19 ต.ค. 2019 เวลา 12:09 • บันเทิง
รีวิว Liam Gallagher: As It Was
หากเอ่ยถึงวงร็อก Oasis ในยุคนี้ เด็กรุ่นใหม่หลายคนคงไม่รู้จัก แต่หากเอ่ยชื่อของ "เลียม กัลลาเกอร์" ชื่อนี้พวกเขาคงรู้จักกันดี และใน Liam Gallagher: As It Was หรือในชื่อไทย เลียม กัลลาเกอร์ ตัวตนไม่เคยเปลี่ยน คือหนังที่เล่าเรื่องราวของเขา โดยเริ่มต้นจากวันที่ไม่มีชื่อของ Oasis ตำนานวงร็อกจากอังกฤษยุค 90 ที่โด่งดังสุด ๆ ในยุคนั้น อีกต่อไป...
Liam Gallagher: As It Was เริ่มต้นในจุดสิ้นสุดของ Oasis วงร็อกที่โด่งดังที่สุดวงหนึ่งของโลกนี้ เมื่อ เลียม และ โนล ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อปี 2009 การทำงานคู่กันมาหลายสิบปีต้องสิ้นสุดลง พร้อมกับความเป็นพี่น้องที่แตกสลาย นั่นทำให้เส้นทางชีวิตของ "เลียม" ที่กำลังขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด ค่อย ๆ ลาดเทและตกต่ำลงเรื่อย ๆ
จากศิลปินฝีปากร้าย อีโก้จัด กลับไม่อาจอยู่ในสถานะที่เขาจะต่อรอง หรือสามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจอีกต่อไป ไร้เพลง ไร้งาน ถูกฟ้องหย่า และการถูกสื่อเล่นงานอยู่ตลอด แม้จะยังจับงานเพลง สร้างวงใหม่ (Beady Eye) เพื่อพลิกฟื้นตัวเองขึ้นมาใหม่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
ก็ตามชื่อเรื่องเลย หนังเน้นไปที่ชีวิตของ เลียม กัลลาเกอร์ ที่อยู่ในช่วงกราฟชีวิตดำดิ่งที่สุด หลังจาก Oasis วงแตก โดยตัดสลับไปมาระหว่างภาพอดีตในยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำ เดินเรื่องราวด้วยบทสนทนาของเลียมและสมาชิกรอบตัวเขา ว่าเขาเผชิญกับอะไร และหาทางออกของปัญหาอย่างไร พร้อมการติดตามชีวิตของเลียม ที่ทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของร็อกสตาร์ในมุมที่ไม่ต่างจากคนทั่วไป
ว่ากันตรง ๆ ในมุมของหนังสารคดีที่เจาะลึกเกี่ยวกับชีวิต ที่ว่าด้วยเรื่องของการตกต่ำและการกลับมาใหม่ หนังไม่ได้นำเสนอออกในด้านดำดิ่งมืดหม่นอย่างที่คิด ปัญหาของชีวิตเลียมก็เป็นเหมือนช่วงชีวิตที่ตกร่องและดูเป็นปัญหาทั่วไปของศิลปินที่เคยโด่งดังสุดขีดมาก่อนต้องเผชิญ หากยังคิดจะกลับมาเดินบนเส้นทางเดิมที่เคยรุ่งเรืองอีกครั้ง เพราะไม่ใช่เพียงแค่ต้องสร้างงานที่ดีออกมา แต่ยังรวมไปถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงทั้งคนและสังคม
แม้หนังจะไม่ได้ลึกซึ้งหรือมีนัยยะให้พลังแรงใจอะไร แต่หนังก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าการมีผู้คนแวดล้อมที่ดี และเชื่อมั่นในตัวเรา มันเป็นเรื่องที่วิเศษขนาดไหน คู่ชีวิต ครอบครัว เพื่อน เป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้ชีวิตของเลียมค่อย ๆ พลิกฟื้นขึ้น และมีแรงบันดาลใจในการสู้ต่อบนเส้นทางดนตรี ก้านข้ามคำว่า Oasis และโนม กัลลาเกอร์ พี่ชายของเขา จนกลับมาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับอีกครั้ง
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งในหนัง คือการที่ศิลปินดังในยุคหนึ่งกลับมามีบทบาทและได้รับการยอมรับจากนักฟังเพลงรุ่นใหม่ ว่าเขาทำได้อย่างไร นอกจากความสามารถทางด้านดนตรี สิ่งที่สังเกตได้ตลอดทางคือการทุ่มเท ความตั้งใจ ซื่อตรงกับความฝัน และการใช้พลังความสามารถในด้านการร้องเพลงมาช่วยปลุกและส่งพลังแรงใจให้กับสังคม ในยามที่สังคมต้องการมากที่สุด ซึ่งในหนังก็ไม่ได้ถ่ายทอดตรงนี้อย่างชัดเจนนัก แต่ค่อย ๆ เล่าเรื่องราวไต่ระดับและปล่อยให้คนดูซึมซับกันไปเอง
ชื่อหนัง As It Was เป็นชื่อเหมาะสมกับชีวิตของเลียมในตอนนี้ ที่แสดงให้เห็นในหนังว่าแม้หลาย ๆ อย่างจะเปลี่ยนไป แต่ความมุ่งมั่นทางดนตรีของเลียมยังเหมือนเดิม จะว่าไปแล้วชื่อหนังแอบล้อไปกับอัลบั้ม As You Were ที่ถือเป็นอัลบั้มที่สร้างให้ชื่อของ เลียม กัลลาเกอร์ กลับมาชื่ออีกครั้งบนวงการดนตรีโลก ซึ่งอัลบั้มได้เป็นหนึ่งใน 50 อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 ของ Rolling Stone และเป็นหนึ่งในอัลบั้มแห่งปีของ NME Awards
โดยสรุป Liam Gallagher: As It Was เป็นหนังสารคดีชีวิตคนดนตรีที่ดูง่ายและสนุกกว่าที่คิด แม้หนังจะไม่ได้ลึกแต่ก็ทำให้เรารู้จักเลียมมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงแง่งามต่าง ๆ ที่มีในหนังที่ทำให้เราได้ฉุกคิดและมองย้อนกลับมาดูชีวิตของตัวเอง ใครที่ชอบเพลงร็อกหรือหนังสารคดีก็สามารถตีตั๋วไปดูได้อย่างสบาย ๆ
แต่แน่นอนว่าความอินกับตัวบุคคลและเรื่องราวจะมีมากเป็นพิเศษ ก็เฉพาะเจาะจงกับแฟน ๆ ของเลียมหรือแฟน Oasis เท่านั้น
โฆษณา