19 ต.ค. 2019 เวลา 20:04 • การศึกษา
Do what you can, with what you have, where you are
จงทำสิ่งที่คุณทำได้ ด้วยสิ่งที่มี ณ ที่ที่คุณอยู่ในขณะนี้
あなたにできることをしなさい。今あるもので、今いる場所で。
ข้อความในส่วนเริ่มต้นนี้ เป็นคำกล่าวของธีโอดอร์ รูสเวลต์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 26 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผมเพิ่งเคยได้ยิน หรืออาจจะได้ยินและตั้งใจฟังผ่านรายการใน podcast รายการหนึ่งเข้าพอดี
ในยุคที่เราถูกรายล้อมด้วยการอ้าง Quote พร้อมรูปภาพบุคคลต่างๆ เต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งมีทั้งของจริงและของเก๊มาสร้างความสับสนกันเรื่อยไปจนเราเลือกไม่ถูกว่าควรนำคำพูดใครมาใช้อ้างถึงเพื่อการไหนดีนั้น ข้อความนี้ก็นับเป็นข้อความที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งใน Quote ที่มักถูกนำมาใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน
และเมื่อผมได้ยินและตั้งใจฟังความหมายดูดีๆ แล้ว ก็ได้พบว่า แรงกระตุ้นเบาๆ ได้ถูกสร้างขึ้นในความรู้สึกของตัวเองด้วยแล้วเช่นกัน
ถ้าให้แปลสรุปสั้นๆ สำหรับคำกล่าวนี้ก็มีเพียงว่า “ทำซะ อย่าอ้าง” ทำนองนั้นละมั้งนะ
นอกเหนือจากคำกล่าวของรูสเวลต์นี้แล้ว ผมเองก็มีโอกาสได้ฟัง(อีกละ)ผ่านหูบ่อยๆ อยู่เหมือนกันว่า จะทำการอันใด ไม่ต้องรอให้มันพร้อมสรรพไปเสียทุกสิ่ง อย่ากลัวว่าขาดนั่น ขาดนี่ ตัวเองยังไม่มีความสามารถหรือประสบการณ์มากพอ กลัวทำแล้วมันจะออกมาไม่ดี มันจะพลาด มันจะอายคน ฯลฯ
สุดท้ายก็กลายเป็นว่า เราจะได้แต่วาดหวังรอความสมบูรณ์แบบที่จะไม่มีวันเกิดขึ้นจริง พร้อมกับเวลาในชีวิตของเราที่จะล่วงเลยไปเรื่อยๆ ในแต่ละคืนวัน
จนสุดท้ายในชีพจรของชีวิต เราก็อาจจะนึกขึ้นมาก็ได้ว่า ถ้ารู้ว่ารอเท่าไหร่ก็ไม่มีวันพร้อมอย่างนี้ สู้ทำเสียตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วก็ดีหรอก...
จะบอกว่า ส่วนหนึ่งของการที่ต้องมานั่งจิ้มแป้นปุ่มคีย์บอร์ดอยู่ในตอนนี้ ก็มาจากความเห็นด้วยกับคำพูดนี้นั่นเอง
ขอยกตัวอย่างการตัดสินใจทำเพจนี้ก็แล้วกันครับ
เนื่องจากการจะเขียนเพจ การบันทึก ในเรื่องต่างๆ มิหนำซ้ำยังจะมีกระทั่งการนำภาษาญี่ปุ่นมาใช้ในการหัดแปลหัดเขียนทั้งๆ ที่ตัวเองพอรู้มาบ้างเพียงแค่ตื้นๆ นั้น ทำให้เกิดความลังเล ไม่กล้า ที่จะทำตัวเป็นเหมือนคนใช้ภาษาญี่ปุ่นในที่แจ้งอันเป็นสาธารณะ และเลือกที่จะเก็บความอยากเขียน อยากฝึก ของตัวเองเอาไว้ในใจ แม้จะพิมพ์จะเขียนอะไรเก็บไว้ก็ยังไม่เคยเริ่มสักที
เราเขียนแบบนี้มันถูกต้องรึเปล่า?
คนอื่นมาเห็นจะบอกว่าทำไมเรากล้าเขียนออกมาได้ เขียนอะไรก็อ่านไม่รู้เรื่อง แปลก็ผิดเต็มไปหมดไหม?
คนอื่นที่เขาเก่งๆ ก็มีเยอะแยะ เราก็ควรอยู่เงียบๆ ไป จะออกมามีตัวตนให้อายคนไปทำไม เกิดเขามาอ่านเจอก็ขายหน้าเขาอีก
ฯลฯ
ความวิตกจริตต่างๆ นี้อยู่ในใจผมอย่างสนิทสนมกันมานานพอสมควร
เมื่อผมเชื่อเพื่อนสนิทคนนี้ ไม่คิดจะเขียนอะไรให้มากไปจากจุดที่หลบซ่อนอยู่
...สำเร็จ! ผมสามารถหลบจากความอับอาย เสียหน้า ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่มีใครรู้ว่าผมมีทักษะทางการเขียน ทักษะทางภาษาที่แย่แค่ไหน ผมไม่ต้องกลัวใครมาตำหนิ ชี้ข้อผิดว่าตัวเองบกพร่องหรือรู้อะไรมาผิดๆ นำอะไรมาใช้อย่างผิดๆ ตรงไหนอย่างไรบ้าง
ไม่มีใครรู้ว่าถ้าผมทำเพจและรินำภาษาญี่ปุ่นมาใช้ ผมจะทำมันออกมาได้แย่แค่ไหน
...ไม่มีใครรู้...
...ใช่ ไม่มีใครรู้...
...ไม่มีใครรู้ว่าผมทำได้แย่แค่ไหน...
...เท่าๆ กับที่ผมเองก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ว่ามันจะออกมาแย่แค่ไหน แย่เท่าที่คิด แย่กว่าที่คิด หรือไม่แย่อย่างที่คิด...
และอีกมุมหนึ่ง
ผมก็จะไม่ได้รู้ ว่าถ้าทำออกมาแล้ว หากมันจะออกมาดีกว่าที่คิด มันจะดีได้สักแค่ไหน
หากเรายอมรับความผิดพลาดที่คนอื่นพบและช่วยบอก เราจะขัดเกลา ฝึกฝน ลดข้อผิดพลาด หรือความรู้ที่เราใช้ผิดๆ มาตลอดได้สักเพียงใด
ทั้งเรื่องการทำเพจ การเขียน การฝึกภาษา รวมถึงทุกเรื่องที่เรายังไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
...สุดท้ายถ้าเราเลือกที่จะเริ่มต้นแบบไม่สมประกอบ ไม่สมบูรณ์แบบ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเรา เมื่อเรามองดูตัวเองตอนนั้น เราก็อาจจะได้เห็นว่า เรื่องที่เราตัดสินใจลงมือทำไปในอดีต สุดท้ายแล้วเราเติมเต็มความไม่สมประกอบ ขัดเกลา ตกแต่ง ให้มันพัฒนา เติบโต ได้งดงามและน่าภูมิใจขนาดไหน
แน่นอนว่าเรื่องบางเรื่องเราก็อาจจะรู้สึกว่า...รู้งี้ไม่น่าทำซะแต่แรกก็ดี
แต่ผมเชื่อว่า ชีวิตคนเรา เราไม่ค่อยกล้าหรือตัดสินใจลงมือทำอะไร มากเท่ากับที่กล้าหรือตัดสินใจจะไม่ลงมือทำ
เพราะฉะนั้น โอกาสที่เราจะมาคิดในภายหลังว่า...รู้งี้ลงมือทำตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้ ก็ดีหรอก...นั้นน่าจะมีมากกว่ามาก
เพราะฉะนั้น เรามาค่อยๆ ลดเรื่องราวที่จะทำให้เราต้องเสียใจ เสียดายภายหลังพวกนี้กันเถอะ
ด้วยการยอมรับในสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น บริบทที่เราอยู่
เพื่อค่อยๆ ให้ตัวเราได้ทำในสิ่งที่อยากทำ หรือคิดว่าควรจะลงมือทำ แม้ว่ามันจะไม่ราบรื่น แต่อย่างน้อยมันก็เริ่มเปิดรับโอกาสแห่งการเติบโต พัฒนา และจะไม่เป็นเมล็ดแห่งความปรารถนาที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในใจจนมันแห้งตายไปเงียบๆ พร้อมกับชีวิตเรา
เพจ A3 จึงออกมามีตัวตนปรากฏออกมาได้ด้วยเหตุที่ว่ามานี้เองครับ
และเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับพลังที่ช่วยเป็นแรงใจ ให้ตัดสินใจในวันที่ผ่านมาจนกลายมาเป็นเพจ A3 ในตอนนี้ รวมถึงที่จะเป็นเพื่อนที่เตือนสติ ช่วยกำจัดข้ออ้างต่างๆ จะออกมาในวันต่อๆ ไป และช่วยให้กล้าตัดสินใจทำในเรื่องต่อๆ ไป ให้ตัวเรามีโอกาสฝึกฝนและปรับปรุงตัวเองยิ่งขึ้น
โพสนี้จึงจะขอเริ่มต้นและจบลงด้วยข้อความสำคัญนี้ครับ
あなたにできることをしなさい。今あるもので、今いる場所で。
Do what you can, with what you have, where you are
จงทำสิ่งที่คุณทำได้ ด้วยสิ่งที่มี ณ ที่ที่คุณอยู่ในขณะนี้
ปล. ด้วยเหตุว่าที่ที่ผมอยู่ขณะนี้เป็นเวลาเกือบตีสาม โพสนี้จึงจะไม่มีคำแปลภาษาญี่ปุ่น (สองโพสติดละนะ) ต่อท้าย ครั้งหน้าถ้าโพสภาษาไทยสั้นน่ารักน่าชังกว่านี้ จะกลับมาฝึกแปลภาษาญี่ปุ่นไว้ด้วยแน่นอนครับ
...ไม่ได้อ้างนะ จริงจริ๊ง...
โฆษณา