21 ต.ค. 2019 เวลา 03:22
คนสองคนทำบุญด้วยเงินจำนวนไม่เท่ากัน
จะได้บุญเท่ากันหรือไม่ ถ้าเขาได้รับความสุขใจเหมือนกัน
.
คนที่ทำบุญด้วยกัน จะมีเงินมากเงินน้อย ถ้าคนมีมากนั้นเขาทำ แต่เขาเฉยๆ เขาไม่ได้คิดถึงบุญอะไร ส่วนคนที่มีเงินน้อยเขาทำ เขาปลื้มใจของเขา เขาจะมีความสุขมากกว่า ตรงที่ทำจิตใจให้มีความสุข มันได้บุญมากกว่า เหมือนกับคนที่มีเงินแล้วเขาโยนๆ ให้ เฉยๆ ไม่เคารพกองบุญของตัวเอง
.
เหตุฉะนั้น การทำบุญต้องพร้อม มีศรัทธา มีเจตนาที่ดี ทำจิตใจให้มีความสุขอิ่มเอิบในบุญในกุศล เคารพกองบุญของตนเองด้วย บุญนั้นก็จะได้มาก พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้อย่างนี้ เมื่อคนที่จนเขาทำอย่างนั้น ในชาติต่อไป พลังของความสุข พลังของบุญก็มีมากขึ้นกว่าปกติ ก็คือความสุขนั่นเอง เพราะว่าบุญคือความสุขใจ และท่านยังแบ่งไว้ ๓ อย่าง
.
๑.ทาสทาน ของกินที่จะทิ้งเข้าป่าแล้ว จึงเอาไปให้คนอื่น เป็นของต่ำ
๒.สหายทาน มีอะไรในบ้านเรา หรืออยู่ในหอพักของเรา เพื่อนไปหาก็ให้กินอันนี้แหละ มีแค่นี้แหละ เราก็กินอันนี้ เพื่อนก็กินอันนี้ เรียกว่าสหายทาน มันได้บุญขึ้นตามลำดับ
๓.สามีทาน คือของที่เราซื้อมายังไม่ได้กิน ให้เพื่อนกินก่อน เราค่อยกินทีหลัง อันนั้นเป็นยอดทาน ของนั้นเป็นของไม่แพง แต่เป็นยอดของทาน เพราะเราให้เพื่อนกินก่อน เครื่องนุ่งห่มก็เหมือนกัน สมมุติว่าได้ผ้ามาไม้หนึ่ง จะเอาไปทำบุญกับพระ หรือว่าจะให้เพื่อนไปตัดเสื้อตัดกางเกงก่อน แล้วเราค่อยเอาผ้าที่เหลือมาตัดทีหลัง ตัดชุดที่เท่ากัน แต่เราเสียสละให้ก่อน อันนี้เป็นยอดความดีในการบริจาคทาน
.
ถ้าเป็นเพื่อนกัน คนทำมากทำน้อย ถ้าบอกบุญด้วยกัน จะได้เท่ากันนะ เหมือนที่นั่งอยู่หมดทุกคนนี้ คนหนึ่งทำบุญสาธุพร้อมกัน อนุโมทนา เอาคนล่ะห้าสิบสตางค์แล้วมารวมๆ กันอนุโมทนาได้ด้วยกัน ก็จะได้บุญเท่ากัน
.
แต่บางคนเขาบอกว่าทำมากได้มาก ไม่อธิบายเรื่องความพอใจหรือไม่พอใจ อย่างให้มากๆ แต่ให้ส่งเดชอย่างนี้ หรือว่าโยนให้เลย ไม่เคารพกองบุญของตน บุญจะไม่ได้มาก เพราะไม่เคารพในกองบุญของตนเอง
.
#ที่มา ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะ
พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป
โฆษณา