22 ต.ค. 2019 เวลา 01:00 • การศึกษา
การแปรรูปเมล็ดกาแฟ (PROCESS)
วิธีแปรรูปหลังเก็บเกี่ยว ส่งผลต่อรสชาติกาแฟในแก้วอย่างชัดเจน
ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนสำคัญในคำอธิบายกาแฟ และใช้ในการขายกาแฟด้วย
เราจะไม่บอกว่าวิธีไหนดีเยี่ยมที่สุดน๊า เพราะสุดท้ายแล้ว รสนิยมความชอบของคนดื่มต่างกัน รสที่อร่อยที่สุดคงจะเป็นรสที่เราชอบนั้นเอง เพราะฉะนั้นหากคนดื่มรู้ว่า แต่ละโพรเสจเด่นในการชูรสชาติ แบบไหน จะได้เลือกซื้อในแบบที่ตัวเองชอบ
หรือสนทนากับบาริสต้าได้ออกรสยิ่งขึ้น :)
สิ่งหนึ่งที่สำคัญของการแปรรูปคือลด Defect
ในผลผลิตให้น้อยที่สุด เดี๋ยวมาเล่าทีหลังนะคะ
ว่ามันเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง❤
การโพรเสจหลักๆเลย มี 3 แบบค่ะ
Cr : Chacream Cafe
การแปรรูปแบบแห้ง (Dry/Natural Process)
เป็นวิธีแปรรูปยุคแร๊กแรกดั้งเดิมสุดๆ
คือเก็บกาแฟมาตากเลยทั้งเปลือก
คอยเกลี่ยให้เมล็ดแห้งเสมอกัน ไม่งันเมล็ดจะเน่า หรือมีเชื้อรา นิยมมากในแถบทวีปแอฟริกา,อเมริกาใต้ เพราะโซนนู่นมีการใช้น้ำจำกัด
เก็บมาตากเลย
วิธีนี้จะคงคาแร็คเตอร์รสชาติของกาแฟไว้ได้มาก จึงเหมาะกับนำเสนอความหลากหลายของรสชาติของกาแฟ ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่ง
Cr : The Cloud / process โดย Sopa’s Estate บ้านอมก๋อย
หลายคนในวงการกาแฟเริ่มนิยมการตากกาแฟแบบ Dry Process เพราะเมื่อนำมาดริปจะได้รสของผลไม้
จากประสบการณ์ของเรา เคยเจอ ความเปรี้ยวในแบบเสาวรสอ่อนๆ หรือแอปเปิ้ลฉ่ำๆสดชื่นค่ะ
การแปรรูปแบบเปียก(Wet / Washed Process)
Cr : Chacream Cafe
วิธีนี้เริ่มจากเอาเชอร์รี่กาแฟไปแช่น้ำคัดแยกเอาแต่ลูกที่จมน้ำ มาปอก (ลูกที่ลอยคือฝ่อ เสีย ไม่สุก) แล้วเอาไปแช่น้ำสะอาด หมักไว้ ระยะเวลาขึ้นกับอุณหภูมิ ความสูงของน้ำ การหมักทำให้เมือกเนื้อกาแฟหลุดออก จากนั้นนำมาล้างน้ำสะอาดอีกที
(โอ้โหจะเปลืองน้ำไปไหน)
ผู้ผลิตบางรายยังนำไปเข้าเครื่องขัดเมือกอีกทีด้วย ก่อนจะนำกาแฟกะลา ไปตาก
นำไปคัดแยกเลือกลูกที่จมน้ำ ลูกที่ลอยน้ำคือผลฝ่อ แมลงเจาะ หรือไม่สุก นั้นเองจ้า
Cr : The Cloud /process โดย Sopa's Estate บ้านอมก๋อย
หลายคนเชื่อว่า กาแฟที่แปรรูปแบบ Wet Process เป็นกาแฟที่ให้รสชาติที่สะอาด (Clean) และมีความรู้สึกชุ่มฉ่ำจากกรดผลไม้ (Acidity) หรือที่จะพูดให้ผู้ดื่มนึกออกก็คือ มีความเปรี้ยวในแบบของกาแฟ มากกว่ากาแฟที่แปรรูปด้วยวิธีการอื่น
แบบกึ่งแห้งกึ่งเปียก(Pulped-natural Process)
Cr : Chacream Cafe
นำเชอร์รี่กาแฟไปแช่น้ำคัดแยกลูกที่เสียออก เก็บลูกที่จมน้ำไปปอกเปลือก จะได้กาแฟกะลาที่ยังมีเมือกเนื้อกาแฟติดอยู่ นำไปตาก กะลาที่แห้งดีแล้ว จึงนำไปสี เพื่อที่จะได้ 'กาแฟสาร'หรือจะเรียกกาแฟดิบก็ได้ 🤭
การแปรรูปแบบนี้ ให้ความสำคัญกับเมือกที่ติดอยู่กับกะลาระหว่างตาก เพราะเมือกมีรสหวานตามธรรมชาติ จะช่วยให้เมล็ดกาแฟมีรสหวานเพิ่มขึ้น
Honey Process ก็ใช้วิธีเดียวกันกับ Pulped-natural
ต้องเข้าใจก่อนว่า Honey ในบริบทนี้ หมายถึง เมือกของผลไม้ (Fruit Mucilage) เป็นคำแปลของคำว่า ‘Miel’ ในภาษาสเปน
โดยการแปรรูปที่เรียกว่า Honey Process นั้น หลักๆ ก็คือการปอกเปลือก ซึ่งเครื่องจักรยุคนี้ทันสมัย สามารถกำหนดได้ว่าจะให้เมือกติดอยู่กี่เปอร์เซ็น เช่น 80% Honey หรือ 50%
จริงๆมีอีกหลายวิธีเลยค่ะ
แต่เราเองยังไม่เชี่ยวชาญในด้านนี้ ถ้ามีอะไรน่าสนใจจะเก็บมาเล่าใหม่ ดีกว่าเนอะ 🤭
ถ้าชอบเรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟ กดติดตามเป็นกำลังใจ และคอมเม้นต์คุยกันนะคะ❤
โฆษณา