18 ต.ค. 2019 เวลา 02:55 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องสั้นชุด "ชีวิตต่างแดน" ตอน "Thailand & Taiwan" โดย...ตุ๊กดุ๋ย เลิฟลี่....
“Thailand and Taiwan”
ผมได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนๆ หลายคนว่า
เวลาคุยกับคนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกัน หรือเพิ่งจะรู้จักทักทายกัน
พวกคนเหล่านั้น มักจะสับสนเสมอระหว่าง Thailand กับ Taiwan
และโดยส่วนมากจะเข้าใจว่า Thailand นั้นคือ Taiwan
“Where you come from?”
“I come from Thailand.”
“Oh…Taiwan.”
“No..no…Thailand.!!”
มันจะออกมาประมาณนี้ตลอด
แล้วคนถาม มันก็จะทำหน้างงๆ จนต้องอธิบายต่ออีกยาวยืดว่า เป็นคนละประเทศกัน
บางรายหนักกว่านั้นอีก บอกว่ารู้จัก Taiwan แต่ไม่รู้จัก Thailand
“So your home Thailand. Are they still riding elephants to go anywhere?”
“แล้วไทยแลนด์บ้านคุณนี่ ยังขี่ช้างไปไหนมาไหนอยู่หรือเปล่า?”
อืม...มึงไปอยู่ไหนมาเนี่ย !!
ยุคมิลเลนเนียมแล้ว มึงยังจะให้ใครเขาขี่ช้างแทนรถกันอีกเหรอวะ
วิชาประวัติศาสตร์บ้านมันคงไม่มี หรืออาจจะมีอยู่ แต่มันไม่ได้สนใจใฝ่รู้เอง !!
นอกจากชื่อพยางค์แรกของประเทศจะออกเสียงคล้ายๆ กันแล้ว รูปร่างหน้าตาผู้คนก็ดูจะกลมกลืนใกล้เคียงกันไม่น้อย
ถ้าไม่เชื่อ คุณลองเอาตัวเองไปเดินในต่างประเทศดูสิ
โดยเฉพาะประเทศที่อยากจะเปรียบเทียบอย่างไต้หวัน
หรือเอาพวกพี่น้องเขา อย่างจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกงก็ได้ ไทยแลนด์อย่างเรา ก็จะกลมกลืนไปกับเขาอย่างแยกไม่ออกเลยทีเดียว
ผมเคยไปแตล๊ดแต๊ดแต๋อยู่ที่ฮ่องกงครั้งนึง ก็กลายเป็นอาเฮียได้โดยไม่เคอะเขิน
ไปเดินช้อปปิ้ง ก็ได้รับการทักทายและพูดคุยเป็นภาษากวางตุ้งอยู่หลายประโยค
จนเราสารภาพว่า เราเป็นคนไทย ฟังไม่ออกจ้ะ
อาเจ๊ แกจึงหยุดพูด แล้วปล่อยให้เราเดินเลือกของ โดยไม่มาจ้ออีกเลย !!
ในวันหนึ่ง ที่ผมต้องไปพบทนายความ
เมื่อ จนท.DO เดินสายมารับ และพาผมเดินออกจากห้อง
ผมสวนทางกับ จนท.DO เดินสายอีกคนหนึ่ง มาพร้อมกับบุรุษหน้าใหม่อีกหนึ่งหนุ่ม
สะพายถุงผ้าที่ไหล่ข้างหนึ่ง อันป็นเอกลักษณ์ของผู้มาใหม่ ที่จะมาร่วมอาศัยชายคาเดียวกัน
รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมดำ หน้าตี๋ ไม่ไทยก็จีนละวะแบบนี้ !! ผมนึกในใจ
พอเดินไปได้อีกสักระยะ ผมหันหลังกลับไปมองอีกครั้งหนึ่ง
อ้าว...มันยืนรออยู่ที่ประตูหน้าห้อง C 4 ของเราพอดี !!
กลับไปคงรู้แน่ ว่ามันเป็นใครกัน
ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ที่ผมเสร็จภารกิจกับทนายความ
เข้ามาที่ห้อง กำลังจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง
ก็มีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกว่า
“มีเพื่อนจากประเทศของคุณมาแน่ะ ไปดูสิ ที่เตียง 307 มาจาก Taiwan น่ะ”
ผมพยักหน้า และขอบคุณ ด้วยอาการงง ๆ
มาจาก Taiwan เหรอ?
อืม...นึกว่าจะ Thailand
ถ้าเป็นคนจีน ก็นึกว่าจะมาจากแผ่นดินใหญ่มากกว่า
ในขณะที่ผมยังไม่หายงง
ก็ยังมีเพื่อนผู้หวังดีอีกคนหนึ่ง มาเติมความพีคให้
“Where you come from?”
“Thailand” ผมตอบสั้น ๆ
“Oh..Good…there was a friend from Taiwan. Speak same language as you. Go to see him.”
“โอ้ว..ดีเลย..มีเพื่อนคนนึงมาจากไต้หวัน พูดภาษาเดียวกับคุณด้วย ไปหาเขาสิ”
ผมไม่ได้ตอบเพื่อนผู้หวังดีคนนั้นว่าอย่างไร
เพราะกำลังเกิดอาการงงในงง ไปอีกชั้นหนึ่ง
ตกลง Thailand กู ก็คือ Taiwan มึง ตามนี้สินะ !!
แล้วขาผม ก็พาเดินมาที่เตียง 307 โดยไม่รู้ตัว เห็นไอ้ตี๋ไต้หวันคนนั้น นอนอยู่บนเตียง ดึงผ้าห่มมาอยู่ที่คอ กำลังข่มตาหลับ จะพักผ่อน
“หนีห่าว” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมทักทายด้วยภาษาจีนแมนดารินแบบนั้น !!
“Hello” คือคำตอบจากไอ้ตี๋หนุ่มไต้หวัน
พูดเสร็จ มันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมโปง ปิดหน้าปิดตา
แปลภาษากาย เป็นภาษาพูดว่า กูจะนอน...สัสส...ไม่ต้องมาคุยกะกูเลย !!
เฮ้อ...มึงช่างใจร้าย เย็นชากับเพื่อนร่วมชาติมึงจริง ๆ !!!
@@@@@@@
โปรดติดตามตอนต่อไป ; "Don't Be Serious"
โฆษณา