย
กว้างๆเพื่อความเข้าใจ โดยทั่วไปอาจจะสามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ
1⃣แบ่งตามรูปแบบการแต่ง หรือรูปฉันทลักษ์
2⃣แบ่งตามเนื้อหา หรือจุดมุ่งหมายของการใช้
แบ่งตามรูปแบบการแต่ง หรือรูปฉันทลักษ์
การแบ่งผญาตามรูปแบบการแต่งนี้ ยังสามารถแบ่งออกไปอีก โดยอาศัยเกณฑ์ของสัมผัสในการพิจารณาดังนี้
1⃣.1 ประเภทไม่มีสัมผัส โดยจะถือตามจังหวะวรรคและเสียงสูงต่ำตามจังหวะการพูดการเน้นของผู้พูดให้ได้เนื้อความเป็นเกณฑ์ เช่น
ไผผู้ทำดีไว้ความดีกะดึงจ่อง
ไผผู้สร้างบาปไว้กรรมสิใซ้เมื่อลุน
อย่าได้หวังสุขญ่อนบุญเขามาเพิ่ง
สุขกะสุขเพิ่นพุ้นบ่มากุ้มฮอดเฮา เป็นต้น
1⃣.2 ประเภทที่มีสัมผัส ลักษณะจะมีสัมผัสเหมือนร่าย กลอน โดยจะมีทั้งสัมผัสนอกและสัมผัสใน ทำให้เกิดความคล้องจ้องฟังไพเราะ เช่น
ใผห่อนคองคอยท่าคนตายว่าซิต่าว
คือดังดาวอยู่ฟ้าคอยได้กะบ่มา
เป็นนายให้ฉักไพร่ เป็นใหญ่ให้ฮักหมู่
เป็นปู่ให้ฮักหลาน เป็นกวานบ้านให้ฮักลูกบ้าน เป็นต้น
1⃣.3 ประเภทผสม มีลักษณะผสมผสานกันโดยบางวรรคจะมีสัมผัส บางวรรคอาจไม่มีสัมผัส
ตามความพอใจของกวีชาวบ้าน เช่น
อันว่าโลกีย์นี้บ่มีแนวตั้งเที่ยง มีแต่ตายแตกม้างทลายล้มเกลื่อนหายอันว่าความดายม้างไกลเจียรจาก คันบ่ม้มโอฆะกว้างเทียวพ้ออยู่เลิง เป็นต้น
บายศรีสู่ขวัญน้องใหม่ มมส.
ผญาเมื่อแบ่งแยกหมวดหมู่ออกไปตามลักษณะสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทดังนี้...
1. ผญาคำสอน เป็นคำสอนของผู้ใหญ่ให้ลูกหลานได้คิด นำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดมงคลแก่ชีวิต เป็นผญาที่กล่าวเปรียบเทียบในแง่ต่างๆ เช่น
หญิงฮูปฮ้าย ครองวัตรพางาม ชายฮูบทราม วิชาพาฮุ่ง
( หญิงแม้รูปชั่ว แต่จริยาวัตรทำให้งดงามได้ ชายแม้รูปทราม วิชาติดตัวก็ส่งให้เจริญรุ่งเรืองได้)
ฮูปฮ้าย = รูปไม่งาม, ครองวัตร = จริยาวัตร, การ
กระทำ, ฮูปทราม = รูปชั่วตัวดำ, ฮุ่ง = เจริญรุ่งเรือง)
2. ผญาปริศนา คือ คำถามให้ฉุกคิด ให้เอาไปเปรียบเทียบในการดำเนินชีวิต เช่น
คันได้ขี่ช้างแล้วอย่าดังเปิดดังเหิน อย่าได้เสิ่น ๆ หัวแหย่งสิพานพาฮ้าย
(ถ้าได้ขึ้นตำแหน่งสูงอย่าทะนงตัว เดี๋ยวจะตกกระป๋องง่ายๆ)
3. ผญาภาษิตสะกิดใจ
ทังหลายเพิ่นแพงซิ้นปูปลายามอึดอยาก ความปากความเว้าบ่ได้ซื้อแพงไว้เฮ็ดอิหยัง
( คนทั้งหลายเขาหวงแต่เนื้อปูปลายามอดอยาก แต่คำพูดนั้นไม่ได้ซื้อจะหวงไว้ทำไม)
ข้าวเม่า Cr. คิดฮอดบ้านเฮาเด้เนอะ
4. ผญาเกี้ยวพาราสีทั่วไป
ว่าแม่นเสือกินรื้อสังบ่เห็นฮอยลาก
ว่าแม่นนาคกินรื้อสังบ่เห็นฮอยแก่
หรือแม่นเงือกปากแหล้ หรือแม่นแข้ปากกว้างเอาเจ้าเข้าเวิ่นวัง
(ถ้าว่าเสือกินทำไมไม่เห็นรอยลาก ถ้าว่านาคกินทำไมไม่เห็นรอยลาก หรืออาจเป็นเงือกหรือจระเข้เอาน้องไปซ่อนไว้หนใดหนอ )
5. ผญาเกี้ยวพาราสีโต้ตอบหนุ่มสาว
ชาย) .... สุขซำบายหมั้นเสมอมันเครือเก่า
บ่น้อ เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบายถ้วนอยู่สู่คนบ่เด
(หญิง) .... น้องนี้ สุขซำบายหมั้น เสมอมันเครือเก่าอยู่ดอกอ้าย เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบาย พร้อมสู่คน
(ชาย) .... อ้ายนี่อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนา อยากถามข่าวเถิงเข้า อ้ายอยากถามข่าวน้องว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
(หญิง) .... โอนอ อ้ายเอย น้องนี้ปอดอ้อย
ซ้อยเสมอดั่งตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมาบ่มี ซายสิมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้นบ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม
ผัดแต่เป็นตุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
(ชาย.....น้องสุข สบายดีไหม พ่อแม่ญาติพี่น้องสบายดีกันทุกคนหรือเปล่า
หญิง......น้องสบายดี. พ่อแม่ญาติพี่น้องทุกคนก็สบายดี
ชาย.......พี่อยากถามข่าวถึงน้ำ ปลา นาข้าว อยากถามข่าวน้องว่ามีสามีแล้วหรือยัง หรือว่ามีแต่ชู้ สามีไม่มี
หญิง.....พี่เอย. ตัวน้องนี้ตั้งแต่โตเป็นสาวมายังไม่มีผู้ชายมาจีบเลยสักคน)
Cr. คิดฮอดบ้านเฮาเด้เนอะ
6. ผญาหมวดภาษิตคำเปรียบเปรยต่างๆ
ยืนให้เหลียวเบิ่งป่อง นั่งย่องย่อให้เหลียวเบิ่งหว่างขา (ทำอะไรให้ระมัดระวัง)
7. ผญาปัญหาภาษิต
สั้นข้อหล่อมือยื้อบ่เถิง สูงเจวเววชั่วสามวาฮี้น
อัศจรรย์ใจแข้หางยาวบ่ได้ฮองนั่ง บาดกระต่ายหางก้อมๆ สั่งมาได้นั่งฮอง
บุญเผวด เป็นตอนแห่เชิญพระเวสสันดรเข้าเมือง. ทายซิว่าแอดคือคนไหน
เราจะได้ยิน ผญา จากที่ไหน
การพูดคุยกันโดยปกติของคนอีสานก็มักจะมีผญาสอดแทรกอยู่เสมอโดยเฉพาะคนที่มีอายุเขาคุยกัน
ได้ยินจากคำสั่งคำสอนของพ่อ แม่ ปู่ย่าตายาย
ผู้เฒ่าผู้แก่นั่นแหละค่ะ
คุณยาย คิดฮอดเด้อ
อย่างตอนเด็กๆแอดจะอยู่ว่างๆไม่ได้เลย. ยายของแอดท่านจะชอบบอกแอดว่า
"ของกินบ่กินมันเน่า ของเก่าบ่เล่ามันลืม"
ความหมายคือ ของกินถ้าไม่กินมันก็เน่า สิ่งที่เคยร่ำเรียน เคยผ่านมาถ้าไม่พูดถึงไม่ทบทวนมันก็ลืม
ตีความง่ายๆ คือ ไปอ่านหนังสือซะ😁
ได้ยินจากคำอวยพรในโอกาสต่างๆ
ตัวอย่างคำอวยพร
"ขอให้อยู่ดีสำบายมั่นเสมอมันเครือเก่าเด้อ
ให้เจ้าอยู่ดีมีแฮงความเจ็บอย่าให้ได้ความไข้อย่าให้มี ให้ไปดีมาดี ผู้อยู่ให้มีชัยผู้ไปให้มีโชค
โชคม้าอยู่เทิงอาน อยู่เทิงเครื่องอลังการสำรับ นอนหลับให้เจ้าได้เงินพัน นอนฝันให้เจ้าได้เงินหมื่น นอนตื่นให้เจ้าได้เงินแสน แบมือไปให้ได้แก้วมณีโชติ โทษฮ้ายอย่ามาพาน มารฮ้ายอย่ามาผ่า ให้เจ้ามีอายุ วรรณัง สุขัง พลัง เด้อ ”
งานนี้แห่ผ้าป่าที่จ.ร้อยเอ็ดตอนแอดไปออกค่าย. เห็นแอดไหมคะ ถือต้นเงินอยู่นั่นไง>_<
ได้ยินจากหมอลำ โดยเฉพาะลำเรื่องต่อกลอน
บทพูดก็ล้วนแต่เป็นผญา ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็เหลือน้อยลงไปทุกที เพราะคนเขาฮิดรถแห่กัน
ได้ยินจากการเกี้ยวพาราสีกันของคนสมัยก่อนยายแอดเคยเล่าให้ฟังว่าตอนเวลาค่ำๆ สาวๆก็จะนั่งทอผ้าหรือทำงานเย็บปักถักร้อยอยู่ใต้ถุนบ้าน แล้วก็จะมีหนุ่มๆแวะมาจีบถ้าเกิดว่าชอบก็จะมาแทบทุกวันจีบกันจนตกลงคบหากัน พัฒนาความสัมพันธ์ไปจนถึงแต่งงานอยู่กินกัน. แต่ถ้าไม่ชอบก็จะไปบ้านสาวคนอื่น และทุกอย่างอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่นะคะ.
ส่วนตอนนี้ไม่มีแล้วเขานิยมแชทคุยกัน จีบกันทางออนไลน์ไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้วัยรุ่น หรือเด็กก็คงจะไม่รู้จักผญาด้วยซ้ำไปหรืออาจจะเคยได้ยินแต่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าผญา และคำศัพท์บางคำที่ใช้เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยจะเห็นใช้กันแล้ว. แม้แต่ตัวแอดเองบางคำก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามันแปลว่าอะไรต้องถามผู้เฒ่าผู้แก่เอาค่ะ
เป็ดน้อยที่หนองประจักษ์
บท ผญา ที่แอดนำมาประกอบบทความเป็นเพียงส่วนน้อยๆเท่านั้น ยังมีผญาดีๆเพราะๆอีกมากเลยล่ะค่ะ ผญา เปรียบเสมือนมรดกของชาวอีสานที่แอดอยากให้มีอยู่คู่กับคนอีสานตลอดไปค่ะ
😘เพราะความคิดฮอดบ้านของแอด แอดเลยเขียนผญาบทนี้ไว้ตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆ ตอนนี้ก็5เดือนแล้วล่ะค่ะ. แอดจะไม่เพราะนะคะแต่แต่งมาจากความรู้สึกที่มี
สาวอิสานจำพราก.
ไกลจากเฮือนนอน
เข้าสู่กรุงเทพ.
เมืองหลวงศิวิไล
จำจากไกลบ้านมา
จากท่งนาที่เคยท่อง
หวังสมปองแนวฝันไว้
ทางข้างหน้าเป็นแนวได๋นั้น
กะบ่อาจสิฮู้ได้.
อดสาทนบ่ย่นย้อขอเอาแฮงใจสู้
หวังได้หมู่ความสมหวัง.
เอาเฮื่อใจเป็นพลัง
เอาผิดเป็นครูน้อย.
ลางเทื่อชีวิตลอยหมุนคว้าง
คือเศษฟางยามลมเป่า
จุดพักเซากะบ่พ้อ
มื้อได๋น้อได้ดั่งหวัง.
เศร้าอิหยังกะบ่ฮู้
แนวเป็นหมู่คือเสียงเพลง.
เปิดบรรเลงพอคลายเหงา
ยามพักเซาเติมแฮงล้า
แหงนเบิ่งฟ้ากะคิดฮอดบ้าน
แดนอิสานบ้านเกิดเก่า
หม่องเคยเซานอนหนุน
เห็นรูปแล้วกะคิดฮอด
อบอุ่นใจคลายกลุ้ม ซุมอิพ่อ อิแม่ ลุงป้า อาอาว
เทิงกับข้าวแนวเคยกิน ได้ยินเสียงยามโทรหา
ได้เห็นหน้ายามคอลเว้า พอบรรเทาได้จักหน่อย
ซ่อยให้มีแฮงสู้ต่อไป วิถีทางการต่อสู้
สุดแท้แล้วแต่ใจ. ดวงชะตากำหนดไว้
เส้นทางไต่พรหมลิขิต. มนุษย์เฮาทุกชีวิต
เลือกเกิดเองบ่มีได้. ความฝันไฝ่ต่างสืบสร้าง
พร้อมความหวังทางสู้ต่อ. อดสาทนบ่ย่นย้อ
เอาใจสู้แข่งประชัน. จนกว่าความฝันสิเป็นจริง
หน้าบ้านแอดเอง
เพราะความคิดฮอดบ้านของแอดกะสิเป็นเพ้อๆ
แนวนี้ล่ะจ้า. หมู่เจ้าพากันแปลออกบ่ล่ะฮึ. ขั่นสงสัยหม่องได๋คอมเมนต์ถามได้เด้อจ้า 😁😁😁
ปล. ภาพกับบทความอาจจะไม่เข้ากันเท่าไหร่
เรียบเรียง
~มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก~
โฆษณา