19 ต.ค. 2019 เวลา 08:27 • การศึกษา
ประวัติศาสตร์ของกาแฟ
เป็นตอนที่หนักมากกกกเพราะแต่ละเว็บ
แต่ละที่ ข้อมูลไม่ค่อยตรงกันเฉ๊ย!จ๊าา! เลยไม่รู้จะเชื่อเว็บไหนแน่ ทั้งเชื้อชาติที่ขโมยต้นอ่อนกาแฟบางที่ก็ว่าดัตช์ บางที่ก็ว่าอินเดีย
จากที่ฟังและอ่านมาหลายแหล่ง อาจจะเอามาปนกัน ตัวเลขปีอาจจะคลาดเคลื่อน
ขออภัย มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ 🙏🏻
ตำนานกาแฟที่คุ้นเคย
และได้ยินบ่อยที่สุด จะเป็นตำนาน 'แพะเต้น'
เป็นเรื่องของคนเลี้ยงแพะชาวเอธิโอเปียชื่อคาลดี ในศตวรรษที่ 9 ที่ไปเจอว่าแพะกินผลไม้สีแดง (กาแฟสุก)แล้วมีความคึกคัก กระปรี้กระเปร่า กระโดดไม่หยุด เลยไปเด็ดชิมบ้าง แล้วก็ทำให้คาลดี ดีดเต้นตามแพะไป 😅
(เอาจริงๆเป็นเรา เราไม่กล้ากินนะกลัวมีพิษ)
ต้นกาแฟก็ไม่มีใครสนใจใยดี จนกระทั่ง..
ชาวอาหรับในเยเมน เอาไปเผยแพร่ในดินแดนอาระเบีย โดยใช้ในการดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาเวลากลางคืน เคี้ยวสดๆหรือชงดื่มให้ไม่ง่วง เวลาผ่านไปสักพัก กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มทางสังคมมากขึ้น มีร้านกาแฟเกิดขึ้นในช่วงนั้น แต่ดันเป็นแหล่งมัวสุม ซุบซิบนินทา และแหล่งการพนัน เลยโดนกวาดล้าง😂
แต่ก็โดนกวาดล้างไม่หมด จนแพร่ไปถึงยุโรป
สมัยนั้นมีการสันนิษฐานว่า ในศตวรรษที่ 15 ผู้นำทางนิกายซูฟีในเมืองท่ามอคคาเป็นผู้คิดค้นการคั่ว การบด และการชงกาแฟ
การชงกาแฟในช่วงนี้จะใส่กาแฟลงไปก่อน เพื่อสร้างกลิ่นที่น่าดึงดูดของกาแฟ (คงเหมือนคั่วอีกรอบ) แล้วตามด้วยน้ำต้มเดือด
สมัยนั้นยังไม่กรองเอากากออก กาแฟที่ได้จะข้น และขม (หยึยยยกินทั้งกาก😱)
หรือที่เรียกการชงแบบนี้ว่า กาแฟตุรกี
กาแฟได้เข้าสู่ยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16
ผ่านทางการค้าขายระหว่างเวนิสกับแอฟริกาเหนือ อียิปต์ และดินแดนในตะวันออกกลาง
แต่ยังไม่แพร่หลาย เพราะผู้คนส่วนมากเคร่งศาสนา มองว่าเป็นเครื่องดื่มของปีศาจ ที่สาปให้มุสลิมดื่มกาแฟในศาสนพิธีแทนไวน์ (ว่าไปโน่น โถ้ๆ)
กระทั่งพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 8
ได้ดื่มและยอมรับกาแฟ ทำให้ผู้คนกล้าดื่มตามอย่างแพร่หลาย
ร้านกาแฟแห่งแรกในยุโรป
ได้เกิดขึ้นในอิตาลีในปี ค.ศ. 1645
ในอังกฤษช่วงประมาณทศวรรษ 1650
และในอัมสเตอร์ดัมทศวรรษ 1660
ร้านกาแฟในยุโรป เปลี่ยนภาพลักษณ์จากแหล่งมั่วสุมเป็นสถานที่สวยงาม
เจ้าของร้านกาแฟในเวียนนา เกออร์ก คอลชิตสกี เปลี่ยนวิธีการชงจากแบบตุรกี โดยการกรองเอากากกาแฟออก ทำให้กาแฟเหลวเป็นน้ำ และเติมน้ำผึ้งกับนมลงไป การเปลี่ยนแปลงการปรุงกาแฟครั้งนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งยุโรปผ่านทางพ่อค้าหลายชาติทั้งพ่อค้าชาวกรีก เลบานอน อาร์เมเนียน และพ่อค้าชาวคริสต์อื่นๆ ทำให้ชาวยุโรปหลายประเทศคิดค้นการปรุงกาแฟขึ้นหลากหลายวิธีทั้งการชง การคั่ว และการผสมกาแฟ เช่น เอสเปรสโซ (Espresso) ซึ่งเป็นกาแฟดำข้นแบบเร่งด่วนตามชื่อ กาแฟที่โรยผิวหน้าด้วยฟองนมอย่างคาปูชิโน (Cappuccino) หรือคาเฟ่ โอ เลต์ (Cafe au lait) ที่เป็นกาแฟใส่นม เป็นต้น
ร้านกาแฟนอกจากเป็นที่ดื่มกาแฟแล้ว ว่ากันว่าคาเฟอีนเป็นตัวขับเคลื่อนยุคเรเนสซองส์เลยทีเดียว
เพราะก่อนนี้ ผู้คนจะดื่มแอกอฮอร์ตั้งแต่ตื่นนอน สายๆก็ดื่ม ดื่มแม้กระทั่งพร้อมกับมื้ออาหาร ด้วยเพราะยุคนั้นน้ำสะอาดหายาก หากดื่มน้ำในแม่น้ำ ก็จะมีโรคอหิวา,โรคบิด มีเชื้อโรคเจือปน ผู้คนเอาแต่เมาตลอดเวลา พอมีกาแฟเข้ามา มันก็แทนที่แอกอฮอร์อย่างช้าๆ
กาแฟกลายเป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรม และสะท้อนอยู่ใน วรรณกรรม บทกวี คาเฟ่แพร่หลายมากขึ้นก็เป็นที่รวมตัวของกวี นักวิทยาศาสตร์ จึงเกิดร้านกาแฟเฉพาะวงการขึ้น แม้แต่คอลัมน์ข่าวสารต่างๆ ยังมีที่มาจากร้านกาแฟ
เป็นเวลากว่า 200ปี ที่ชนชาติอาหรับผูกขาดการขายกาแฟ
เพราะเมื่อกาแฟแพร่หลายในยุโรป
ชาวอาหรับก็ส่งกาแฟในแบบ คั่ว ไปขายให้เท่านั้น
เพื่อที่ตัวเองจะผูกขาดการขาย แม้แต่ชาวต่างชาติในประเทศก็ไม่ให้ทราบถึงแหล่งปลูก (พ่อคู๊ณ!หวงอะไรขนาดนั้น)
และเพราะความต้องการกาแฟที่มากขึ้น เหตุนี้ ทำให้กาแฟอาหรับมีราคาสูงขึ้น
จนเมื่อปี 1616 มีชาวดัตช์ คนนึงขโมยต้นอ่อนกาแฟ(บางที่ก็ว่าเมล็ดกาแฟ)
เอามาปลูกที่เรือนกระจกในดัตช์จนสำเร็จ
และแพร่หลายไปยังหมู่เกาะชวา,เกาะซีลอน
ปี 1714 ชาวดัตช์มอบต้นกาแฟให้พระเจ้าหลุยส์ที่14 ของฝรั่งเศษ
9ปี ต่อมานายทหารเรือ กาเบรียล แมธธิว เดอคิว นำต้นกล้า6ต้นจากวังของพระเจ้าหลุยส์ที่14 ขึ้นเรือไปทวีปอเมริกา ระหว่างเดินเรือ เขาสละน้ำจืดของตัวเองให้เจ้าต้นกล้ากาแฟ แต่มันก็ตายลง จนเหลือเพียงต้นเดียว มาปลูกที่เมืองท่ามาตีนิก เกาะแครีบเบียน
ว่ากันว่า จากเจ้าต้นกล้าต้นเดียวนั้น แพร่พันธุ์กาแฟไปยังบลาซิล ,ฮาวาย ต่อๆไปอีกเป็นแสน เป็นล้านต้นในปัจจุบันเลยค่ะ
พอก่อนนะคะกับประวัติศาสตร์กาแฟ
เดี๋ยวมีมาต่อในยุคอุตสาหกรรมกาแฟหลังจากนั้น
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บ
และ
ถ้าชอบเรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟ กดติดตามเป็นกำลังใจ และคอมเม้นต์คุยกันนะคะ❤
โฆษณา